Vitesse เปิดตัวสวิทช์แบบ Crosspoint ช่วยยกระดับประสิทธิภาพในการรักษาระดับสัญญาณและความยืดหยุ่นในการทำงานได้เป็นอย่างดี

คามาริลโล, แคลิฟอร์เนีย–(บิสิเนสไวร์)–7 ก.พ. – บริษัท Vitesse Semiconductor (Nasdaq:VTSS) แถลงข่าวการเปิดตัว VSC3312 ซึ่งเป็นสวิทช์แบบ Crosspoint ขนาด 12 พอร์ต ที่มีความสามารถในการรักษาระดับสัญญาณที่ดีมากขึ้น ซึ่งเหมาะสำหรับใช้ส่งสัญญาณข้อมูลแบบหลายกิกะบิตผ่านตัวเชื่อมต่อแผงวงจรหลักความเร็วสูงและสายสัญญาณทองแดงในระบบเครือข่ายและระบบจัดเก็บข้อมูล ซึ่งถือเป็นการเพิ่มกลุ่มผลิตภัณฑ์ในส่วนตัวเชื่อมต่อ Crosspoint และสัญญาณแบบ IC ได้เป็นอย่างดี โดย VSC3312 ถือเป็นสวิทช์รุ่นแรกของผลิตภัณฑ์ในตระกูลนี้ ซึ่งสามารถรับส่งข้อมูลด้วยความเร็วสูงถึง 11 กิกะบิตต่อวินาที อีกทั้งยังเป็นการแสดงให้เห็นถึงเทคโนโลยี PixEQ ซึุ่งเป็นเทคโนโลยีด้านการรักษาระดับสัญญาณในการส่งสัญญาณความเร็วสูงเฉพาะของ Vitesse และเป็นการนำหลักการรักษาระดับสัญญาณแบบคงที่สองช่วงเวลา (Dual time constant equalization) มาประยุกต์ใช้งานเป็นครั้งแรกของวงการอุตสาหกรรม ทั้งในส่วนของการรักษาระดับสัญญาณข้อมูลขาเข้า และ เน้นสัญญาณก่อนที่จะมีการส่งข้อมูลขาออก อีกทั้งยังมีการลดข้อจำกัดในส่วนของการสูญหายของสัญญาณ นอกจากนี้ยังมีช่อง Input และ Output ที่สามารถกำหนดค่าการทำงานได้ ซึ่งช่วยให้สามารถปรับแต่งการทำงานของช่อง Input และ Output ได้ตรงตามความต้องการของผู้ใช้งานระบบอย่างแท้จริง

คุณสมบัติเฉพาะตัวที่โดดเด่น

VSC3312 เป็นสวิทช์แบบ Crosspoint รุ่นแรกในวงการอุตสาหกรรมที่สามารถตรวจจับและส่งข้อมูลที่สูญหายไปได้ ซึ่งช่วยให้อุปกรณ์ Out-of-Band (OOB) สามารถรองรับโปรโตคอลสำหรับจัดเก็บข้อมูล SAS/SATA ได้ โดยจัดเป็นสถาปัตยกรรมที่ช่วยปิดบังความซับซ้อนในการทำงานของโปรโตคอลและช่องสัญญาณทำงานแยกกันได้อย่างเป็นอิสระ ซึ่งช่วยให้สวิทช์ดังกล่าวรองรับโปรโตคอลที่หลาย เช่น GbE, XAUI, 2X XAUI, SAS, SATA, Fiber channel และ InfiniBand ? ซึ่งจะมีสวิทช์ในตระกูลนี้ออกสู่ตลาดอย่างมากมายในอนาคตอันใกล้นี้

การนำความสามารถของ Crosspoint switching มาใช้งานร่วมกับเทคโนโลยีการักษาระดับสัญญาณของ Vitesse ส่งผลให้ VSC3312 มีความคุ้มค่าในด้านราคา ใช้แรงดันไฟฟ้าต่ำ เหมาะสำหรับนำมาใช้ในการส่งสัญญาณความาเร็วสูง นอกจากนี้ยังมีการนำหลักการทำงานแบบ Broadband, fully non-blocking และ Multicast รวมถึุงเทคโนโลยีในการรักษาระดับสัญญาณและการกำหนดค่าการทำงานของช่องสัญญาณ Input และ Output มาใช้ใน VSC3312 ซึ่งส่งผลให้สวิทช์สามารถทำงานแบบ Fan-out, loopback และ Protection ได้ รวมถึงสามารถสร้างข้อมูลซ้ำเมื่อเกิดการสูญหายของข้อมูลระหว่างทางได้ ทั้งนี้เทคโนโลยีรักษาระดับสัญญาณดังกล่าวจะทำงานโดยไม่ยึดติดกับความเร็วในการส่งข้อมูล ซึ่งช่วยให้ง่ายต่อการตรวจสอบหาการเกิด Jitter ได้ นอกจากนี้พอร์ตของ VSC3312 แต่ละพอร์ตยังใช้แรงดันไฟฟ้าเพียง 160 มิลลิวัตต์ ซึ่งใช้ช่วยลดอัตราการใช้แรงดันไฟฟ้าได้มากถึง 50% เมื่อเทียบกับอุปกรณ์ในรุ่นก่อนหน้านี้

การกำหนดค่าการทำงานของช่องสัญญาณ Input/Out ของสวิทช์ในตระกูลนี้ ส่งผลให้พอร์ตสามารถทำงานแบบ Input และ Output ได้ 9 รูปแบบ นับตั้งแต่ 8:16 ถึง 16:8 นอกจากนี้การที่สามารถกำหนดค่าการทำงานใหม่ได้ ยังช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการจัดสรรสัญญาณและค้าหาเส้นทางได้ดียิ่งขึ้น โดยไม่จำเป็นต้องเพิ่มจำนวนชิปแต่อย่างใด

ฮวน การ์ซ่า ผู้จัดการฝ่ายการตลาดผลิตภัณฑ์ Vitesse กล่าวว่า “การเปิดตัวสวิทช์รุ่นนี้แสดงให้เห็นว่า Vitesse ได้ยกระดับความยืดหยุ่นและประสิืทธิภาพในการทำงานขึ้นอีกระดับหนึ่ง ซึ่งเป็นวิธีการที่มีความสมบูรณ์และคุ้มค่าต่อการลงทุนในโซลูชั่นด้านการรักษาระดับสัญญาณสำหรับการส่งข้อมูลความเร็วสูงผ่านสายทองแดง”

เทคนิคการรักษาระดับสัญญาณชั้นเลิศ

Vitesse เป็นผู้ผลิตรายแรกที่นำเทคโนโลยีด้านการปรับระดับสัญญาณมาใช้ในสวิทช์แบบ Crosspoint โดยในปัจจุบัน ทางบริษัทประสบความสำเร็จในการผลิตสินค้าหลายสิบรายการ ทั้งนี้ PixEQ ซึ่งเป็นเทคโนโลยีใหม่ล่าสุดของ Vitesse จะช่วยยกระดับวิศวกรรมทางด้านการรักษาระดับสัญญาณ โดยใช้หลักการรักษาระดับสัญญาณแบบคงที่สองช่วงเวลา (Dual time constant equalization) ซึ่งถือเป็นแนวคิดใหม่ ทั้งนี้แนวคิดดังกล่าวจะช่วยให้ผู้ออกแบบระบบสามารถออกแบบระบบได้โดยไม่จำเป็นต้องคำนึงถึงสภาพความไม่สมบรูณ์เส้นทางการส่งสัญญาณ เช่น ลักษณะตัวเชื่อมต่อ การเิดินสายสัญญาณ และพื้นผิวสัมผัส หรือแม้กระทั่งการส่งสัญญาณใน PCB ที่ผิดพลาด นอกจากนี้ Dual time constant equalization ยังมีข้อดีิือื่นๆ อีกนานับประการ ซึ่งส่งผลให้เราสามารถนำอุปกรณ์ที่ใช้เทคโนโลยีดังกล่าวมาใช้งานได้หลากหลายรูปแบบ นับตั้งแต่การส่งข้อสัญญาณใน PCB ไปจนถึงการส่งสัญญาณในแผงวงจรหลัก และสายสัญญาณทองทั่วไป

ราคาและการวางจำหน่าย

VSC3312 ทำงานโดยอาศัยหม้อแปลงขนาด 2.5 โวลต์ 1 ตัว ซึ่งมีอัตราการสูญเสียกำลังไฟฟ้า 160 มิลลิวัตต์ต่อ 1 ช่องสัญญาณ โดยมีขนาด 15 มิลลิเมตร x 15 มิลลิเมตร และมีการบรรจุภัณฑ์แบบ PBGA 196-pin ทั้งนี้ราคาของสินค้าตัวอย่างจะอยู่ที่ 36 ดอล์ล่าต่อชิ้น

สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับโซลูชั่นการักษาระดับสัญญาณของ กรุณาเยี่ยมชมเว็บไซต์ www.vitesse.com/SI นอกจากนี้ Vitesse ยังจะเข้าร่วมงาน Disigncon 2006 ซึ่งจะมีขึ้นระหว่างวันที่ 7-8 กุมภาพันธ์นี้ ที่ศูนย์ประชุม ซานตา คลาร่า โดยหากต้องการประชุมร่วมกับ Vitesse กรุณาสำรองที่นั่งโดยแจ้งความจำนงไปที่ designcon@vitesse.com

เกี่ยวกับ Vitesse

Vitesse ออกแบบ พัฒนา และทำการตลาดสำหรับพอร์ทฟอลิโอที่หลากหลายของโซลูชั่นเซมิคอนดักเตอร์ที่คุ้มค่าต้นทุนและมีประสิทธิภาพสูงสำหรับเครือข่ายการสื่อสารและการจัดเก็บข้อมูลทั่วโลก โดยความเป็นเลิศด้านวิศวกรรม และการอุทิศต่อการบริการลูกค้าเป็นสิ่งที่ทำให้ Vitesse เป็นผู้นำในภาคอุตสาหกรรมที่โดดเด่นในด้าน Gigabit Ethernet LAN, Ethernet-over-SONET, Advanced Switching, Fibre Channel, Serial Attached SCSI, Optical Transport และแอพพลิเคชั่นอื่นๆ โดยนวัตกรรมของ Vitesse ช่วยให้ลูกค้าส่งมอบผลิตภัณฑ์ชั้นเลิศสำหรับแอพพลิเคชั่นของ Enterprise, Access, Metro และ Core ผู้สนใจสามารถดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับบริษัทและผลิตภัณฑ์ได้ที่ www.vitesse.com

Vitesse เป็นเครื่องหมายการค้าจดทะเบียน และ PixEQ เป็นเครื่องหมายการค้าในสหรัฐ และ/หรือในเขตอำนาจของ Vitesse Semiconductor Corporation ขณะที่เครื่องหมายการค้าอื่นๆหรือเครื่องหมายการค้าจดทะเบียนที่มีการระบุในที่นี้ต่างก็เป็นทรัพย์สินของเจ้าของกรรมสิทธิ์นั้นๆ

หมายเหตุถึงกองบรรณาธิการ: สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับผลิตภัณพ์และเทคโนโลยีที่ีระบุในข่าวประชาสัมพันธ์ชิ้นนี้ กรูณาเยี่ยมชมเว็นไซต์: www.vitesse.com/SI

ติดต่อ: Vitesse
ฮวน การ์ซ่า, +1-503-635-1194
jjgg@vitesse.com