เอเอ็มดีปลื้มยอดขายทั่วโลกพุ่ง 30%

กรุงเทพฯ – 13 ตุลาคม 2547 – เอเอ็มดี (NYSE: AMD) ปลื้มผลประกอบการไตรมาสสามพุ่ง 30% โดยสามารถทำยอดรวมได้ 954 ล้านดอลลาร์ เผยเป็นผลจากความต้องการของผลิตภัณฑ์ในกลุ่มซีพีจีพุ่ง โดยเฉพาะโพรเซสเซอร์ AMD64 ขณะเดียวกันมาจากความสำเร็จในการปรับเปลี่ยนเทคโนโลยีการผลิตไปเป็นเทคโนโลยี 110 นาโนเมตร และการบริหารต้นทุนที่มีประสิทธิภาพ

มร.โรเบิร์ต เจ ไรเว็ต ประธานฝ่ายการเงิน บริษัทเอเอ็มดี เปิดเผยถึงผลการดำเนินงานในช่วงไตรมาส ที่สามที่ผ่านมาว่า บริษัทสามารถขยายยอดจำหน่ายทั่วโลกได้ทั้งสิ้น 954 ล้านดอลลาร์ หรือคิดเป็นอัตราที่เพิ่มขึ้น 30% เมื่อเปรียบเทียบกับไตรมาสเดียวกันของปีที่ผ่านมา ทว่ามียอดจำหน่ายลดลง 2% เมื่อเปรียบเทียบกับไตรมาสที่สองของปีนี้ซึ่งสามารถทำได้ 1.262 พันล้านดอลลาร์ จากผลการดำเนินงานดังกล่าวทำให้บริษัทอยู่ในสถานะขาดทุนสุทธิ 31 ล้านดอลลาร์ หรือคิดเป็น 0.09 ดอลลาร์ต่อหุ้น

“ปัจจัยบวกที่ส่งผลให้กำไรสุทธิในไตรมาส 3 เพิ่มขึ้นสืบเนื่องมาจากการขยายตัวของยอดขายกลุ่มสินค้าคอมพิวติ้ง หรือซีพีจี (Computation Products Group) และกำไรขั้นต้นที่เพิ่มขึ้นในกลุ่มผลิตภัณฑ์ประเภทหน่วยความจำ” มร.ไรเว็ตกล่าว และว่ายอดจำหน่ายของโพรเซสเซอร์ AMD64 มีสัดส่วนที่ใหญ่กว่า 1 ใน 3 ของยอดขายซีพีจีโดยรวม โดยเป็นผลจากราคาเฉลี่ย หรือเอเอสพี (Average Selling Price; ASP) และปริมาณที่สูงขึ้น

อย่างไรก็ตาม ความสำเร็จในการปรับเปลี่ยนเทคโนโลยีการผลิตไปเป็นเทคโนโลยี 110 นาโนเมตร และการบริหารต้นทุนที่มีประสิทธิภาพ ยังเป็นปัจจัยสำคัญที่ยังผลให้บริษัทสามารถทำผลกำไรในกลุ่มผลิตภัณฑ์หน่วยความจำได้ดีกว่าไตรมาสที่ผ่านมาแม้ว่าจะมียอดจำหน่ายโดยรวมได้ต่ำกว่าเป้ามายที่วางไว้ในตลาดโทรศัพท์เคลื่อนที่

ภาพรวมธุรกิจ

กำไรจากการดำเนินงานในไตรมาส 3 ปี 2547 อยู่ที่ 68 ล้านดอลลาร์ เทียบกับขาดทุน 30 ล้านดอลลาร์ในไตรมาส 3 ปี 2546 และลดลงจาก 72 ล้านดอลลาร์ในไตรมาส 2 ปี 2547 อัตรากำไรขั้นต้นในไตรมาส 3 เพิ่มขึ้นเป็น 40% จาก 38% ในไตรมาส 2 ซึ่งได้รับปัจจัยบวกจากยอดขายโพรเซสเซอร์และการปรับเปลี่ยนเทคโนโลยีการผลิตที่เป็นไปอย่างราบรื่นในทั้งสองกลุ่มธุรกิจ

ยอดขายกลุ่มสินค้าคอมพิวติ้งอยู่ที่ 673 ล้านดอลลาร์ในไตรมาส 3 ปี 2547 เพิ่มขึ้น 34% จาก 503 ล้านดอลลาร์ของไตรมาส 3 ปี 2546 และเพิ่มขึ้น 21% จาก 554 ล้านดอลลาร์ของไตรมาส 2 ปี 2547 กลุ่มสินค้าคอมพิวติ้งมีกำไรจากการดำเนินงาน 89 ล้านดอลลาร์ในไตรมาส 3 เพิ่มขึ้นจาก 58 ล้านในไตรมาส 2 ปี 2547

การเพิ่มขึ้นของความสามารถในการทำกำไรและราคาเฉลี่ยของกลุ่มซีพีจี เป็นผลจากยอดขายที่เพิ่มขึ้นของสินค้าโพรเซสเซอร์ในตลาดโลก โดยเฉพาะโพรเซสเซอร์ AMD64 ที่เพิ่มขึ้นเกือบ 2 เท่าจากไตรมาสก่อนหน้า นอกจากนั้นความสำเร็จในการเปิดตัว AMD Sempron ในไตรมาส 3 ก็ช่วยเพิ่มยอดขายให้กลุ่มซีพีจีได้ไม่น้อย โดยเฉพาะในประเทศจีน ส่วนโพรเซสเซอร์ AMD Athlon 64 ที่ผลิตด้วยเทคโนโลยี 90nm ก็เริ่มทำตลาดในไตรมาส 3 เช่นกัน

ยอดขายกลุ่มเมมโมรี่อยู่ที่ 538 ในไตรมาส 3 ปี 2547 เพิ่มขึ้น 27% จาก 424 ล้านดอลลาร์ของไตรมาส 3 ปี 2546 และลดลง 20% จาก 673 ล้านดอลลาร์ของไตรมาส 2 ปี 2547 กลุ่มเมมโมรี่ทำกำไรจากการดำเนินงานได้ 15 ล้านดอลลาร์ ลดลงจาก 45 ล้านดอลลาร์ในไตรมาส 2 ปี 2547 ความสำเร็จของกลุ่มเมมโมรี่มาจากการปรับเปลี่ยนเทคโนโลยีการผลิตไปเป็น 110nm สำหรับการผลิตแฟลชเมมโมรี่ชนิด NOR Flash และการเพิ่มขึ้นของยอดขายแฟลชเมมโมรี่ที่ใช้เทคโนโลยี MirrorBit

ยอดขายแฟลชเมมโมรี่ในตลาดเอ็มเบดเด็ด (Embedded) คงที่ ส่วนยอดขายในตลาดโทรศัพท์เคลื่อนที่หดตัว อันเป็นผลจากราคาเฉลี่ยที่ลดลง

เหตุการณ์เด่นๆ ในไตรมาส 3

o 25% ของบริษัทใน Fortune Global 100 เลือกใช้ระบบ AMD Opteron องค์กรเหล่านี้ได้แก่ ผู้นำในกลุ่มแบงก์, ประกันภัย, เภสัชกรรม, การผลิต, พลังงาน และสื่อสาร

o ลูกค้าใหม่สำหรับเซิร์ฟเวอร์ที่ใช้ AMD Opteron ได้แก่ AOL, Merrill Lynch, Bell Helicopter, Sabre Holdings, BNP Paribas, E! Networks, Fox Sports และ Agere Systems

o ระบบ AMD Opteron ได้รับความไว้วางใจจาก JAK Films ให้เป็นผู้อยู่เบื้องหลังภาพยนตร์เรื่อง Star Wars Episode III: Revenge of the Sith ในการทำพรี-วิชวลไลเซชั่น และพรี-โพสต์ โปรดักชั่น

o เอเอ็มดีโชว์ระบบ x86 Dual-Core ที่ผลิตด้วยเทคโนโลยี 90nm เป็นครั้งแรก โดยได้รับการสนับสนุนอย่างดีจาก เอชพี ไอบีเอ็ม และซันไมโครซิสเต็มส์

o ในฐานะผู้ให้การสนับสนุนอย่างเป็นทางการของ สคูเดอเรียเฟอร์รารี ทีมแข่งรถฟอร์มูล่า 1 และ ยูเอสพีเอสโปรไซคลิงทีม ทีมแข่งจักรยาน ทำให้เอเอ็มดีกลายเป็นส่วนหนึ่งของประวัติศาสตร์สำคัญ หนึ่งคือการครองตำแหน่งผู้ผลิตยอดเยี่ยม เป็นครั้งที่ 14 ของทีมเฟอร์รารี สองคือ ครองตำแหน่งนักแข่งยอดเยี่ยม ของมร.ไมเคิล ชูมัคเกอร์ นักแข่งฟอร์มูล่า 1 ของทีมเฟอร์รารี และสามคือ ครองแชมป์สมัยที่ 6 ของมร.แลนซ์ อาร์มสตรอง ในการแข่งขันจักรยานรายการตูร์เดอฟรองซ์

o เอเอ็มดีเปิดตัวโพรเซสเซอร์ตระกูลใหม่ AMD Sempron เพื่อระบบคอมพิวเตอร์ที่คุ้มค่าที่สุดสำหรับการใช้งานในแต่ละวันของผู้ซื้อเดสก์ท็อปและโน้ตบุ๊คพีซี โดยได้รับการสนับสนุนอย่างดีจากผู้ผลิตชั้นนำอย่าง เอชพีและลีโนโว

o VMware ESX Server ผู้นำซอฟต์แวร์เวอร์ชวลอินฟราสตรักเจอร์ที่ช่วยในการบริหารจัดการทรัพยากรภายในองค์กร ได้รับการรับรองว่าสามารถทำงานร่วมกับระบบ AMD Opteron ของเอชพีและไอบีเอ็ม ได้อย่างไม่มีปัญหา

o การมาของ Microsoft Windows XP Service Pack 2 ทำให้ Enhanced Virus Protection ที่อยู่ใน AMD Athlon 64 ทุกตัวถูกกระตุ้นให้ทำงาน เพื่อให้คอมพิวเตอร์มีระดับความปลอดภัยสูงสุด

o เอเอ็มดีเปิดตัว Mobile AMD Athlon 64 3000+ สำหรับโน้ตบุ๊คประเภทบางและเบา และ AMD Athlon 64 processor 3700+ สำหรับโน้ตบุ๊คประเภทเดสก์ท็อปรีเพลซเมนต์ สนับสนุนการทำงานร่วมกับแอพพลิเคชั่นทั้งแบบ 32 และ 64 บิตบนโน้ตบุ๊ค

o Spansion ประสบความสำเร็จในการปรับเปลี่ยนเทคโนโลยีการผลิตไปเป็น 110nm ที่โรงาน Fab 25 ในออสติน เท็กซัส

o เอเอ็มดีตั้งสำนักงานใหญ่ในปักกิ่ง

การประชุมทางไกล

เอเอ็มดีจะจัดประชุมผ่านโทรศัพท์ในเวลา 2:30 p.m. PT ของวันนี้ เพื่อพูดคุยเกี่ยวกับผลประกอบการประจำไตรมาส 3 ผู้สนใจสามารถรับออดิโอบรอดคาสต์แบบเรียลไทม์ได้จากหน้าเว็บ Investor Relations ภายในเว็บไซต์ www.amd.com หรือ www.streetevents.com เว็บคาสต์จะมีไว้ให้บริการเป็นระยะเวลา 10 วันหลังสิ้นสุดการประชุม

เกี่ยวกับ AMD

เอเอ็มดี คือ ผู้ออกแบบ และผลิตไมโครโพรเซสเซอร์ แฟลชเมมโมรี่ และโพรเซสเซอร์ชนิดประหยัดพลังงานสำหรับเครื่องคอมพิวเตอร์ อุปกรณ์สื่อสาร ตลอดจนอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ต่างๆ เอเอ็มดีคือผู้นำเสนอโซลูชั่นมาตรฐานที่มุ่งตอบสนองทุกๆ ความต้องการของผู้ใช้เทคโนโลยี ตั้งแต่องค์กรธุรกิจและหน่วยงานรัฐบาล ไปจนถึงผู้ใช้ทั่วไป อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่่ www.amd.com