เทรน (ประเทศไทย) ร่วมกับกระทรวงพลังงานสนับสนุนโครงการช่วยชาติประหยัดไฟฟ้ากับโครงการ “ล้างแอร์ประหยัดไฟกำไรต่อที่ 3”

19 พฤษภาคม 2548 – เทรนสนับสนุนกระทรวงพลังงานช่วยชาติประหยัดไฟฟ้า ในโครงการ “ประหยัดไฟกำไร 2 ต่อ” ร่วมลุ้นล้างแอร์ฟรี 5,000 เครื่อง จากความร่วมมือจาก สอศ. ร่วมด้วยเทรนสนับสนุนการจัดอบรมให้ความรู้เรื่องการล้างแอร์อย่างถูกวิธี และมีประสิทธิภาพ พร้อมการตรวจเช็คสภาพแอร์แก่คณะอาจารย์ในสังกัด สอศ. เพื่อเพิ่มพูนความรู้แก่อาจารย์และนักศึกษา และยังเป็นการสร้างความมั่นใจแก่ผู้ใช้แอร์

นายมหิธร วิภัติภูมิประเทศ ผู้จัดการอาวุโสฝ่ายการตลาด เทรน (ประเทศไทย) เปิดเผยว่า เทรน (ประเทศไทย) มีความยินดีที่ได้เข้าร่วมโครงการ “ล้างแอร์ประหยัดไฟกำไรต่อที่ 3” ซึ่งเป็นโครงการต่อเนื่องจากโครงการ “ประหยัดไฟกำไร 2 ต่อ” ที่จัดขึ้นเพื่อกระตุ้นให้ประชาชนทั่วไปได้ร่วมมือกันใช้พลังงานไฟฟ้าอย่างประหยัด และลดการใช้ไฟฟ้า ซึ่งเป็นการช่วยประเทศชาติประหยัดพลังงานไฟฟ้าอีกทางหนึ่ง โดยโครงการ “ล้างแอร์ประหยัดไฟกำไรต่อที่ 3” นี้เป็นการให้บริการล้างเครื่องปรับอากาศฟรีแก่ประชาชนที่ช่วยชาติประหยัดไฟฟ้าจนได้รับส่วนลดค่าไฟฟ้าจากโครงการ “ประหยัดไฟกำไร 2 ต่อ” โดยความร่วมมือจากสำนักงานคณะกรรมการอาชีวศึกษา (สอศ.) และสถานศึกษาในสังกัด สอศ.

“เทรน (ประเทศไทย) ได้มีส่วนร่วมโดยการส่งวิทยากรผู้ทรงคุณวุฒิของเทรน (ประเทศไทย) ให้การอบรมมอบความรู้ด้านการล้างเครื่องปรับอากาศที่ ถูกวิธี และความรู้เบื้องต้นเกี่ยวกับการบำรุงรักษาเครื่องปรับอากาศแก่ทีมนักศึกษาจากสอศ. ในมาตรฐานเดียวกับการฝึกอบรม ช่างซ่อมบำรุงของเทรน (ประเทศไทย) ซึ่งเทรนจัดขึ้นเป็นประจำทุกเดือนตลอดระยะเวลาหลายปีที่ผ่านมา ดังนั้น ประชาชนทั่วไปที่ร่วมโครงการจึงได้รับการบริการล้างเครื่องปรับอากาศตาม มาตรฐานของเทรน (ประเทศไทย) และได้รับคำแนะนำที่ถูกต้องเกี่ยวกับวิธีใช้และการบำรุงรักษาเครื่องปรับอากาศเพื่อการประหยัดพลังงาน” นายมหิธร กล่าว

กระทรวงพลังงานได้จัดโครงการ “ประหยัดไฟกำไร 2 ต่อ” ระยะที่ 2 เพื่อกระตุ้นให้ ประชาชนตระหนักถึงการประหยัดพลังงาน และลดการใช้ไฟฟ้า โดยได้ดำเนินการมาตั้งแต่เดือนมิถุนายน 2547 – เดือนพฤษภาคม 2548 เป็นระยะเวลา 1 ปี และจากผลการดำเนินโครงการ 9 เดือน (มิ.ย.47 – ก.พ.48) พบว่ามีประชาชนให้ความร่วมมือประหยัดการใช้ไฟฟ้า โดยได้รับส่วนลดจากโครงการทั่วประเทศกว่า 4.3 ล้านครัวเรือน หรือประมาณ 27% สามารถลดปริมาณการใช้ พลังงานไฟฟ้าของประเทศได้กว่า 2,595 ล้านหน่วย คิดเป็นเงินที่ประหยัดได้มูลค่าประมาณ 8,070 ล้านบาท และคาดว่าเมื่อจบโครงการฯ จะสามารถลดการใช้ไฟฟ้าได้ตามเป้าหมายที่วางไว้คือ 10,000 ล้านบาท