นายธีรบุล หอสัจจกุล ประธานกรรมการบริษัท เจ.ดี ฟู้ด โปรดักท์ส จำกัด เปิดเผยว่า จากการนำผลิตภัณฑ์อาหารกึ่งสำเร็จรูปประเภทข้าว ก๋วยเตี๋ยวผัดไท และผงแกงภายใต้ชื่อ “กินดี” ออกสู่ตลาดเมื่อกลางปี 2548 ที่ผ่านมา ได้รับการตอบสนองอย่างดีจากผู้บริโภค เนื่องด้วยมีจุดเด่นที่แตกต่างจากคู่แข่ง ทั้งในด้านของรสชาติที่เข้มข้นถูกปากคนไทย และยังมีความสะดวกง่ายต่อการปรุง รวมถึงราคาที่ไม่แพงจนเกินไป ทำให้ “กินดี” มีส่วนแบ่งในตลาดประมาณ 1 % ของตลาดอาหารกึ่งสำเร็จรูปชนิดถ้วยที่มีมูลค่ารวมราว 550 ล้านบาท และคาดว่า “กินดี” จะมีส่วนแบ่งเพิ่มขึ้นเป็น 5% ในปี 2549 เนื่องจากจะมีการรุกตลาดอย่างเต็มรูปแบบ และเพิ่มไลน์ของอาหารกึ่งสำเร็จรูปให้มากขึ้น
ผลิตภัณฑ์อาหารกึ่งสำเร็จรูป “กินดี” ที่จำหน่ายอยู่ในปัจจุบัน ประกอบด้วย ผลิตภัณฑ์ใน 3 กลุ่มหลัก คือ
– ประเภทข้าวกึ่งสำเร็จรูปพร้อมเครื่องปรุงรส
ได้แก่ ข้าวหมก ข้าวผัดกุ้ง และข้าวผัดกระเพรา ที่สามารถปรุงด้วยวิธีง่าย ๆ ด้วยการใช้น้ำเดือด หรือปรุงด้วยไมโครเวฟ ราคาจำหน่ายประมาณ 24-25 บาท
– ประเภทก๋วยเตี๋ยวกึ่งสำเร็จรูปพร้อมเครื่องปรุงรส
ได้แก่ ผัดไทย ที่สามารถปรุงได้ด้วยน้ำเดือด หรือไมโครเวฟเช่นกัน ราคาจำหน่ายประมาณ 25-26 บาท
– ประเภทผงแกงกึ่งสำเร็จรูป
ได้แก่ แกงเขียวหวาน ต้มข่า และต้มยำ ซึ่งสามารถปรุงได้ด้วยเตาหรือไมโครเวฟ ราคาจำหน่ายประมาณ 19-20 บาท
โดยทั้ง 3 ชนิดบรรจุอยู่ในกล่องสีสันสดใสสะดุดตา และลวดลายที่แสดงถึงเอกลักษณ์ความเป็นไทย
นายธีรบุลกล่าวถึงแผนการตลาดว่า จะเน้นการทำตลาดกับกลุ่มเป้าหมายหลักซึ่งเป็นกลุ่มคนทำงานรุ่นใหม่ และนักศึกษา ด้วยการจัดกิจกรรมโรดโชว์ตามอาคารสำนักงาน และสถาบันต่าง ๆ รวมทั้งจะมีการขยายช่องทางการขายไปยังโมเดิร์นเทรดใหม่ ๆ เพิ่มเติม พร้อมทั้งขยายไลน์ของผลิตภัณฑ์ให้มากขึ้นอย่างต่อเนื่อง
สำหรับแผนการโฆษณา และส่งเสริมการขายนั้น นายธีรบุลกล่าวว่า ได้เตรียมงบประมาณไว้ราว 30 ล้านบาท เพื่อสร้างความแข็งแกร่งให้กับแบรนด์ “กินดี” โดยในขณะนี้ได้เริ่มเผยแพร่ภาพยนตร์โฆษณาความยาว 15 วินาที 3 เรื่อง ที่มีเนื้อหาเกี่ยวกับ ผลิตภัณฑ์ “กินดี” เป็นอาหารที่สามารถปรุงได้ง่าย ๆ และยังให้รสชาติที่อร่อยถูกปากคนไทย พร้อมทั้งมีแผนจัดบูธแนะนำ และให้ผู้บริโภคได้ทดลองชิมสินค้าตามห้างต่าง ๆ อีกด้วย
