Adobe Creative Suite ได้รับการปรับปรุงประสิทธิภาพด้วยซอฟต์แวร์ใหม่ล่าสุด Adobe Acrobat 7.0 Professional เพิ่มเติมเครื่องมือใหม่สำหรับการทำงานร่วมกัน ก

กรุงเทพฯ — 19 มกราคม 2548 — อะโดบี ซิสเต็มส์ อิงค์ (Nasdaq:ADBE) เปิดเผยว่า ซอฟต์แวร์ใหม่ล่าสุด Adobe? Acrobat? 7.0 Professional (ดูข่าวประชาสัมพันธ์ที่แยกต่างหาก) จะถูกผนวกรวมไว้ในชุดโซลูชั่น Adobe Creative Suite Premium โดย Acrobat 7.0 Professional จะช่วยให้นักออกแบบ สำนักพิมพ์ บริษัทโฆษณา และผู้ให้บริการด้านการพิมพ์ สามารถใช้ไฟล์ต่างๆ ร่วมกัน เพื่อรองรับงานในส่วนของการตรวจแก้และพิสูจน์อักษร การแก้ไขข้อผิดพลาดในงานพิมพ์ และการปรับปรุงไฟล์ Adobe Portable Document Format (PDF) ให้สอดรับกับความต้องการด้านการผลิต

Adobe Creative Suite ซึ่งได้รับการเปิดตัวเป็นครั้งแรกเมื่อเดือนตุลาคม 2546 ช่วยให้บรรดาสำนักพิมพ์ระดับชั้นนำและมืออาชีพด้านการสร้างสรรค์สามารถปฏิวัติรูปแบบการทำงานที่เกี่ยวกับสิ่งพิมพ์และสื่อหลากหลายประเภท โดย Adobe Creative Suite จะสามารถเพิ่มประสิทธิภาพการทำงาน โดยอาศัยการผนวกรวมอย่างกลมกลืนของเครื่องมือต่างๆ และในขณะเดียวกันก็สามารถสร้างสรรค์ผลงานอย่างเต็มศักยภาพ โดยใช้เครื่องมือต่างๆ ได้อย่างสะดวกง่ายดายเมื่อถึงคราวจำเป็น นอกจากนี้ ลูกค้ายังแน่ใจได้ว่าการลงทุนในชุดโซลูชั่น Adobe Creative Suite ย่อมหมายถึงโอกาสในการใช้ซอฟต์แวร์ด้านครีเอทีฟระดับมืออาชีพรุ่นใหม่ล่าสุด โดยในปัจจุบันได้มีการผนวกรวม Acrobat 7.0 Professional ไว้ในชุดโซลูชั่น Adobe Creative Suite ซึ่งจะช่วยเพิ่มความรวดเร็วและประสิทธิภาพในการสร้างไฟล์ PDF, ปรับปรุงการแสดงตัวอย่างเอกสาร และขยายขีดความสามารถในการทำงานบนเอกสารร่วมกัน ทั้งยังสนับสนุนมาตรฐานอุตสาหกรรมหลักๆ เช่น PDF/X และ Job Definition Format (JDF)

“Acrobat และ Adobe PDF รองรับการทำงานของเราเกือบทั้งหมด” ดอน ฟิตซ์วอเตอร์ ผู้จัดการฝ่ายโซลูชั่นด้านการสร้างสรรค์ของ Seven Worldwide กล่าว “เมื่อเราแปลงเอกสารต่างๆ ให้เป็นรูปแบบ Adobe PDF เราก็สามารถทำงานร่วมกันตามระบบงานที่สม่ำเสมอและเชื่อถือได้ Acrobat 7.0 Professional และ Adobe PDF ช่วยให้เราสามารถถ่ายโอนเอกสารต่างๆ ตั้งแต่ขั้นตอนของการออกแบบแนวคิด เรื่อยไปจนถึงการจัดพิมพ์หรือการโพสต์บนระบบออนไลน์ และการจัดเก็บข้อมูลถาวรในขั้นตอนสุดท้าย”

Acrobat 7.0 Professional จะทำให้มืออาชีพด้านการสร้างสรรค์สามารถผนวกรวมข้อคิดเห็นเกี่ยวกับงานออกแบบจากบุคคลต่างๆ โดยนับเป็นครั้งแรกที่มีการเพิ่มเติมเครื่องมือสำหรับการใส่ข้อคิดเห็น (Commenting Tools) ไว้ในซอฟต์แวร์ Adobe Reader? ซึ่งเป็นซอฟต์แวร์แจกฟรี ด้วยเหตุนี้ ผู้ตรวจทานจะสามารถใส่เครื่องหมายระบุไว้ในหน้าเลย์เอาต์ เอกสารสำหรับตรวจปรู๊ฟ และเอกสารอื่นๆ ที่เป็นรูปแบบ PDF โดยไม่จำเป็นต้องส่งเอกสารที่เป็นกระดาษกลับไปกลับมา นอกจากนั้น ผู้ใช้โปรแกรม Adobe Reader 7.0 จะสามารถดูไฟล์ PDF ที่มีการพิมพ์ทับ ซึ่งจะช่วยลดความสูญเสียอันเนื่องมาจากข้อผิดพลาดในการพิมพ์

การเพิ่มเติมเครื่องมือสำหรับการแก้ไข PDF ลงใน Acrobat 7.0 Professional จะช่วยแก้ไขปัญหาที่พบได้ทั่วไปในไฟล์ PDF ที่ใช้สำหรับการจัดพิมพ์ เครื่องมือสำหรับการแก้ไขสี RGB, ความโปร่งใส, เส้นขนาดเล็ก และร่องรอยของเครื่องพิมพ์ มีรวมอยู่ใน Acrobat 7.0 Professional นอกจากนั้น ยังมีฟีเจอร์ที่แข็งแกร่งสำหรับการดูตัวอย่างผลงาน ซึ่งช่วยให้ผู้ใช้มองเห็นข้อผิดพลาดทั่วไปบนหน้าจอ รวมทั้งสีดำ CMYK, ขีดจำกัดของหมึก และตัวอย่างการแยกสี

Acrobat 7.0 Professional สนับสนุนมาตรฐานด้านการพิมพ์หลากหลายประเภท ดังนั้นมืออาชีพด้านการสร้างสรรค์จึงสามารถสร้างไฟล์ Adobe PDF ได้อย่างสม่ำเสมอและเชื่อถือได้ นอกจากนี้ ซอฟต์แวร์ดังกล่าวยังสนับสนุนมาตรฐานอื่นๆ เพิ่มเติม เช่น JDF และมาตรฐานใหม่ล่าสุด PDF/X ทั้งนี้ ข้อกำหนด JDF จะช่วยให้สามารถส่งชิ้นงานที่ถูกต้องไปยังระบบการพิมพ์ที่ใช้รูปแบบ Adobe PDF ส่วน PDF/X เป็นมาตรฐานอุตสาหกรรมสำหรับการแลกเปลี่ยนไฟล์กราฟิก ซึ่งจะช่วยขจัดข้อผิดพลาดที่พบได้ทั่วไปในการจัดเตรียมไฟล์

ราคาและการวางจำหน่าย
Acrobat 7.0 Professional จะวางจำหน่ายในราคา S$809 โดยประมาณ ผู้ใช้ลงทะเบียนสำหรับ Acrobat 4.0, Acrobat 5.0, Acrobat 6.0 Standard หรือ Acrobat 6.0 Professional สามารถอัพเกรดเป็น Acrobat 7.0 Professional ในราคาประมาณ S$289 ผู้ใช้ Adobe Photoshop? สามารถอัพเกรดเป็น Adobe Creative Suite Premium 1.3 ในราคาประมาณ S$1519 ส่วน Adobe Creative Suite Premium 1.3 เวอร์ชั่นสมบูรณ์ ราคาจำหน่ายประมาณ S$2249 ในขณะที่ Adobe Creative Suite Standard ราคาประมาณ S$1829

ผู้ใช้ลงทะเบียนสำหรับ Adobe Creative Suite Premium สามารถอัพเกรดเป็น Adobe Creative Suite Premium 1.3 ซึ่งประกอบด้วย Acrobat 7.0 Professional ในราคาประมาณ S$289 ทั้งนี้คาดว่าจะเริ่มวางจำหน่าย Adobe Creative Suite Premium 1.3 เวอร์ชั่นภาษาอังกฤษ สำหรับ Mac OS X 10.2.4, Microsoft? Windows? 2000 (พร้อมด้วย Service Pack 2) และ Windows XP Professional และ Home Edition ในช่วงปลายปีนี้ ส่วนเวอร์ชั่นภาษาฝรั่งเศส เยอรมัน และญี่ปุ่น จะวางจำหน่ายในช่วงต้นปี 2548 ข้อมูลเกี่ยวกับการวางจำหน่ายผลิตภัณฑ์ในเวอร์ชั่นภาษาอื่นๆ รวมทั้งรายละเอียดเกี่ยวกับราคา นโยบายการอัพเกรดและการสนับสนุนสำหรับประเทศอื่นๆ สามารถดูได้จาก www.adobe.com

เกี่ยวกับอะโดบี ซิสเต็มส์ อิงค์

อะโดบีช่วยให้ลูกค้าและธุรกิจสามารถสื่อสารกันได้ดีขึ้นด้วยเทคโนโลยีระดับโลกด้านดิจิตอลอิมเมจ, การออกแบบและเทคโนโลยีแพลทฟอร์มด้านเอกสารต่างๆ สำหรับผู้บริโภค, นักออกแบบมืออาชีพและองค์กรต่างๆ ผลประกอบการของอะโดบีเมื่อปีงบประมาณที่ผ่านมาสูงกว่า 1.2 พันล้านเหรียญ ท่านสามารถค้นหากข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับอะโดบีได้ที่ www.adobe.com