ไมครอน เทคโนโลยีรายงานผลประกอบการไตรมาส 3 ปีงบการเงิน 2548

บัวส์, ไอดาโฮ–(บิสิเนส ไวร์)–23 มิ.ย. 2548 บริษัทไมครอน เทคโนโลยี อิงค์ (NYSE:MU) ประกาศผลประกอบการประจำไตรมาส 3 ของปีงบการเงิน 2548 งวดสิ้นสุดวันที่ 2 มิ.ย. 2548 โดยบริษัทมียอดขาดทุนสุทธิ 128 ล้านดอลลาร์หรือ 0.20 ดอลลาร์ต่อหุ้นปรับลดจากยอดขายสุทธิ 1,054 ล้านดอลลาร์ เมื่อเทียบกับรายได้สุทธิ 118 ล้านดอลลาร์หรือ 0.17 ดอลลาร์ต่อหุ้นปรับลดสำหรับไตรมาส 2 ปีงบการเงิน 2548 และในช่วง 9 เดือนแรกของปีงบการเงิน 2548 บริษัทมีรายได้สุทธิ 145 ล้านดอลลาร์หรือ 0.22 ดอลลาร์ต่อหุ้นปรับลด จากยอดขายสุทธิ 3,622 ล้านดอลลาร์

ในไตรมาส 3 ของปีงบการเงิน 2548 บริษัทได้พัฒนาประสิทธิภาพการผลิต ส่งผลให้การผลิตหน่วยความจำเพิ่มขึ้น 8% และยอดขายเมกะบิตเพิ่มขึ้น 6% เมื่อเทียบเป็นรายไตรมาส นอกจากนี้ ความพยายามของบริษัทในการเพิ่มความหลากหลายของธุรกิจสู่ระบบเซ็นเซอร์ภาพ CMOS และผลิตภัณฑ์ DRAM พิเศษ รวมถึง pseudo-static นั้น เป็นประโยชน์อย่างมากต่อบริษัทเนื่องจากผลิตภัณฑ์เหล่านี้มีการขยายตัวอย่างมากและสามารถรักษาอัตรากำไรขั้นต้นที่น่าดึงดูดใจ

แม้ต้นทุนลดลงอันเป็นผลจากการขยายตัวของการผลิตและประสิทธิภาพการผลิต รวมถึงความแข็งแกร่งอย่างต่อเนื่องของอุปสงค์สำหรับผลิตภัณฑ์ของบริษัทนั้น แต่ผลประกอบการของบริษัทได้รับผลกระทบในทางลบจากการลดลงอย่างรุนแรงของราคาขายเฉลี่ยสำหรับผลิตภัณฑ์ DRAM ในไตรมาส 3

ราคาขายเฉลี่ยของผลิตภัณฑ์หน่วยความจำลดลงประมาณ 30% ในไตรมาส 3 ปีงบการเงิน 2548เมื่อเทียบกับไตรมาส 2 ขณะที่ปริมาณผลิตภัณฑ์ส่วนเกินกดดันราคาลงโดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับหน่วยความจำพีซี โดย DDR และ DDR2 DRAM ยังคงเป็นผลิตภัณฑ์พื้นฐานของบริษัทที่คิดเป็นประมาณ 60% ของยอดขายสุทธิในไตรมาส 3 ของปีงบการเงิน 2548 การร่วงลงอย่างรุนแรงของราคาขายเฉลี่ยยังเป็นมาจากการขาดทุนในการขายผลิตภัณฑ์ที่ซื้อจากบริษัทเทค เซมิคอนดักเตอร์ (TECH Semiconductor) โดยการผลิตหน่วยความจำประมาณ 25% ของบริษัทในช่วง 3 ไตรมาสแรกของปีงบการเงิน 2548 นั้นมาจากบริษัทร่วมทุนเทค

ณ สิ้นไตรมาส 3 ปีงบการเงิน 2548 บริษัทมีเงินสดและการลงทุนระยะสั้น 1.3 พันล้านดอลลาร์ โดยมีเงินสด 334 ล้านดอลลาร์จากการดำเนินงาน และลงทุน 320 ล้านดอลลาร์ในการใช้จ่ายทุน นอกเหนือจากกำหนดการชำระหุ้นกู้และการเช่าซื้อทุนในไตรมาส 3 ของปีงบการเงิน 2548 นั้น บริษัทได้ชำระคืนหุ้นกู้ด้อยสิทธิ์ล่วงหน้ามูลค่า 90 ล้านดอลลาร์ซึ่งจะครบกำหนดไถ่ถอนในเดือนก.ย. 2548 โดยบริษัทได้รับรายได้ประมาณ 221 ล้านดอลลาร์ในไตรมาส 3 ปีงบการเงิน 2548 จากหุ้นกู้สกุลเงินเยน

บริษัทจะจัดการประชุมทางไกลในวันนี้เวลา 15.30 น.ตามเวลา MDT เพื่อแถลงผลการดำเนินงาน และจะมีการถ่ายทอดการประชุมทางไกล, เสียง และสไลด์ผ่านระบบออนไลน์ที่ www.micron.com โดยจะมีการแพร่ภาพซ้ำในเว็บไซต์ดังกล่าวจนถึงวันที่ 23 มิ.ย. 2549 และยังสามารถรับฟังการบันทึกเสียงการประชุมได้ที่หมายเลขโทรศัพท์ 973-341-3080 (รหัสยืนยัน: 6146538) โดยเริ่มตั้งแต่เวลา 17.30 น.ตามเวลา MST ของวันนี้ถึงเวลา 17.30 น.ตามเวลา MDT ของวันที่ 30 มิ.ย.2548

ไมครอน เทคโนโลยี อิงค์ เป็นหนึ่งในบริษัทชั้นนำระดับโลกในการจัดหาโซลูชั่นด้านเซมิคอนดัคเตอร์ที่ก้าวล้ำ โดยไมครอนซึ่งมีสำนักงานทั่วโลกนั้น ทำการผลิตและทำตลาด DRAMs, NAND แฟลช เมมโมรี่, ระบบเซ็นเซอร์ภาพ CMOS, ส่วนประกอบเซมิคอนดักเตอร์อื่นๆ และส่วนประกอบหน่วยความจำสำหรับใช้ในระบบประมวลผลชั้นนำ, ผู้บริโภค, เครือข่าย และผลิตภัณฑ์เคลื่อนที่ โดยหุ้นสามัญของไมครอนมีการซื้อขายในตลาดหุ้นนิวยอร์ก (NYSE) ภายใต้สัญลักษณ์ MU หากต้องการข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับไมครอน เทคโนโลยี อิงค์ ดูที่เว็บไซต์ www.micron.com

ปีงบการเงินของบริษัทมีระยะเวลา 52 หรือ 53 สัปดาห์ที่สิ้นสุดในวันพฤหัสบดีที่ใกล้กับวันที่ 31 ส.ค.มากที่สุด โดยปีงบการเงิน 2547 มี 53 สัปดาห์ และไตรมาสแรกของปีงบการเงิน 2547 มี 14 สัปดาห์

(1) ในไตรมาส 2 ของปีงบการเงิน 2546 บริษัทได้เริ่มดำเนินมาตรการริเริ่มเพื่อลดต้นทุน ทั้งนี้ บริษัทได้มีค่าใช้จ่ายในการปรับโครงสร้างในปีงบการเงิน 2546 ซึ่งรวมถึงการปิดสายการผลิต 200mm ของบริษัทในรัฐเวอร์จิเนีย, การหยุดการผลิตหน่วยความจำบางตัว ซึ่งรวมถึงสินค้า SRAM และ TCAM และการลดจำนวนพนักงานลง 10 % ทั่วโลก โดยค่าใช้จ่ายในการปรับโครงสร้างในช่วง 9 เดือนแรกของปีงบการเงิน 2547 สะท้อนให้เห็นถึงการขายอุปกรณ์ที่เกี่ยวข้องกับสายการผลิต 200mm ของบริษัทในรัฐเวอร์จิเนีย

(2) รายจ่าย (รายได้) จากการดำเนินงานอื่นๆในไตรมาส 3 ของปีงบการเงิน 2548 รวมถึงผลขาดทุนสุทธิ จากการตัดบัญชี (write-downs) และการขายอุปกรณ์เซมิคอนดัคเตอร์มูลค่า 15 ล้านดอลลาร์และผลขาดทุนสุทธิจากการเปลี่ยนแปลงของอัตราแลกเปลี่ยน 12 ล้านดอลลาร์ ส่วนรายจ่าย (รายได้) จากการดำเนินงานอื่นๆในรอบ 9 เดือนแรกของปีงบการเงิน 2548 รวมผลขาดทุนสุทธิจากการตัดบัญชี (write-downs) และการขายอุปกรณ์เซมิคอนดัคเตอร์มูลค่า 13 ล้านดอลลาร์ และ 12 ล้านดอลลาร์ที่ได้รับจากรัฐบาลสหรัฐในส่วนที่เกี่ยวกับภาษีตอบโต้การทุ่มตลาด ส่วนรายจ่าย (รายได้) จากการดำเนินงานอื่นๆในรอบ 9 เดือนแรกของปีงบการเงิน 2547 รวมถึงผลขาดทุน 16 ล้านดอลลาร์จากการเปลี่ยนแปลงของอัตราแลกเปลี่ยน

(3) ภาษีเงินได้สำหรับปีงบการเงิน 2548 และ 2547 เป็นภาษีที่เก็บจากการดำเนินงานของบริษัทนอกสหรัฐ
ดังนั้น จึงคาดว่าผลประกอบการในสหรัฐจะไม่สะท้อนถึงเงินสำรองภาษีเงินได้ จนกว่าจะถึงเวลาที่บริษัทใช้ประโยชน์จากการคำนวณรวมผลขาดทุนจากการดำเนินงานสุทธิในสหรัฐในคราวต่อไปและเครดิตภาษี (tax credit) ที่ยังไม่ได้ใช้ เนื่องจากเงินสำรองดังกล่าวจะได้รับการชดเชยเป็นจำนวนมากจากการลดลงของการลดหย่อนมูลค่าภาษีที่ยกไป

(4) ในไตรมาส 3 ของปีงบการเงิน 2548 บริษัททำข้อตกลงระดมทุน 2 รายการกับธนาคารโดยมีเงินได้ 2.35 หมื่นล้านเยน (221 ล้านดอลลาร์) โดยหุ้นกู้สกุลเงินเยนสามารถชำระคืนเป็นงวด งวดละครึ่งปี ได้จนถึงปี 2553 โดยมีอัตราดอกเบี้ยเฉลี่ย 1.2 %