กินเจปี’48 : เติบโต 10%…เกาะกระแสอาหารสุขภาพ

เทศกาลกินเจในปี 2548 นี้เริ่มตั้งแต่วันที่ 3-12 ตุลาคม บรรยากาศในการกินเจปีนี้คาดว่าจะคึกคักเช่นเดียวกับปีที่ผ่านๆมา เนื่องจากมีหลากหลายธุรกิจหันมาเกาะกระแสอาหารเจในฐานะที่เป็นอาหารสุขภาพ ซึ่งเป็นกระแสที่กำลังมาแรงในปัจจุบัน โดยจะเห็นได้จากที่เริ่มมีการประชาสัมพันธ์ถึงเทศกาลกินเจในสื่อต่างๆ ตั้งแต่ช่วงกลางเดือนกันยายน แม้ว่าในปีนี้ราคาน้ำมันจะสูงขึ้นทำให้ราคาสินค้าที่เป็นวัตถุดิบในการประกอบอาหารเจเพิ่มขึ้น รวมทั้งภาวะน้ำท่วมในบางพื้นที่ยังสร้างความเสียหายให้กับผักหลากหลายชนิด คาดว่าจะส่งผลให้ราคาผักในช่วงเทศกาลกินเจในปีนี้สูงกว่าทุกปีที่ผ่านมา คาดว่าราคาวัตถุดิบที่นำมาประกอบอาหารเจจะมีแนวโน้มปรับตัวสูงขึ้นประมาณร้อยละ 10-20 เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา

อย่างไรก็ตามคาดว่าในปี 2548 นี้คนกรุงเทพฯที่ตั้งใจจะกินเจมีมากขึ้น ทั้งนี้เพื่อต้องการทำบุญทำทานงดเว้นการรับประทานเนื้อสัตว์ รวมทั้งยังได้กระแสสนับสนุนการที่ผู้บริโภคหันมาสนใจบริโภคอาหารเพื่อสุขภาพมากขึ้น นอกจากนี้บรรดาผู้ประกอบการในธุรกิจอาหารหันมาขยายผลิตภัณฑ์อาหารเจหลากหลายชนิดตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นอาหารเจแช่แข็ง อาหารเจกึ่งสำเร็จรูป และเบเกอรี่เจ ทำให้ผู้ที่ต้องการบริโภคอาหารเจมีทางเลือกมากขึ้น อย่างไรก็ตามผู้บริโภคยังเน้นนโยบายประหยัดเช่นเดียวกับในปีที่ผ่านมา เนื่องจากความจำเป็นทางเศรษฐกิจ ทำให้บรรดาผู้ที่จำหน่ายอาหารเจต้องปรับตัวโดยการใช้กลยุทธ์ไม่ปรับราคา นอกจากนี้ผู้ประกอบการขายอาหารเจก็ปรับตัวด้วยการเริ่มจำหน่ายอาหารเจล่วงหน้าตั้งแต่ในช่วงวันที่ 24 กันยายน แม้ว่าเทศกาลรับประทานอาหารเจจะเริ่มในช่วงเย็นของวันที่ 2 ตุลาคม ซึ่งถือว่าเป็นมื้อล้างท้องก่อนที่จะเข้าสู่การรับประทานอาหารเจกันจริงๆในตอนเช้าตรู่ของวันที่ 3 ตุลาคม ดังนั้นจึงไม่น่าแปลกใจว่าตั้งแต่ช่วงวันที่ 24 กันยายนจะเริ่มเห็นร้านอาหารเจที่มีธงสีเหลืองซึ่งถือเป็นสัญญลักษณ์ของอาหารเจมีให้เห็นอยู่ทั่วกรุงเทพฯ

บริษัท ศูนย์วิจัยกสิกรไทย จำกัด คาดว่ามูลค่าตลาดอาหารเจในปี 2548 นี้เพิ่มขึ้นเป็น 1,650 ล้านบาท เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมาแล้วเพิ่มขึ้นร้อยละ 10.0 สาเหตุที่คนกรุงเทพฯตั้งใจจะรับประทานอาหารเจมากขึ้น เนื่องจากถือว่าการทำบุญล้างกายและล้างใจ นอกจากนี้ประเด็นสำคัญคือ ความเชื่อว่าการกินเจช่วยทำให้สุขภาพอนามัยสมบูรณ์แข็งแรง รวมทั้งการรับประทานอาหารเจในปัจจุบันไม่ได้ยากลำบากเหมือนกับเมื่อก่อน เนื่องจากมีธุรกิจหลายแขนงผลิตสินค้าขึ้นมาสนองความต้องการของคนที่รับประทานอาหารเจ ยอดจำหน่ายของสินค้าเหล่านี้เพิ่มขึ้นในช่วงเทศกาลกินเจ นอกจากนี้ยังมีกระแสการรักษาสุขภาพด้วยการรับประทานอาหารอย่างถูกต้อง เช่น มังสวิรัติ แม็คโครไบโอติก ชีวจิต เป็นต้น

ตลาดอาหารเจมูลค่า 1,650 ล้านบาท…หลากปัจจัยหนุน

บริษัท ศูนย์วิจัยกสิกรไทย จำกัด ทำการสำรวจพฤติกรรมการบริโภคอาหารเจในช่วงเทศกาลกินเจของคนกรุงเทพฯมาอย่างต่อเนื่อง และในปีนี้ทางบริษัทมีการสัมภาษณ์เชิงลึกโดยเจาะกลุ่มตัวอย่าง ปรากฏว่าพฤติกรรมการบริโภคอาหารเจของคนกรุงเทพฯยังไม่เปลี่ยนแปลง โดยคาดว่าในปีนี้ยังคงมีคนกรุงเทพฯถึง 2 ใน 3 ของกลุ่มตัวอย่างที่ตั้งใจที่จะบริโภคอาหารเจ อย่างไรก็ตามคนกรุงเทพฯที่เป็นกลุ่มตัวอย่างส่วนใหญ่เลือกที่จะบริโภคอาหารเจเป็นบางวันหรือบางมื้อตามสะดวก คนกรุงเทพฯที่จะบริโภคอาหารเจคาดว่าจะมีค่าใช้จ่ายในการรับประทานอาหารเจเฉลี่ยประมาณวันละ 90 บาท ซึ่งเมื่อนำมาคำนวณแล้วคาดว่ามูลค่าของธุรกิจอาหารเจในปี 2548 สูงถึงประมาณ 1,650 ล้านบาทเฉพาะในช่วงเทศกาลกินเจ 9 วัน เพิ่มขึ้นร้อยละ 10.0 เมื่อเทียบกับในปี 2547
ปัจจัยที่เอื้ออำนวยในการเติบโตต่อธุรกิจอาหารเจในปีนี้ที่สำคัญ มีดังนี้

1.จำนวนคนกรุงเทพฯตั้งใจจะรับประทานอาหารเจมากขึ้น ทั้งนี้สาเหตุสำคัญเนื่องจากคนกรุงเทพฯหันมาสนใจในเรื่องสุขภาพมากยิ่งขึ้น รวมทั้งการรับประทานอาหารเจเพื่อที่จะได้ทำตามประเพณีขอร่วมกินเจทำบุญล้างกายและล้างใจ โดยการละเว้นการรับประทานเนื้อสัตว์ เท่ากับเป็นการลดการฆ่าสัตว์ตัดชีวิต นอกจากนี้ยังพบประเด็นสำคัญว่าอาหารเจนั้นสามารถจำหน่ายได้ตลอดทั้งปีเนื่องจากมีคนกรุงเทพฯบางกลุ่มที่นิยมบริโภคอาหารเจแม้ว่าจะไม่ได้อยู่ในช่วงเทศกาลกินเจ โดยมีลักษณะพฤติกรรมบริโภคอาหารเจตามสะดวก กินเจในช่วงวันพระ และกินเจโดยตลอด รวมทั้งยังมีคนกรุงเทพฯจำนวนมากขึ้นที่พยายามหลีกเลี่ยงการรับประทานเนื้อสัตว์เพื่อรักษาสุขภาพด้วย ซึ่งนับว่าเป็นอีกช่องทางหนึ่งของร้านจำหน่ายอาหารที่จะจัดให้มีเมนูอาหารเจไว้รองรับลูกค้ากลุ่มนี้โดยเฉพาะ

2.คนกรุงเทพฯหันมาบริโภคอาหารเจสำเร็จรูปมากขึ้น เพราะสะดวก มีจำหน่ายทั่วไป หาซื้อได้ไม่ยาก และราคาไม่แพง เนื่องจากปัจจัยสำคัญในการเลือกซื้ออาหารเจของคนกรุงเทพฯคือ มีคุณภาพ สะอาด และราคาไม่แพง ดังนั้นบรรดาร้านอาหารเจสำเร็จรูปคงต้องอาศัยกรรมวิธีการพลิกแพลงสูตรอาหารเพื่อที่จะตอบสนองความต้องการของลูกค้า เนื่องจากคาดว่าราคาวัตถุดิบในการประกอบอาหารเจ โดยเฉพาะผักต่างๆคาดว่าจะมีราคาสูงขึ้น โดยได้รับผลกระทบจากค่าขนส่ง อันเนื่องจากราคาน้ำมันที่แพงขึ้น และภาวะน้ำท่วมรวมทั้งภาวะฝนตกหนักที่สร้างความเสียหายให้กับผลผลิต โดยเฉพาะผักประเภทผักกินใบ

หลากธุรกิจปรับกลยุทธ์…รับมือผู้บริโภคเน้นประหยัด

เทศกาลกินเจที่จะมาถึงในช่วงมื้อเย็นวันที่ 2 ตุลาคมนี้คาดว่าสภาพตลาดจะมีการแข่งขันอย่างรุนแรง เนื่องจากผู้ประกอบการต้องการกระตุ้นกำลังซื้อของผู้บริโภคที่ถดถอย และมุ่งเพิ่มยอดขายเพื่อให้ผลประกอบการปลายปีเป็นไปตามเป้าหมายที่วางไว้ โดยรูปแบบการแข่งขันจะยังคงเป็นการจัดกิจกรรมส่งเสริมการขายตามจุดขาย จัดรายการส่งเสริมการจำหน่ายเพื่อให้เข้าถึงกลุ่มเป้าหมายโดยตรง และพยายามลดต้นทุนทุกด้านทั้งนี้เพื่อคงราคาสินค้าไว้ รวมถึงการเข้าสนับสนุนในชุมชนที่จัดพิธีกินเจ เช่น ภูเก็ต ตรัง เป็นต้น โดยปกติผลิตภัณฑ์เจจะมีฤดูการจำหน่ายสั้นประมาณ 10 วันเท่านั้นในช่วงเทศกาลกินเจ ดังนั้นจึงมีส่วนกระตุ้นยอดขายในระยะสั้นให้เพิ่มขึ้นประมาณร้อยละ 5-10 ของยอดขายในช่วงปกติ ความนิยมในการรับประทานอาหารเจอย่างแพร่หลาย โดยเฉพาะในช่วงเทศกาลกินเจ ร้านที่ไม่ได้มีอาหารเจไว้บริการลูกค้าจะมียอดจำหน่ายลดลง ธุรกิจที่ได้รับประโยชน์จากช่วงเทศกาลกินเจ ได้แก่

-อาหารเจสำเร็จรูปประเภทตักขาย จากการสำรวจทุกครั้งที่ผ่านมาพบว่าคนกรุงเทพฯที่รับประทานอาหารเจส่วนใหญ่เลือกซื้ออาหารสำเร็จรูป ซึ่งเป็นพฤติกรรมโดยปกติของคนกรุงเทพฯเพียงแต่ในช่วงเทศกาลกินเจนั้นในบางมื้อก็จะหันมาซื้ออาหารเจสำเร็จรูปประเภทตักขายรับประทานบ้าง และอาหารสำเร็จรูปยอดนิยมของคนกรุงเทพฯ คืออาหารเจสำเร็จรูปประเภทตักขายหรืออาหารเจประเภทจานเดียว โดยเฉพาะการรับประทานอาหารเจมื้อกลางวันและมื้อเย็น เนื่องจากสอดคล้องกับพฤติกรรมการรับประทานอาหารในช่วงปกติของคนกรุงเทพฯที่นิยมซื้ออาหารสำเร็จรูปประเภทตักขายอยู่แล้ว ซึ่งปัจจัยที่สำคัญ 3 อันดับแรกในการเลือกร้านที่จะซื้ออาหารเจ คือ ความสะอาด ราคาพอสมควร และคุณค่าทางอาหาร จะเห็นได้ว่าคนกรุงเทพฯที่กินเจนั้นไม่ได้เคร่งครัดในเรื่องการประกอบอาหารเจว่าถูกต้องตามประเพณีมากนัก เนื่องจากการประกอบอาหารเจที่ถูกต้องนั้นนอกจากจะต้องใช้ส่วนประกอบอาหารเจที่ถูกต้อง ไม่มีของต้องห้ามที่รับประทานไม่ได้แล้ว ภาชนะที่ใช้ในการปรุงอาหาร หรือแม้แต่ภาชนะที่ใช้ในการรับประทานนั้นจะต้องแยกต่างหากจากภาชนะปกติด้วย

ภาพรวมของตลาดอาหารเจสำเร็จรูปในปีนี้ยังคงเป็นที่นิยมของคนกรุงเทพฯ แต่คาดว่ายอดการจำหน่ายจะขยายตัวอยู่ในเกณฑ์สูง แต่การแข่งขันของธุรกิจอาหารเจโดยเฉพาะธุรกิจจำหน่ายอาหารเจสำเร็จรูป(ตักขาย)จะมีสูงมาก เนื่องจากผู้บริโภคมีทางเลือกมากขึ้น โดยเฉพาะอาหารเจกึ่งสำเร็จรูป และอาหารเจสำเร็จรูปแช่แข็ง รวมทั้งคาดว่าจะมีแม่ค้า/พ่อค้าทั้งรายใหม่เข้ามาจำหน่าย ดังนั้นบรรดาแม่ค้า/พ่อค้าที่จำหน่ายอาหารเจสำเร็จรูป(ตักขาย)คงเพิ่มราคาอาหารได้ไม่มากนัก คาดว่าธุรกิจร้านจำหน่ายอาหารเจในปีนี้แต่ละรายคงไม่ได้กำไรสูงมากนัก อย่างไรก็ตามผู้ที่ยังคงจะได้กำไรอย่างงดงามคือ ผู้ที่รู้จักดัดแปลงเครื่องปรุง และส่วนประกอบอาหารตามสถานการณ์ตลาด รวมทั้งมีทำเลที่ตั้งอยู่ในย่านชุมชน ซึ่งจะทำให้ได้ทั้งลูกค้าประจำและลูกค้าจร

-ร้านจำหน่ายส่วนประกอบของอาหารเจ จากการสำรวจพบว่าคนกรุงเทพฯไม่ถึงร้อยละ 10 เลือกที่จะทำอาหารเจรับประทานเอง ดังนั้นในช่วงเทศกาลกินเจร้านที่จำหน่ายส่วนประกอบของอาหารเจจะมียอดจำหน่ายเพิ่มขึ้น แหล่งจำหน่ายเครื่องปรุงอาหารเจที่สำคัญและเป็นแหล่งใหญ่ที่เป็นที่รู้จักคือ ตลาดเก่าเยาวราช ซึ่งมีเครื่องปรุงอาหารเจให้เลือกมากมายหลายประเภท ไม่ว่าจะเป็นเครื่องปรุงอาหารเจทั่วๆ ไป ตลอดจนเครื่องปรุงอาหารเจสำหรับผู้ที่ยังละทิ้งรสชาติของอาหารปกติไม่ได้ บรรดาพ่อค้าก็คิดค้น“แป้งประดิษฐ์” ซึ่งเป็นการดัดแปลงให้ละม้ายคล้ายกับเนื้อสัตว์ประเภทต่างๆ ทั้งรูปร่าง และรสชาติ ไม่ว่าจะเป็นหมูเนื้อแดง เครื่องในหมู หมูสามชั้น เป็ด ไก่ และเนื้อปลา โดยที่ในช่วงปกติตลาดแป้งประดิษฐ์นี้ผู้ที่ซื้อหาไปรับประทานจะเป็นผู้ที่รับประทานอาหารมังสวิรัติ และในช่วงเทศกาลกินเจนั้นแป้งประดิษฐ์นี้จะขายดิบขายดีมากขึ้นด้วย อาหารเจที่ทำจากแป้งประดิษฐ์นี้นับว่าช่วยเพิ่มสีสันในการกินเจได้อย่างมาก ซึ่งลูกค้าที่เลือกไปจับจ่ายที่ตลาดเก่าเยาวราชคือ บรรดาพ่อ/แม่ค้าที่ต้องการซื้อวัตถุดิบเพื่อมาประกอบอาหารจำหน่าย เจ้าของร้านค้าปลีก และบรรดาชาวจีนที่อยู่ในย่านใกล้เคียง

อย่างไรก็ตามปัจจุบันคู่แข่งสำคัญของตลาดเก่าเยาวราชคือ บรรดาซุปเปอร์มาร์เก็ตและศูนย์อาหารในห้างสรรพสินค้า โดยมีความได้เปรียบจากการที่เป็นแหล่งจับจ่ายของคนกรุงเทพฯในปัจจุบันอยู่แล้ว และยังมีความสะดวกทั้งในแง่ของที่จอดรถ ที่ตั้งกระจายอยู่ทั่วไปทำให้ลูกค้าได้รับความสะดวกในการเดินทาง ความสะอาดของสถานที่และที่นั่งรับประทาน รวมทั้งยังมีเครื่องปรับอากาศช่วยทำให้ลูกค้าไม่ต้องผจญกับอากาศร้อน ซึ่งบรรดาซุปเปอร์มาร์เก็ตและศูนย์อาหารในห้างสรรพสินค้าสามารถดึงลูกค้ารายย่อยเข้ามาจับจ่ายในช่วงเทศกาลกินเจได้อย่างมาก ประกอบกับบรรดาห้างสรรพสินค้ามีการจัดกิจกรรมส่งเสริมการจำหน่ายในช่วงเทศกาลกินเจด้วย
นอกจากนี้บรรดาร้านที่จัดเป็นตลาดย่อยๆ ตามแหล่งชุมชนต่างๆ และบรรดาแผงผัก รวมทั้งร้านขายของชำ และร้านที่ขายเต้าหู้และของเบ็ดเตล็ดในตลาดสดก็พลอยขายดิบขายดีไปตามๆ กัน โดยเฉพาะเต้าหู้ในช่วงเทศกาลกินเจนั้นจะได้รับความนิยมมากเป็นพิเศษ ผู้ที่จะประกอบอาหารเจรับประทานเองที่บ้านต้องไปตลาดแต่เช้า หรือไม่ก็ต้องมีเจ้าประจำสั่งจองไว้ล่วงหน้าเลยทีเดียว

-ร้านจำหน่ายน้ำเต้าหู้หรือนมถั่วเหลือง ผลจากการสำรวจพบว่าน้ำเต้าหู้และนมถั่วเหลืองบรรจุกล่องนั้นนับว่าเป็นอาหารเจยอดนิยมของคนกรุงเทพฯ ธุรกิจจำหน่ายน้ำเต้าหู้ร้อนๆ บริโภคกับปาท่องโก๋จะขายดิบขายดีทั้งในช่วงเช้าและช่วงเย็น ส่วนบริษัทที่ผลิตนมถั่วเหลืองบรรจุกล่องต้องมีการขยายกำลังการผลิตเพิ่มขึ้นจากภาวะปกติถึง 3 เท่าตัวเพื่อรับมือกับช่วงเทศกาลกินเจ
ส่วนประกอบอาหารเจที่ได้รับความนิยมในช่วงเทศกาลกินเจ ได้แก่

-ผัก ผักต่างๆนับว่าเป็นวัตถุดิบสำคัญอย่างหนึ่งในการประกอบอาหารเจ สำหรับร้านค้าที่ประกอบอาหารเจจำหน่ายจะนิยมไปซื้อผักที่ตลาดสี่มุมเมือง โดยผลจากการสำรวจพบว่าคนกรุงเทพฯที่ประกอบอาหารเจรับประทานเองนิยมใช้ผักเป็นส่วนประกอบสำคัญ ความต้องการผักในช่วงเทศกาลกินเจนั้นพุ่งสูงขึ้นจากช่วงปกติประมาณ 1 เท่าตัว จนกระทั่งนับได้ว่าราคาผักในช่วงกินเจเป็นช่วงที่ผักมีราคาแพงช่วงหนึ่งของปี อย่างไรก็ตามในปีนี้เนื่องจากกระแสการรักษาสุขภาพนั้นมาแรงมาก ประเภทผักที่คาดว่าจะมีการขยายตัวของการบริโภคอย่างมาก คือ ผักปลอดสารพิษ หรือผักอนามัย แม้ว่าผักประเภทนี้จะมีราคาสูงกว่าผักโดยทั่วไปก็ตาม

-โปรตีนเกษตร เดิมนั้นสินค้าตัวนี้พัฒนาขึ้นเพื่อเป็นทางเลือกทดแทนโปรตีนจากเนื้อสัตว์ ซึ่งต่อมาก็เป็นที่แพร่หลายในกลุ่มของผู้ที่รับประทานมังสวิรัติ และผู้ที่พยายามหลีกเลี่ยงในการรับประทานเนื้อสัตว์เพื่อสุขภาพ ตั้งแต่ปี 2539 บริษัทเอกชนมีการพัฒนาโปรตีนเกษตรไปอีกขั้นหนึ่ง โดยการสกัดไขมันในระหว่างขั้นตอนการผลิต ยอดจำหน่ายโปรตีนเกษตรในช่วงเทศกาลกินเจในแต่ละปีคาดว่าสูงถึง 200 ล้านบาททีเดียว

-น้ำมันพืชและซอสปรุงรส ในช่วงเทศกาลกินเจจะมีโฆษณาของน้ำมันพืชและซอสปรุงรสให้เห็นอยู่เนืองๆ ประมาณว่าในช่วงเทศกาลกินเจในแต่ละปียอดจำหน่ายน้ำมันพืชและซอสปรุงรสเพิ่มขึ้นอีกร้อยละ 5 ของยอดจำหน่ายปกติ

-อาหารเจสำเร็จรูปและกึ่งสำเร็จรูป อาหารเจที่เป็นที่นิยมอย่างมากอีกประเภทหนึ่งคือ อาหารเจสำเร็จรูปและอาหารเจกึ่งสำเร็จรูป ซึ่งบรรดาบริษัทผู้ผลิตเพิ่มความหลากหลายให้กับสินค้าเพื่อเพิ่มทางเลือกให้กับผู้บริโภค สินค้าเหล่านี้ขายดิบขายดีอย่างมากในช่วงเทศกาลกินเจ เนื่องจากสามารถเพิ่มความสะดวกสบายให้กับผู้บริโภคมากขึ้น สอดคล้องกับการดำเนินชีวิตของคนกรุงเทพฯที่ต้องทำกิจกรรมทุกอย่างแข่งกับเวลา นอกจากนี้ผู้ผลิตยังมีการพัฒนาเพิ่มผลิตภัณฑ์ใหม่ๆเข้าสู่ตลาดอย่างต่อเนื่อง ทำให้อาหารเจสำเร็จรูปเป็นที่นิยมมากขึ้นในปัจจุบัน ตลาดอาหารเจสำเร็จรูปที่น่าสนใจคือ อาหารเจกระป๋อง ซึ่งมีอัตราการเติบโตของตลาดไม่ต่ำกว่าร้อยละ 20-25 ในแต่ละปี คาดว่าตลาดอาหารเจกระป๋องเฉลี่ยในแต่ละปีสูงถึง 200 ล้านบาท และอาหารเจสำเร็จรูปแช่แข็งรวมทั้งอาหารเจกึ่งสำเร็จรูป ผู้ที่ผลิตอาหารสำเร็จรูปหันมาพัฒนาเพื่อตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคในช่วงของเทศกาลกินเจ โดยยังคงอาศัยช่องทางการจัดจำหน่ายเดิมในการกระจายสินค้า เน้นการจัดจำหน่ายในซุปเปอร์มาร์เก็ตของห้างสรรพสินค้า และร้านสะดวกซื้อที่มีกระจายอยู่ทั่วไป ซึ่งในแต่ละช่วงที่มีเทศกาลกินเจยอดจำหน่ายสินค้าประเภทนี้ทำเงินให้กับผู้ผลิตอย่างงดงามทีเดียว นอกจากนี้บริษัทผู้ผลิตอาหารเจสำเร็จรูปและกึ่งสำเร็จรูปยังหันไปจับลูกค้าเป้าหมายที่รักษาสุขภาพโดยการบริโภคอาหารเพื่อสุขภาพและหลีกเลี่ยงการบริโภคเนื้อสัตว์ ทั้งนี้เพื่อให้สามารถมียอดจำหน่ายตลอดทั้งปี

อุปสรรคในการกินเจ…คุณค่าทางอาหารไม่ครบ และกลัวน้ำหนักขึ้น
บริษัท ศูนย์วิจัยกสิกรไทย จำกัด พบว่าอุปสรรคสำคัญในการรับประทานอาหารเจคือ คุณค่าทางอาหารไม่ครบ และกลัวน้ำหนักขึ้น เนื่องจากอาหารเจส่วนใหญ่จะประกอบด้วยแป้งและเป็นอาหารมันๆ ดังนั้นผู้บริโภคอาหารเจบางกลุ่มโดยเฉพาะกลุ่มผู้หญิงและบรรดาวัยรุ่นกังวลว่าการบริโภคอาหารเจจะสร้างปัญหากับน้ำหนักตัวและสุขภาพ ดังนั้นถ้าผู้ประกอบธุรกิจอาหารเจจับประเด็นในเรื่องคุณค่าทางโภชนาการนี้เป็นหลักในการประชาสัมพันธ์โดยเน้นปรุงอาหารเจที่มีคุณค่าทางอาหารครบและทานแล้วไม่ส่งผลให้น้ำหนักเพิ่มมากนักจะทำให้สามารถขยายตลาดอาหารเจออกไปได้อีกมาก

ทุกปีที่ผ่านมาในช่วงของเทศกาลกินเจนับเป็นช่วงของการกอบโกยกำไรของธุรกิจจำหน่ายอาหารเจ โดยเฉพาะร้านอาหารเจสำเร็จรูปประเภทตักขาย มักจะมีข้ออ้างในเรื่องของส่วนประกอบที่นำมาทำอาหารเจนั้นมีราคาแพงโดยเฉพาะผัก ซึ่งเมื่อใกล้ถึงเทศกาลกินเจเกษตรกรส่วนใหญ่ชะลอการเก็บผลผลิตเพื่อรอให้เข้าสู่เทศกาลกินเจเสียก่อน เนื่องจากคาดหวังว่าจะได้ราคาสูงกว่าเดิม ดังนั้นราคาผักนั้นเริ่มสูงขึ้นก่อนช่วงเทศกาลประมาณ 1 สัปดาห์ และในช่วงเทศกาลกินเจก็ปรับตัวสูงขึ้นอีก เนื่องจากเป็นช่วงที่ความต้องการในการบริโภคเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะผักที่เป็นที่นิยมในการบริโภค เช่น ผักบุ้งจีน ผักคะน้า กะหล่ำปลี ผักกาดขาว ผักกวางตุ้ง ถั่วฝักยาว เป็นต้น นอกจากนี้ในปีนี้ยังมีปัจจัยในเรื่องราคาน้ำมันที่อยู่ในเกณฑ์สูง และน้ำท่วมและภาวะฝนตกหนักมาซ้ำเติมให้ราคาผักพุ่งสูงขึ้นไปอีก
นอกจากนี้การเลือกซื้อและบริโภคอาหารเจนั้นผู้บริโภคพิถีพิถันในเรื่องของความสะอาดมาก่อนการคำนึงในเรื่องของรสชาติอาหาร เพราะในยุคนี้กระแสการระมัดระวังในเรื่องการรักษาสุขอนามัยมาแรง ดังนั้นร้านอาหารและแผงลอยที่จำหน่ายอาหารเจก็ต้องตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคในการจำหน่ายอาหารเจที่คำนึงทั้งในเรื่องของความสะอาด ปลอดภัย และถูกต้องตามหลักสุขอนามัย รวมทั้งสุขอนามัยของสถานที่ปรุงและสถานที่จำหน่าย ความสะอาดของภาชนะอุปกรณ์ที่ใช้ ตลอดจนผู้ที่สัมผัสกับอาหารต้องมีสุขนิสัยที่ดี เช่น ต้องมีการล้างมือให้สะอาดอยู่เสมอ ต้องสวมหมวกในขณะปรุงและขายอาหารอยู่ตลอดเวลา เป็นต้น อาหารเจที่ปรุงสำเร็จ แล้วจะต้องมีการเก็บไว้ในภาชนะที่มีฝาปิดมิดชิด และมีการอุ่นให้ร้อนเป็นระยะๆ กรณีที่ต้องมีการเก็บเกิน 4 ชั่วโมงควรเก็บไว้ในตู้เย็น เมื่อนำออกมาจำหน่ายหรือนำไปบริโภคก็จะต้องอุ่นให้ร้อนอีกครั้งหนึ่ง

บทสรุป
บรรยากาศในการกินเจปี 2548 นี้คาดว่าจะคึกคักเช่นเดียวกับในปีที่ผ่านๆมา เนื่องจากคาดว่ามีคนกรุงเทพฯที่ตั้งใจจะกินเจมากขึ้นและเปลี่ยนพฤติกรรมหันมาบริโภคอาหารสำเร็จรูปมากขึ้น แม้ว่าผู้บริโภคจะยังเน้นนโยบายประหยัดมากกว่าในช่วงที่ผ่านมา เนื่องจากราคาน้ำมันที่อยู่ในเกณฑ์สูงเมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา โดยจะเห็นได้ว่าค่าใช้จ่ายในการบริโภคอาหารเจต่อคนนั้นเพิ่มขึ้นไม่มากนัก แต่คาดว่าจำนวนคนกรุงเทพฯที่หันมารับประทานอาหารเจจะมีมากขึ้น อย่างไรก็ตามยังมีหลากหลายธุรกิจที่ได้รับอานิสงส์จากช่วงเทศกาลกินเจที่ทำให้ยอดจำหน่ายเพิ่มขึ้นในช่วงนี้ นับได้ว่าประเพณีที่เกิดจากความเชื่อถือที่มีการปฏิบัติติดต่อกันมาเป็นเวลานานช่วยให้หลากธุรกิจพลิกกลยุทธ์รับประโยชน์ได้อย่างเป็นกอบเป็นกำในช่วงเทศกาลกิจเจ 10 วัน อย่างไรก็ตามการกินเจในปีนี้ยังคงมีปัจจัยหนุนเนื่องหลายประการได้แก่ ในปีนี้มีคนกรุงเทพฯตั้งใจจะกินเจในช่วงเทศกาลกินเจเพิ่มขึ้น เพื่อที่จะได้ขอร่วมกินเจทำบุญล้างกายและล้างใจ และกระแสความเชื่อว่าการกินเจช่วยทำให้สุขภาพอนามัยสมบูรณ์แข็งแรง พร้อมที่จะรับมือกับภาวะวิกฤตทางเศรษฐกิจที่เข้ามารุมเร้าอยู่ในเวลานี้ รวมทั้งการรับประทานอาหารเจในปัจจุบันไม่ได้ยากลำบากเหมือนกับเมื่อก่อน เนื่องจากมีธุรกิจหลายแขนงผลิตสินค้าขึ้นมาสนองความต้องการของคนที่รับประทานอาหารเจ ทำให้ยอดจำหน่ายสินค้าเหล่านี้เพิ่มขึ้นในช่วงเทศกาลกินเจ นอกจากนี้เป็นที่น่าสังเกตว่าในปีนี้ผู้บริโภคอาหารเจต่างปรับตัว โดยหันไปรับประทานอาหารเจกึ่งสำเร็จรูป อาหารเจสำเร็จรูปแช่แข็ง เบเกอรี่เจ ซึ่งเป็นทางเลือกใหม่ของอาหารเจมากขึ้น