สึนามิกระทบเทศกาลเจภูเก็ต : รายได้ท่องเที่ยวน้อยกว่าที่คาด

ตลาดท่องเที่ยวภูเก็ตในช่วงที่มีการจัดงานประเพณีถือศีลกินผักปีนี้ คือ ระหว่างวันที่ 3-11 ตุลาคม 2548 มีแนวโน้มไม่คึกคักเท่าที่ผ่านมา เนื่องจากเหตุการณ์สึนามิส่งผลกระทบทำให้ตลาดท่องเที่ยวภูเก็ตซบเซาลง โดยเฉพาะตลาดนักท่องเที่ยวเอเชียในกลุ่มนักท่องเที่ยวเชื้อสายจีนที่อยู่ในหลายประเทศแถบเอเชีย อาทิ ประเทศมาเลเซีย สิงคโปร์ ไต้หวัน ฮ่องกง และจีน ซึ่งเป็นนักท่องเที่ยวกลุ่มหลักที่เดินทางมาร่วมเทศกาลถือศีลกินผักที่ภูเก็ตเป็นประจำทุกปี

งานประเพณีถือศีลกินผัก เป็นงานประเพณีที่เก่าแก่ของชาวภูเก็ต ซึ่งได้ปฏิบัติสืบเนื่องกันมาเป็นประจำทุกปี โดยเริ่มครั้งแรกที่อำเภอกะทู้ในปี 2368 ตั้งแต่วันขึ้น 1 ค่ำถึงวันขึ้น 9 ค่ำเดือน 9 ตามปฏิทินจีนรวม 9 วัน 9 คืน สำหรับในปีนี้จังหวัดภูเก็ตได้กำหนดให้มีงานประเพณีถือศีลกินผักในวันที่ 3-11 ตุลาคม 2548 โดยจะมีศาลเจ้าต่างๆในภูเก็ตประกอบพิธีกรรมตั้งแต่ช่วงบ่ายของวันที่ 2 ตุลาคม 2548

ในปีนี้ทางจังหวัดภูเก็ต และศาลเจ้าในภูเก็ต รวมทั้งหน่วยงานต่างๆที่เกี่ยวข้องทั้งของภาครัฐและภาคเอกชนจะร่วมกันจัดงานประเพณีถือศีลกินผักอย่างยิ่งใหญ่กว่าทุกปี ทั้งนี้เนื่องจาก

– เพื่อเป็นการเสริมสิริมงคลแก่เกาะภูเก็ตหลังจากเกิดเหตุการณ์สึนามิเมื่อวันที่ 26 ธันวาคม 2547

– เพื่อให้เทศกาลถือศีลกินผักเป็น 1 ในกิจกรรมสำคัญที่จะจัดอย่างยิ่งใหญ่ต่อเนื่องไปในช่วงไตรมาสสุดท้ายของปี 2548 เพื่อกระตุ้นการท่องเที่ยวภูเก็ตให้กลับมาคึกคักอีกครั้ง

นอกจากการจัดงานตามประเพณีอย่างยิ่งใหญ่ดังกล่าวแล้ว สมาคมเต๋าจากประเทศไต้หวันยังให้การสนับสนุนด้วยการนำม้าทรงจากไต้หวัน 80 คนมาร่วมขบวนแห่ในตัวเมือง หาดป่าตอง หาดกะตะ หาดกะรน และที่บริเวณเขาหลัก จังหวัดพังงาด้วย เพื่อเสริมความเป็นสิริมงคลให้แก่จังหวัดภูเก็ต และนักท่องเที่ยวทั้งคนไทยและต่างชาติ โดยเฉพาะนักท่องเที่ยวเชื้อสายจีน เพื่อเกิดความมั่นใจในการเดินทางมาเที่ยวภูเก็ต

รวมทั้งมีการอัญเชิญสิ่งศักดิ์สิทธิ์จากมณฑลฮกเกี้ยน คือ ม่าจ้อโป๋ มาให้ชาวภูเก็ตและนักท่องเที่ยวเชื้อสายจีนได้สักการะบูชาในช่วงเทศกาลถือศีลกินผัก และนำการแสดงหุ่นกระบอกจากเมืองเฉินโจ มณฑลฮกเกี้ยนเข้ามาแสดงระหว่างวันที่ 3-10 ตุลาคม 2548 วันละ 2 รอบที่ลานนวมินทร์

ขณะที่ทางจังหวัดภูเก็ตเองก็ประชาสัมพันธ์ให้คนภูเก็ตหันมาถือศีลกินผักกันทั้งเมือง เพื่อเสริมสิริมงคลให้กับตนเองและเกาะภูเก็ต
แม้ว่างานเทศกาลถือศีลกินผักภูเก็ตในปีนี้จะจัดขึ้นอย่างยิ่งใหญ่ดังกล่าว แต่จากสถานการณ์การท่องเที่ยวภูเก็ตที่ซบเซาลงมากหลังจากเกิดเหตุการณ์สึนามิ โดยเฉพาะตลาดระยะใกล้ในภูมิภาคเอเชีย ซึ่งเป็นตลาดหลักในช่วงนอกฤดูท่องเที่ยวของภูเก็ต มีแนวโน้มซบเซาอย่างต่อเนื่อง เมื่อประกอบกับสายการบินต่างๆเพิ่งจะเริ่มเปิดเที่ยวบินมาภูเก็ต เพื่อรองรับนักท่องเที่ยวที่เริ่มทยอยกลับมาเที่ยวภูเก็ตในช่วงฤดูท่องเที่ยว ทำให้คาดว่าการท่องเที่ยวภูเก็ตในช่วงเทศกาลถือศีลกินผักปีนี้จะไม่คึกคักเท่าที่ควร

เมื่อพิจารณาจากจำนวนนักท่องเที่ยวทั้งคนไทยและต่างชาติที่พำนักค้างคืนในภูเก็ตช่วงเดือนตุลาคม 2547 ที่มีประมาณเกือบ 4 แสนคน ในจำนวนนี้ประมาณร้อยละ 45 ที่เดินทางเข้ามาเที่ยวในช่วงเทศกาลถือศีลกินผักของภูเก็ต ประกอบกับตลาดท่องเที่ยวภูเก็ตที่ถดถอยลงกว่าร้อยละ 50 ในช่วงครึ่งแรกของปี 2548 และมีการจัดเทศกาลเจในหลายพื้นที่ตามเมืองท่องเที่ยวสำคัญ รวมทั้งแหล่งท่องเที่ยวชายทะเลในฝั่งอ่าวไทย ได้แก่

– พัทยา จัดงานมหากุศล อิ่มบุญ อิ่มใจ เทศกาลกินเจเมืองพัทยาประจำปี 2548 ระหว่างวันที่ 2-12 ตุลาคม 2548

– ชุมพร จัดเทศกาลถือศีล..กินผัก..ไหว้พระด้วยผลไม้มงคล..เมืองชุมพร ระหว่างวันที่ 2-11 ตุลาคม 2548

บริษัท ศูนย์วิจัยกสิกรไทย จำกัด จึงคาดการณ์ว่า ในเดือนตุลาคม 2548 จะมีนักท่องเที่ยวทั้งคนไทยและต่างชาติเดินทางเข้ามาพำนักท่องเที่ยวในภูเก็ตรวมทั้งสิ้นประมาณ 284,000 คนลดลงจากปีที่แล้วร้อยละ 26 และคาดว่าในจำนวนนี้ประมาณร้อยละ 45 จะเป็นนักท่องเที่ยวที่เดินทางเข้ามายังภูเก็ตในช่วงเทศกาลถือศีลกินผักซึ่งมีจำนวนเกือบ 130,000 คนลดลงร้อยละ 30 จากปีที่แล้วช่วงเดียวกัน

นักท่องเที่ยวที่เดินทางเข้ามาพำนักท่องเที่ยวในภูเก็ตช่วงเทศกาลถือศีลกินผักประกอบด้วยนักท่องเที่ยวคนไทยประมาณเกือบร้อยละ 40 และนักท่องเที่ยวต่างชาติประมาณกว่าร้อยละ 60 ซึ่งส่วนใหญ่เป็นนักท่องเที่ยวจากเอเชีย ได้แก่ ไต้หวัน ญี่ปุ่น ฮ่องกง เกาหลี จีน สิงคโปร์ และมาเลเซีย รองลงมาเป็นนักท่องเที่ยวจากยุโรปที่เริ่มเดินทางเข้ามาเพิ่มขึ้นตามลำดับในช่วงไตรมาสสุดท้ายของปี 2548 ได้แก่ ประเทศในกลุ่มสแกนดิเนเวีย อังกฤษ และเยอรมนี รวมทั้งออสเตรเลีย

นักท่องเที่ยวที่เดินทางเข้ามายังภูเก็ตในช่วงดังกล่าวมีทั้งที่เดินทางมาเพื่อท่องเที่ยวพักผ่อน และที่เดินทางมาเพื่อร่วมงานประเพณีถือศีลกินผัก ซึ่งมีพิธีที่ศาลเจ้าแต่ละแห่งในภูเก็ตจัดขึ้นรวมทั้งพิธีสะเดาะเคราะห์ และพิธีกรรมที่น่าตื่นตาตื่นใจ เช่น พิธีแห่พระรอบเมือง พิธีลุยไฟ และพิธีไต่บันไดมีด เป็นต้น

การใช้จ่ายในด้านต่างๆของนักท่องเที่ยวระหว่างที่พำนักท่องเที่ยวอยู่ในภูเก็ตช่วงเทศกาลถือศีลกินผัก ก่อให้เกิดรายได้ด้านการท่องเที่ยวคิดเป็นมูลค่าประมาณ 2,500 ล้านบาทลดลงร้อยละ 34 จากปีที่แล้วช่วงเดียวกัน

เม็ดเงินมูลค่า 2,500 ล้านบาทดังกล่าวสะพัดสู่ธุรกิจท่องเที่ยวสำคัญๆที่เกี่ยวข้องในช่วงเทศกาลถือศีลกินผัก ภูเก็ต ดังนี้

? ธุรกิจบริการด้านที่พัก
คาดว่าจะมีรายได้ในช่วงเทศกาลถือศีลกินผักประมาณ 700 ล้านบาท หรือในสัดส่วนร้อยละ 28 ของรายได้ด้านการท่องเที่ยวทั้งหมดในช่วงเทศกาลถือศีลกินผักของภูเก็ต โดยเม็ดเงินส่วนใหญ่จะกระจายไปสู่ธุรกิจโรงแรมในภูเก็ตที่คาดว่าสามารถเปิดให้บริการในช่วงเทศกาลถือศีลกินผักได้ประมาณกว่าร้อยละ 90 ของจำนวนโรงแรมทั้งหมดที่มีอยู่ประมาณ 579 แห่งในปี 2547 ส่วนที่เหลือเป็นโรงแรมที่ได้รับความเสียหายจากสึนามิและอยู่ระหว่างรอบริษัทประกันประเมินราคาความเสียหายหรือรอการขอสินเชื่อจากสถาบันการเงินเพื่อมาซ่อมแซม สำหรับโรงแรมที่คาดว่าจะได้รับประโยชน์จากเทศกาลถือศีลกินผักของภูเก็ต โดยมีนักท่องเที่ยวจองที่พักเข้ามาจำนวนมาก คือ โรงแรมในเมืองที่มีอยู่ประมาณ 54 แห่งและมีห้องพักรวมกันประมาณ 4,095 ห้อง ในจำนวนนี้โรงแรมกลุ่มที่มีอัตราค่าห้องพักเฉลี่ยคืนละต่ำกว่า 1,500 บาทลงมาถึง 1,000 บาทจะมีอัตราการเข้าพักสูงสุดในกลุ่มโรงแรมในเมืองทั้งหมด

? ธุรกิจจำหน่ายสินค้าของที่ระลึกนักท่องเที่ยว
มีรายได้ประมาณ 500 ล้านบาทหรือในสัดส่วนร้อยละ 20 โดยมีสินค้าโอทอปที่ได้รับการพัฒนาในด้านรูปแบบตลอดจนบรรจุภัณฑ์จนได้รับความสนใจจากนักท่องเที่ยวต่างชาติอย่างกว้างขวาง เป็นสินค้าที่ได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยวทั้งคนไทยและต่างชาติ นอกจากนี้ ยังมีร้านจำหน่ายสินค้าปลอดอากร ที่ภาครัฐมีโครงการนับสนุนการท่องเที่ยวใน 3 จังหวัดอันดามันซึ่งรวมทั้งภูเก็ต โดยให้นักท่องเที่ยวคนไทยที่เดินทางมาพักค้างคืนในพื้นที่ดังกล่าวสามารถซื้อสินค้าในร้านค้าปลอดอากรได้ตามเงื่อนไขที่กำหนดตั้งแต่วันที่ 1 กันายน – 31 ธันวาคม 2548 รวมทั้งภาครัฐยังได้แก้ไขระเบียบเพื่ออำนวยความสะดวกแก่นักท่องเที่ยวที่ซื้อสินค้าจากร้านค้าปลอดอากร โดยให้นำสินค้าติดตัวไปได้เลยจากเดิมที่ต้องไปรับที่สนามบิน

? ธุรกิจภัตตาคารและร้านอาหาร
มีรายได้ประมาณ 450 ล้านบาทหรือในสัดส่วนร้อยละ 18

? ธุรกิจบริการนำเที่ยวและการคมนาคมภายในภูเก็ต
มีรายได้ประมาณ 400 ล้านบาทหรือในสัดส่วนร้อยละ 16

? ธุรกิจด้านบันเทิงและพักผ่อน
รวมทั้งธุรกิจสปาและนวดแผนโบราณ ตลอดจนกิจกรรมด้านกีฬา อาทิ กอล์ฟ ดำน้ำ เป็นต้น มีรายได้ประมาณ 350 ล้านบาท หรือในสัดส่วนร้อยละ 14