2 มีนาคม 2549 – บริษัท โออิชิกรุ๊ป จำกัด (มหาชน) เผยผลประกอบการปี 2548 กวาดรายได้ 4,666.5 ล้านบาท พร้อมโกยกำไรสุทธิกว่า 624 ล้านบาท ชี้แคมเปญด้านการตลาด 30 ฝา 30 ล้าน เวิร์ค บวกกับการเพิ่มกำลังการผลิต ดันยอดขายชาเขียวโตมากกว่า 56 เปอร์เซ็นต์ ขณะที่ธุรกิจร้านอาหารได้รับความนิยมต่อเนื่อง กวาดรายได้เพิ่มขึ้นอีก 21.4 เปอร์เซ็นต์
นายตัน ภาสกรนที กรรมการผู้จัดการ บริษัท โออิชิกรุ๊ป จำกัด (มหาชน) เปิดเผยถึงผลการดำเนินงานโดยรวมในปี 2548 ที่ผ่านมาว่า บริษัทฯ มีรายได้จากการขายรวมทั้งสิ้น 4,666.5 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 42.6 เปอร์เซ็นต์ เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปี 2547 ที่มีรายได้จากการขาย 3,271.9 ล้านบาท ซึ่งมาจากรายได้จากการขายอาหาร และรายได้จากธุรกิจเครื่องดื่ม โดยรายได้จากการขายอาหารคิดเป็นสัดส่วน 33.9 เปอร์เซ็นต์ ของรายได้จากการขายรวม ในขณะที่รายได้จากธุรกิจเครื่องดื่มคิดเป็น 66.1 เปอร์เซ็นต์ ของรายได้จากการขายรวม นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังมียอดกำไรสุทธิเพิ่มขึ้นจาก 487.2 ล้านบาท จากปี 2547 มาอยู่ที่ 624.1 ล้านบาท หรือเติบโตขึ้น 28.1 เปอร์เซ็นต์
“สำหรับส่วนของรายได้จากการขายอาหารในปี 2548 เติบโตเพิ่มขึ้นจาก 1,302.6 ล้านบาท ในปี 2547 มาอยู่ที่ 1,581.8 ล้านบาท หรือคิดเป็นอัตราการเติบโต 21.4 เปอร์เซ็นต์ ขณะที่กำไรสุทธิมีการเติบโตขึ้น 7.6 เปอร์เซ็นต์ จาก 54.1 ล้านบาทในปี 2547 มาอยู่ที่ 58.2 ล้านบาท เช่นเดียวกับรายได้จากธุรกิจเครื่องดื่มที่มีอัตราเติบโตถึง 56.6 เปอร์เซ็นต์ เพิ่มขึ้นจาก 1,969.3 ล้านบาท ในปี 2547 มาอยู่ที่ 3,084.7 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิ 565.9 ล้านบาท ซึ่งเพิ่มขึ้นถึง 30.7 เปอร์เซ็นต์ เมื่อเทียบกับยอดกำไรสุทธิ 433.1 ล้านบาทในปี 2547” นายตัน กล่าว
นายตันกล่าวถึงปัจจัยที่ทำให้รายได้และกำไรสุทธิของบริษัทฯ เพิ่มขึ้นว่า โดยในส่วนของรายได้นั้น เป็นผลมาจากธุรกิจเครื่องดื่มมีอัตราการเติบโตค่อนข้างมาก เนื่องจากบริษัทฯ ได้เพิ่มเครื่องจักรอีก 2 สายการผลิต รวมเป็น 9 สายการผลิต บวกกับการทำกิจกรรมด้านการตลาดและการส่งเสริมการขาย ในแคมเปญ “30 ฝา 30 ล้าน” ของเครื่องดื่มชาเขียว โดยได้รับความนิยมจากผู้บริโภคเป็นอย่างมาก ส่งผลให้สินค้าชาเขียวมีการขยายตัวไปสู่ตลาดผู้บริโภคใหม่เพิ่มขึ้น นอกจากนี้ ธุรกิจการขายอาหารก็ได้รับความนิยมจากผู้บริโภคที่นิยมทานอาหารญี่ปุ่นเพื่อสุขภาพเพิ่มขึ้น ซึ่งเห็นได้จากการที่บริษัทฯ มีการขยายสาขาเพิ่มขึ้น 5 สาขา เมื่อเทียบกับปี 2547 โดยแบ่งเป็นโออิชิ บุฟเฟ่ต์ 2 สาขา และโออิชิ ราเมน 3 สาขา
นายตันกล่าวถึงทิศทางของบริษัทฯ ในปี 2549 ว่า อัตราการเติบโตของโออิชิกรุ๊ปจะยังคงเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง เมื่อเทียบกับปี 2548 โดยบริษัทฯ มีแผนที่จะบุกตลาดใหม่ๆ ในต่างประเทศเพิ่มขึ้น จากเดิมที่ได้นำเครื่องดื่มชาเขียวไปขายในต่างประเทศแล้ว เช่น ลาว พม่า กัมพูชา เกาหลีใต้ ออสเตรเลีย และในภูมิภาคยุโรป ซึ่งตลาดใหม่ล่าสุดที่บริษัทฯ กำลังอยู่ในระหว่างการเตรียมตัวจะเข้าทำการตลาดคือ ประเทศอินโดนีเซีย นอกจากนี้ ในปี 2549 โรงงานเครื่องดื่มใหม่ที่นิคมอุตสาหกรรมอมตะนคร จะแล้วเสร็จและเริ่มผลิตได้ในช่วงปลายไตรมาส 2 ปี 2549 ทำให้บริษัทฯ จะมีกำลังการผลิตที่เพิ่มขึ้น เพื่อสามารถรองรับการผลิตเครื่องดื่มชาเขียวและเครื่องดื่มประเภทอื่นๆ สำหรับตลาดทั้งในและต่างประเทศ
นอกจากนี้ บริษัท โออิชิกรุ๊ป จำกัด (มหาชน) มีสินทรัพย์ ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2548 รวมทั้งสิ้น 2,728.8 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากสิ้นปี 2547 จำนวน 363.7 ล้านบาท หรือเท่ากับ 15.4% โดยมีสินทรัพย์หมุนเวียนมูลค่า 930.8 ล้านบาท หรือคิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 34.1 ของสินทรัพย์รวม และสินทรัพย์ไม่หมุนเวียนมูลค่า 1,798.0 ล้านบาท หรือคิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 65.9 ของสินทรัพย์รวม
