พาโรดอนแทกซ์ รุกตลาดด้วย “พาโรดอนแทกซ์ มินท์ เจล” จับกระแสคนรักเหงือกและฟัน พร้อมขยายกลุ่มผู้บริโภค

9 มีนาคม 2548 – พาโรดอนแทกซ์ จับกระแสคนไทยเริ่มสนใจรักษาเหงือกและฟัน ส่งนวัตกรรมใหม่ล่าสุด “พาโรดอนแทกซ์ มินท์เจล” ยาสีฟันเนื้อเจลรสมินท์ ผนวกกับสมุนไพรธรรมชาติอีก 5 ชนิด และเกลือโซเดียมไบคาร์บอเนตรุกตลาด พร้อมด้วยโฆษณาชุด insight ประกบด้วยกิจกรรมส่งเสริมการขายตามโมเดิร์นเทรด

นางสาววาเนสซา โกเซียงเฟียว ผู้จัดการการตลาด บริษัทแกล็กโซสมิทไคล์น (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า “ในปีที่ผ่านมา พาโรดอนแทกซ์ มีอัตราการเติบโตที่สูงกว่าการเติบโตของตลาดรวมยาสีฟันโดยรวม และในฐานะที่พาโรดอนแทกซ์ เป็นยาสีฟันเพื่อสุขภาพเหงือกและฟันที่ได้รับการรับรองทางการแพทย์แล้วว่าสามารถป้องกันโรคเหงือกอย่างได้ผล เราจึงคิดค้นนวัตกรรมผลิตภัณฑ์ใหม่ พาโรดอนแทกซ์ มินท์เจล เพื่อส่งเสริมให้ผู้บริโภคมีสุขภาพเหงือกและฟันที่ดี โดยมีส่วนผสมของฟลูออไรด์ เกลือโซเดียมไบคาร์บอเนต และสมุนไพรสกัดจากพืชธรรมชาติถึง 5 ชนิด และมีกลิ่นมินท์หอมเย็นสดชื่นอีกด้วย”

พาโรดอนแทกซ์ จับกระแสคนรักเหงือกและฟัน เปิดตัวขนาดบรรจุใหม่ พร้อมขยายกลุ่มผู้บริโภค

“เพื่อตอบสนองกระแสความสนใจของผู้บริโภคที่นิยมยาสีฟันเพื่อการดูแลรักษาสุขภาพเหงือกและฟันมากขึ้น พาโรดอนแทกซ์จึงขยายฐานกลุ่มผู้บริโภคออกไป โดยล่าสุดได้ออกยาสีฟันพาโรดอนแทกซ์ มินท์ เจล โดยมี 3 ขนาดให้เลือกใช้ ขนาด 100 กรัม ขนาด 160 กรัม และล่าสุด ขนาดพกพา 60 กรัม โดยมีส่วนประกอบที่โดดเด่นของสมุนไพรธรรมชาติ 5 ชนิด เกลือโซเดียม ไบคาร์บอเนต ที่มีคุณสมบัติช่วยให้เหงือกและฟันแข็งแรง และยังมีส่วนผสมของมินท์ ช่วยให้ลมหายใจสดชื่นอีกด้วย”
เปิดตัวโฆษณา พร้อมรุกคืบด้วยกิจกรรมส่งเสริมการขาย

“นอกจากนั้นแล้ว พาโรดอนแทกซ์ ยังได้ดำเนินแผนการตลาดครบวงจรในการเปิดตัว พาโรดอนแทกซ์ มินท์ เจล ได้แก่ ภาพยนตร์โฆษณาชุด “Insight” และกิจกรรมบูธ Gum care zone เคลื่อนที่ไปตามห้างโมเดิร์นเทรดต่างๆ โดยภายในบูธ จะมีการให้ความรู้ทั่วไปเกี่ยวกับการดูแลรักษาเหงือกและฟันอย่างถูกวิธี การแนะนำผลิตภัณฑ์ การแจกสินค้าตัวอย่าง ให้ผู้บริโภค ” นางสาววาเนสซา กล่าว

“พาโรดอนแทกซ์ มินท์ เจล” มีความโดดเด่นที่รสมินท์ช่วยให้ลมหายใจหอมสดชื่น มีเกลือโซเดียม ไบคาร์บอเนต ช่วยทำความสะอาดเหงือกและฟัน และมีส่วนผสมของสมุนไพรสกัดจากธรรมชาติ 5 ชนิด ซึ่งได้รับการรับรองจากผู้เชี่ยวชาญทางทันตกรรมแล้วว่ามีประสิทธิภาพในการช่วยการป้องกันอาการเหงือกอักเสบอันเกิดจากการสะสมของคราบจุลินทรีย์ หากใช้ร่วมกับการดูแลรักษาสุขอนามัยช่องปากอย่างดี

ผลสำรวจจากกลุ่มทันตแพทย์ชี้ คนไทยเป็นโรคเหงือกกว่า 90 % หากละเลยเหงือก อาจเกิดปัญหาใหญ่ได้

ผลการสำรวจทันตสุขภาพแห่งชาติครั้งที่ 5 ปี 2543 – 2544 โดยกองทันตสาธารณสุข กรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข พบว่าคนไทยอายุระหว่าง 35-44 ปี มีปัญหาสภาวะปริทันต์มากกว่า 90 % และจากการสำรวจผู้บริโภค ผู้มีปัญหาหากไม่รีบดูแลรักษาอาจส่งผลให้เหงือกอักเสบจนถึงขั้นต้องถอนฟันในที่สุด