ภายหลังจากที่ประสบความสำเร็จในการนำคอนเทนต์ที่บริษัทฯมีอยู่มาผนวกเข้ากับเทคโนโลยีแห่งโลกมัลติมีเดียที่ไฮเทคและล้ำสมัยได้อย่างลงตัว ล่าสุด บริษัท อาร์.เอส.โปรโมชั่น จำกัด(มหาชน) บริษัทบันเทิงครบวงจร สามารถตอกย้ำความเป็นผู้นำธุรกิจดิจิตอลคอนเทนต์ชั้นนำของเมืองไทยได้อีกครั้ง ด้วยการแถลงผลประกอบการโดยรวมปี 2547 ที่พุ่งสูงขึ้นจากปี 2546 กว่า 100% ด้วยยอดรวมรายได้ 139 ล้านบาท มั่นใจสิ้นปีนี้กวาดรายได้ 180 ล้านบาทอย่างแน่นอน
นายยรรยง อัครจินดานนท์ รองกรรมการผู้จัดการสายงานนิวมีเดีย บริษัท อาร์.เอส.โปรโมชั่น จำกัด(มหาชน) เปิดเผยว่า “ผลการดำเนินงานของบริษัทฯ ในปีที่ผ่านมาถือว่าประสบความสำเร็จเกินเป้าหมายที่วางไว้ ดังจะเห็นได้จากผลประกอบการโดยรวมปี 2547 ของสายงานนิวมีเดียที่มีการปรับเป้ารายได้ธุรกิจจาก 100 ล้านบาทขึ้นมาเป็น 120 ล้านบาทเมื่อช่วงกลางปีที่ผ่านมานั้น มาวันนี้ผลประกอบการปี 2547 ของสายงานนิวมีเดียเป็นที่น่าพึงพอใจอย่างยิ่ง โดยสามารถสร้างรายได้รวมปี 2547 เป็นจำนวนทั้งสิ้น 139 ล้านบาท เติบโตกว่า 100% เมื่อเทียบกับรายได้รวมของปีที่ผ่านมา และมั่นใจว่าสิ้นปีนี้จะทำรายได้ให้กับบริษัทฯได้ถึง 180 ล้านบาทอย่างแน่นอน”
รองกรรมการผู้จัดการ กล่าวถึงทิศทางของนิวมีเดียในปีนี้ว่า “ในปีนี้ทางบริษัทฯตั้งเป้าหมายรายได้รวมไว้ที่ 180 ล้านบาท เติบโตกว่าปีที่ผ่านมาถึง 50% และยังคงให้ความสำคัญกับธุรกิจโมบายคอนเทนต์เป็นธุรกิจหลัก สำหรับแผนการดำเนินธุรกิจในปี 2548 นี้ ทางบริษัทฯมีแผนที่จะดำเนินธุรกิจในเชิงรุกและเปิดกว้างสำหรับพันธมิตรใหม่ๆเพื่อเข้ามาช่วยเสริมศักยภาพการดำเนินธุรกิจซึ่งกันและกัน โดยปีนี้อาร์.เอส.ฯได้เตรียมรับมือกับธุรกิจดิจิตอลคอนเทนต์ไว้อย่างชัดเจนอีกด้วย ดังจะเห็นได้จากการปรับโครงสร้างทิศทางการดำเนินธุรกิจนิวมีเดียให้มีความเหมาะสมและเป็นไปในทิศทางเดียวกัน โดยการเพิ่มฝ่าย E-Project ซึ่งมีส่วนในการรับผิดชอบโปรเจกต์การขายเพลงออนไลน์ที่เตรียมจะเปิดให้บริการในเร็วๆนี้ ในส่วนโครงสร้างการทำงานกับพาร์ทเนอร์ในปีนี้นั้น ทางอาร์.เอส.ฯยังคงเน้นการเป็นคอนเทนต์โพรวายเดอร์ที่สมบูรณ์แบบ โดยชูรูปแบบธุรกิจการขายส่งคอนเทนต์ให้แก่พาร์ทเนอร์เพื่อให้พาร์ทเนอร์นำไปทำการตลาดกันเอง เป็นต้น
ด้านนายวรพจน์ นิ่มวิจิตร ผู้อำนวยการสายงานนิวมีเดีย บริษัท อาร์.เอส.โปรโมชั่น จำกัด(มหาชน) กล่าวว่า “เนื่องจากแนวโน้มการเติบโตของธุรกิจเพลงออนไลน์ทั้งในและต่างประเทศ นับวันยิ่งทวีความร้อนแรงเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ทางบริษัทฯจึงมีแผนที่จะเปิดตัวธุรกิจใหม่ “ออนไลน์ มิวสิค สโตร์” สำหรับให้บริการจำหน่ายเพลงออนไลน์ในประเทศไทยอย่างเป็นทางการ ซึ่งการเปิดตัวธุรกิจดังกล่าวนี้จะมีขึ้นในไตรมาสที่ 2 ของปีนี้อย่างแน่นอน
ผู้อำนวยการสายงานนิวมีเดีย กล่าวต่อว่า “ในปีนี้ทางบริษัทฯมีแผนที่จะพัฒนาในส่วนของเว็บไซต์ rs-promotion.com ซึ่งเป็นเว็บไซต์ของบริษัทฯให้เป็น Community Web มากยิ่งขึ้นรวมถึงการจัดทำ เว็บบล็อก (Blog) บนเว็บไซต์ rs-promotion.com ทั้งนี้เพื่อเป็นการเปิดโอกาสให้กลุ่มคนที่มีความสนใจในเรื่องเดียวกันได้มาแสดงความคิดเห็นและติดตามข่าวสารความเคลื่อนไหวของศิลปินคนโปรดแบบสดๆได้ทันท่วงที โดยเมื่อปีที่ผ่านมาสายงานนิวมีเดียจัดว่าประสบความสำเร็จในการบริหารเว็บไซต์ rs-promotion.com ส่งผลให้ปี 47 มียอดคนเข้าเว็บไซต์เพิ่มมากขึ้นถึง 70% เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา นอกจากนี้ในส่วนของการดาวน์โหลดผ่าน แว๊บไซต์ (wap.mobiclub.net) นั้นก็ได้รับความนิยมจากผู้บริโภคไม่แพ้กัน ดังจะเห็นได้จากอัตราการใช้บริการที่เพิ่มขึ้นถึง 60% อันเนื่องจากเทคโนโลยีได้เข้ามามีบทบาทกับผู้บริโภคมากขึ้น รวมถึงการโฆษณาประชาสัมพันธ์อย่างต่อเนื่องและทั่วถึงจึงทำให้ แว๊บ(WAP) เป็นอีกหนึ่งช่องทางที่สามารถตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคได้เต็มรูปแบบ
พร้อมกันนี้ได้ประกาศเปิดตัวคอนเทนต์รูปแบบใหม่ๆ ไม่ว่าจะเป็น ความร่วมมือกับ บริษัท สกาย-ไฮ เน็ตเวิร์ค จำกัด ในการเปิดตัว เทคโนโลยีวิชวลเรดิโอ(Visual Radio) นวัตกรรมใหม่ล่าสุดที่จะช่วยเพิ่มขีดความสามารถของการฟังวิทยุไปพร้อมๆกับการดูภาพ รวมถึงการทำกิจกรรมผ่านทางโทรศัพท์มือถือร่วมกับดีเจด้วยระบบ อินเตอร์แอ็กทีฟ (Interactive) , การซื้อลิขสิทธิ์คอนเทนต์จากภาพยนตร์เรื่อง Star Wars เข้ามาทำการตลาดในประเทศไทย รวมถึงการนำคอนเทนต์ของอาร์.เอส.ฯไปจำหน่ายยังต่างประเทศ โดยล่าสุดบริษัทฯได้ร่วมกับ Soundbuzz (ซาวน์บัซ) ในการนำคอนเทนต์เพลงของอาร์.เอส.ฯไปจำหน่ายยังประเทศสิงคโปร์และประเทศอื่นๆ นอกจากนี้กำลังอยู่ในระหว่างการเจรจากับพันธมิตรจากประเทศญี่ปุ่นและเกาหลีเพื่อเตรียมเปิดให้บริการเพลงออนไลน์ที่ประเทศดังกล่าวด้วยเช่นกัน
ด้านแผนการตลาดในปีนี้ นายวรพจน์ กล่าวว่า “ทางบริษัทฯยังคงเน้นการทำการตลาดร่วมกับโอเปอเรเตอร์และพาร์ทเนอร์ต่างๆ ในรูปแบบของการทำกิจกรรมร่วมกับศิลปินและดาราในสังกัด อาร์.เอส.ฯ รวมไปถึงการพัฒนาคุณภาพของคอนเทนต์ที่มีอยู่ให้สอดคล้องไปกับเทคโนโลยีอันทันสมัย โดยกลุ่มเป้าหมายหลักยังคงเป็น วัยรุ่น และประชาชนทั่วไปชื่นชอบและติดตามนวัตกรรมความบันเทิงรวมถึงเทคโนโลยีใหม่ๆอยู่ตลอดเวลา ทำให้เราเชื่อมั่นว่าสิ้นปีนี้จะสามารถสร้างรายได้ให้กับบริษัทฯตรงตามเป้าที่วางไว้อย่างแน่นอน” นายวรพจน์กล่าวปิดท้าย
