“คอมมาร์ต คอมเทค ไทยแลนด์ 2005” สำเร็จเกินคาด ยอดขายทะลุ 1 พันล้านบาท พลิกประวัติศาสตร์ารจัดงานแสดงสินค้าไอทีสู่ “ไอทีมหาชน”

นายปฐม อินทโรดม ผู้จัดการทั่วไป บริษัท เอ.อาร์.อินฟอร์เมชัน แอนด์ พับลิเคชัน จำกัด ผู้จัดงานคอมมาร์ต คอมเทค ไทยแลนด์ เปิดเผยถึง ภาพรวมของการจัดงาน “คอมมาร์ต คอมเทค ไทยแลนด์ 2005” ซึ่งจัดขึ้นเมื่อวันที่ 24-27 พฤศจิกายน 2548 ที่ผ่านมาว่า การจัดงานในครั้งนี้ถือได้ว่าประสบความสำเร็จอย่างงดงาม และได้สร้างประวัติศาสตร์ของการจัดงานแสดงและจำหน่ายสินค้าไอทีครั้งสำคัญ 2 เรื่องด้วยกัน กล่าวคือ

เรื่องแรก เป็นการทำลายสถิติยอดขายโน้ตบุ๊กเป็นจำนวนกว่า 13,000 เครื่อง มากกว่าการจัดงานเมื่อต้นปีที่ทำยอดได้ประมาณ 7,000 เครื่อง ซึ่งเติบโตเพิ่มขึ้นถึง 73 เปอร์เซ็นต์

เรื่องที่สอง เป็นการพลิกโฉมอันดับการทำรายได้ที่มีการเปลี่ยนแปลงผันผวนมาก เป็นประวัติการณ์ที่สะท้อนให้เห็นถึงความต้องการของผู้บริโภค และตลาดสินค้าไอที

อันดับ 1 : ยังคงเป็นโน้ตบุ๊กที่ยังครองเจ้าตลาดไอทีมาตั้งแต่ต้นปี ทำยอดขายในงาน 13,000 เครื่อง มูลค่า 585 ล้านบาท

อันดับที่ 2 : เครื่องพริ้นเตอร์ ที่มียอดการจำหน่ายถึง 10,500 เครื่อง มูลค่า 80 ล้านบาท แซงหน้า กล้องดิจิตอล ที่เคยครองอันดับนี้มาก่อน ทั้งนี้ เนื่องจากครึ่งปีหลังมีการเปิดตัวเครื่องพริ้นเตอร์รุ่นใหม่หลากหลายรุ่นในหลายยี่ห้อ และพฤติกรรมของผู้บริโภคที่เริ่มหันมาให้ความสนใจในเรื่องการพริ้นภาพมากขึ้นขณะเดียวกันบริษัทผู้ผลิตเองได้มีพัฒนาการทางเทคโนโลยีการพิมพ์แบบไร้สายและมีรูปแบบมัลติฟังก์ชั่นมากขึ้น

อันดับที่ 3 : เครื่องเล่นเอ็มพี 3 ซึ่งรวมทั้งเครื่องเล่นแบบฮาร์ดดิสต์ ไมโครไดรฟ์ แฟลชไดรฟ์ และเอ็นเตอร์เทนเมนท์เพลเยอร์ ยอดจำหน่ายสินค้ารวม 12,000 เครื่อง มูลค่า 75 ล้านบาท

อันดับ 4 : กล้องดิจิตอล ที่แต่เดิมเคยติดอันดับยอดจำหน่ายต้นๆ ซึ่งในช่วงนั้นผู้บริโภคต้องการใช้กล้องดิจิตอลมากกว่าการใช้ฟิล์ม มาในครั้งนี้พบว่าผู้ซื้อหันมาให้ความสำคัญและอัพเกรดคุณภาพของกล้องในระดับ 6-8 ล้านพิกเซลมากขึ้น

อันดับ 5 : เครื่องคอมพิวเตอร์พีซี โดยแนวโน้มของพีซีกำลังอยู่ในช่วงตามกระแส โดยเฉพาะความต้องการของเกมเมอร์ ที่ต้องการได้คอมพิวเตอร์พีซีที่เป็นระบบดูอัลคอร์ล และชิปเพนเทียมยังคงได้รับความนิยมอย่างต่อเนื่อง

อันดับ 6 : จอแอลซีดี

นายปฐม กล่าวเพิ่มเติมว่า จากการจัดลำดับข้างต้นนี้จะเห็นได้ว่าเมื่อเปรียบเทียบกับการจัดงานครั้งที่ผ่านมาพบว่าตั้งแต่อันดับ 2 จนถึงอันดับ 6 นั้น มีการเปลี่ยนแปลงทั้งหมดจำนวนผู้เข้าชมงานในครั้งนี้เกินความคาดหมายที่วางไว้ โดยกลุ่มผู้ซื้อหลัก ๆ เป็นผู้ประกอบธุรกิจขนาดกลางจนถึงขนาดเล็ก หรือกลุ่ม SMEs เพื่อนำไปใช้เพิ่มศักยภาพในการทำธุรกิจ ให้ประสบความสำเร็จ และสะดวกรวดเร็วมากขึ้น

“ไม่เคยมีการจัดงานไอทีครั้งใดที่สร้างประวัติศาสตร์เช่นนี้มาก่อน ไม่ว่าจะเป็นมูลค่าการขายสินค้าที่ทะลุ 1,000 ล้านบาท ยอดจำหน่ายโน้ตบุ๊กถึง 13,000 เครื่อง และเป็นงานที่มีการเปิดตัวสินค้าไอทีรุ่นใหม่มากที่สุดเป็นประวัติการณ์ และยังเป็นงานเดียวที่มีผู้จำหน่ายสินค้าไอทีครบทุกแบรนด์ ทำให้ผู้ซื้อสามารถเลือกซื้อสินค้าได้อย่างจุใจ เนื่องจากปัจจุบันผู้ซื้อมีความต้องการสินค้าเฉพาะตัวมากขึ้น การมีสินค้าหลากหลายให้เลือก ทำให้สามารถตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคได้สูงสุด ดังนั้น ความสำเร็จของการจัดงานคอมมาร์ตในครั้งนี้ จึงอาจเรียกได้ว่าเป็นงานไอทีมหาชนอย่างแท้จริง”

ในส่วนไฮไลน์อื่นๆของงาน ไม่ว่าจะเป็นการแสดงบนเวทีหรือการเปิดให้ประมูลสินค้าไอที ในแต่ละวันได้รับความสนใจจากผู้เข้าชมงานเป็นอย่างมาก โดยราคาสินค้าที่นำมาประมูลนั้น ผู้เข้าชมงานสามารถประมูลได้ในราคาที่ต่ำกว่าราคาขายในท้องตลาดตั้งแต่ 30 – 70 เปอร์เซ็นต์