บีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป ประเทศไทย เปิดตัว “การเป็นเจ้าของบีเอ็มดับเบิลยูแนวใหม่”

13 กรกฎาคม 2548 – บีเอ็มดับเบิลยูกรุ๊ป ประเทศไทย และ บีเอ็มดับเบิลยู ไฟแนนเชียล เซอร์วิซเซส ร่วมกันสร้างแนวทางการเป็นเจ้าของรถยนต์บีเอ็มดับเบิลยูแนวใหม่ ภายใต้นวัตกรรมโปรแกรมทางการเงิน “บีเอ็มดับเบิลยู แวลู พลัส” (BMW Value Plus) ด้วยโปรแกรมนี้ลูกค้าสามารถที่จะเป็นเจ้าของรถยนต์ใหม่ บีเอ็มดับเบิลยูได้โดยไม่ต้องกังวลกับราคาขายต่อ เรื่องการดูแลรักษารถ ตลอดระยะเวลาการเป็นเจ้าของ

โปรแกรม BMW Value Plus นั้นเป็น โปรแกรมการเช่าซื้อที่ทำให้ลูกค้าสามารถเป็นเจ้าของบีเอ็มดับเบิลยู ได้ด้วยการวางเงินมัดจำ ร้อยละ 25 ของราคารถยนต์ และชำระค่าใช้จ่ายต่อเดือน ตามระยะเวลาสัญญา 36 หรือ 48 เดือน โดยเมื่อสิ้นสุดสัญญาแล้ว ลูกค้าสามารถส่งมอบรถคืน และเรียกคืนเงินมัดจำ 25% นั้นกลับไปได้

จุดเด่นประการหนึ่งที่ลูกค้าจะได้รับจากโปรแกรมนี้คือ เงินค่าใช้จ่ายต่อเดือนที่ต่ำกว่าค่างวดที่มีอยู่ในสัญญาเช่าซื้อทั่วไป โดยค่าใช้จ่ายต่อเดือนสำหรับรถยนต์รุ่น 525iSE นั้นอยู่ที่ 49,900 บาทต่อเดือน (สำหรับสัญญา 48 เดือน) 57,300 บาท (สัญญา 36 เดือน) และ เพียง 32,500 บาท ต่อเดือนสำหรับรุ่น 320i (สำหรับสัญญา 48 เดือน)หรือ 38,000 บาท (สำหรับสัญญา 36 เดือน) โดยลูกค้าไม่มีข้อผูกมัดที่จะต้องซื้อรถคันที่ตนเองขับขี่ระหว่างช่วงสัญญาแม้แต่น้อย

ดร. ฟรังค์ เริสเลอร์ ประธานบริษัท บีเอ็มดับเบิลยู ประเทศไทย ชี้ว่า “ด้วยโปรแกรม BMW Value Plus นั้น ทำให้ลูกค้าของเราซื้อ บีเอ็มดับเบิลยูได้ง่ายยิ่งขึ้น จากการที่ลูกค้ามีอิสระไม่ต้องผูกมัดที่จะต้องซื้อรถเมื่อปลายสัญญา, จากแนวความคิดเรื่อง ก้อนเงินมัดจำที่สามารถเรียกกลับคืนได้หลังจากจบสัญญาและ เรื่องของค่าใช้จ่ายต่อเดือนที่ต่ำกว่าสัญญาเช่าซื้อปกติ จะทำให้ลูกค้าเป็นเจ้าของรถได้ง่ายขึ้น”

เมื่อรวมกับ โปรแกรมการดูแลรักษารถยนต์เต็มรูปแบบตลอดระยะเวลา 5 ปี หรือ โปรแกรม BMW Service Inclusive (BSI) ที่เป็นส่วนหนึ่งของรถยนต์ใหม่ทุกๆคัน นับแต่วันที่ 1 กรกฏาคมเป็นต้นมา แล้วทำให้ ลูกค้าสามารถเป็นเจ้าของบีเอ็มดับเบิลยู ตลอดระยะเวลาสัญญาได้อย่างสบายใจทั้งในแง่ของค่าดูแลบำรุงรักษารถ และ เรื่องของราคาขายต่อโดยในช่วงเปิดตัวโปรแกรมใหม่นี้ จะใช้ได้กับการเป็นเจ้าของรถ บีเอ็มดับเบิลยูรุ่นหลักทั้ง ซีรี่ส์ 3 ใหม่ ซีรี่ส์ 5 และ ซีรี่ส์ 7 รุ่นปรับโฉม

บีเอ็มดับเบิลยู ได้เริ่มต้นนำเอาแนวความคิดนี้ มาใช้ในการทำธุรกิจกับลูกค้าในหลายๆตลาด เช่น ในตลาดเยอรมัน สหรัฐอเมริกา ออสเตรเลีย เป็นเวลาหลายปีแล้ว โดยโปรแกรมนี้ จะถือเป็นส่วนหนึ่งในการนำเสนอโปรแกรมทางการเงินของบีเอ็มดับเบิลยู ไฟแนนเชียล เซอร์วิซเซส ในประเทศไทยให้กับลูกค้าในระยะยาวอีกด้วย

BMW Value Plus ในรูปคำถามคำตอบกับ ดร. ฟรังค์ เริสเลอร์

ดูเหมือนกับว่ามันเป็น แนวใหม่ในการซื้อขายรถในตลาดประเทศไทย มันง่ายพอที่ลูกค้าจะเข้าใจโดยไม่ลำบากหรือเปล่า

• แน่นอนสิครับ เพราะว่า ด้วยโปรแกรมนี้ ลูกค้าเพียงแค่ รู้ตัวเลขหลักสองตัวได้แก่ จำนวนเงิน 25% ของราคาขาย และ ค่าใช้จ่ายต่อเดือนตลอดระยะสัญญา เป็นอันว่าเขาเป็นเจ้าของรถเราได้

• จริงๆโปรแกรมนี้ ออกแบบมาให้ง่ายมากๆ ง่ายชนิดที่เราสามารถใส่เข้าไปใน ตารางราคารถที่เราส่งให้ลูกค้าได้เลย

ทำไมลูกค้าไม่จำเป้นต้องรู้ ตัวเลขเพิ่มเติมอื่นๆเลยล่ะ

• ก็เพราะเพียงแค่รู้ตัวเลขสองตัวที่ผมบอกมา เขาก็เป็นเจ้าของรถได้แล้วน่ะสิ

• และหลังจาก ระยะสัญญา ลูกค้าก็เพียงแต่ คืนรถที่โชว์รูม และ ได้เงินมัดจำที่วางเอาไว้ 25% กลับไปไงล่ะครับ

สรุปแล้ว โปรแกรมนี้เป็น โปรแกรมการเช่าซื้อ ที่ลูกค้าเป็นเจ้าของรถหรือเปล่า

• ถูกต้องครับ เพราะว่าลูกค้าเป็นเจ้าของรถ มันจึงไม่ใช่ทั้ง ลีสซิ่ง หรือ การเช่ารถ

ประโยชน์หลักของ โปรแกรมนี้คืออะไรครับ

• มีอยู่สามจุดด้วยกัน ได้แก่ การเป็นเจ้าของรถได้ง่ายขึ้น ความสบายใจระหว่างการเป็นเจ้าของ และ การปลอดจากข้อผูกมัดใดๆ เมื่อสิ้นสัญญาแล้วไงครับ

ช่วยอธิบายเรื่อง การเป็นเจ้ารถได้ง่ายในตอนต้นได้ไหมครับ

• ที่ว่าง่ายเพราะเงิน มัดจำที่วาง 25% นั้นไม่ใช่เงินดาว์น แต่ว่าเป็น “เงินมัดจำ” ที่เรียกคืนได้หลังจบสัญญาแล้ว ดังนั้นลูกค้าจึงสบายใจว่าพวกเขาได้เงินคืนหลังสัญญาจบลง นี่แหละครับที่เรียกว่า เริ่มต้นเป็นเจ้าของได้ง่าย

นอกจากนี้ คุณบอกว่าการ ชำระค่าใช้จ่ายรายเดือนก็สบายกว่า

• สัญญาแบบนี้ทำให้ ค่าใช้จ่ายรายเดือนนั้นต่ำกว่า สัญญาการเช่าซื้อปกติ

• นอกจากนี้ ค่าใช้จ่ายต่อเดือนก็ต่ำกว่า สัญญาเช่าซื้อปกติ คุณลองจินตนาการดู แล้วกันว่า เพียงแค่วางเงินมัดจำ และจ่าย 49,900 ต่อเดือนก็ได้ขับ 525iSE เป็นเวลา 48 เดือนแล้ว

ทำไมคุณถึงได้บอกว่า ทำให้ลูกค้าสบายใจปลอดจากความกังวลในทุกๆรูปแบบ

• เพราะด้วย การดูแลรักษารถยนต์ตลอดระยะเวลา ห้า ปีที่ ครอบคลุมโดย การบริการครบวงจรเต็มรูปแบบที่เรียกว่า BMW Service Inclusive (BSI) ที่เราเริ่มต้นผนวกเข้าไปกับรถใหม่ทุกๆคันนับแต่วันที่ 1 กรกฏาคมที่ผ่านมานั้นไงครับ

• ก็ตรงนี้แหละที่ทำให้ลูกค้าไม่มีอะไรต้องเป็นกังวล

ที่บอกว่าลูกค้า มีอิสระหลังจากที่ สัญญาจบลงนั้น มันเป็นอิสระประเภทไหนกันครับ

• จากการที่ไม่มีข้อผูกมัด ทำให้พวกเขาไม่ต้อง วิตกเรื่องราคาขายต่อหลังจากที่ สัญญาหมดลงไป เพราะพวกเขาแค่ คืนรถและได้เงินมัดจำกลับไป

• สิ่งที่แตกต่างจาก สัญญาเช่าซื้อปกติคือเรื่องของ เงินมัดจำที่เรียกคืนได้หลังจบสัญญญา เพราะตรงนี้นี่เองที่ทำให้ พวกเขา จะเลือกทางเลือกใดก็ได้ ไม่ว่าจะเป็น ใช้เงินก้อนนั้นเป็นส่วนหนึ่งของการซื้อรถคันที่ตัวเองขับ หรือว่า จะโอนเงินก้อนนั้น ไปเป็นเงินมัดจำของรถยนต์รุ่นใหม่ในตอนนั้น หรือ หากว่าอยากจะซื้อรถมือสองขับด้วย เงินก้อนนี้ก็ได หรือแม้แต่ ว่า ลูกค้าจะนำเงินมัดจำดังกล่าวกลับไป และ เอาไปซื้อ คอนโดมีเนียม ยังได้เลย

ภาคผนวก

• โปรแกรมการเงินนี้ ถือได้ว่าเป็นส่วนเพิ่มเติมของ สัญญาเช่าซื้อปกติ โดยโปรแกรม แวลูพลัสนี้ จะทำให้ลูกค้ามีทางเลือกในการที่จะ คืนรถหลังจากที่สิ้นสุดสัญญาลง และ ได้รับเงินมัดจำนั้นคืน

• อย่างไรก็ดี มันขึ้นอยู่กับทางลูกค้าที่สามารถที่จะ เลือก ออปชั่นของตนเองได้ ว่าต้องการจะเป็นเจ้าของต่อไป หรือว่าต้องการที่จะ เทรดอิน เพื่อรถรุ่นที่ใหม่ขึ้น โดยก็ใช้วิธีการเดียวกันกับกระบวนการสัญญาเช่าซื้อปกติ โดยลูกค้าจะมีอิสระในการที่จะเลือกที่จะคืนรถคันดังกล่าวก็ย่อมได้

เว็บไซต์ www.bmw.co.th