โรนัลโด้ ศูนย์หน้าทีมชาติบราซิลของทีม “ราชันชุดขาว” รีล มาดริด เป็นนักเตะคนแรกที่จะใส่รองเท้า “เมอร์คิวเรียล เวเปอร์ III” (Mercurial Vapor III) สีน้ำเงินรุ่นล่าสุดของไนกี้ ที่คาดว่าจะมีส่วนช่วยให้เขาคว้าตำแหน่งสุดยอดดาวซัลโวในศึกฟุตบอลโลก 2006 ที่เยอรมนีได้
โรนัลโด้ เปิดเผยถึงความหวังในการทำลายสถิติการทำประตูในการแข่งขันฟุตบอลโลกของเกิร์ด มุลเลอร์ (Gerd Muller) ยอดศูนย์หน้าชาวเยอรมัน ที่ทำไว้ 14 ประตู ว่า “นี่เป็ฯเป้าหมายสำคัญของผมและผมต้องำทหสำเร็จ มันไม่ง่ายเลยเพราะการที่จะทำลายสถิติแบบนี้ นักฟุตบอลจะต้องลงแข่งในศึกฟุตบอลโลกถึง 3-4 ครั้งทีเดียว”
โรนัลโด้ กล่าวถึงบทบาทของเขาในการพัฒนารองเท้า “เมอร์คิวเรียล เวเปอร์ III” ว่า “ผมได้มีส่วนร่วมในการสร้างสรรค์รองเท้ารุ่นนี้ตั้งแต่ต้น ซึ่งจะเป็นเรื่องเกี่ยวกับเทคนิคเป็นส่วนใหญ่ อาทิ ประสิทธิภาพในการยึดเกาะกับพื้นสนาม ซึ่งเป็นเรื่องสำคัญมากสำหรับผม ผมต้องการรองเท้าฟุตบอลที่สามารถช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการเล่นของผม ในขณะเดียวกันก็ต้องให้ความนุ่มสบายสูงสุดยามสวมใส่ด้วย เพื่อที่จะสามารถเอาชนะกองหลังฝ่ายตรงข้ามให้ได้ ดังนั้น ถ้ามองในแง่เทคนิคแล้ว ผมคิดว่ารองเท้ารุ่นนี้สมบูรณ์แบบที่สุด”
“เมอร์คิวเรียล เวเปอร์ III” (Mercurial Vapor III) เป็นรองเท้าฟุตบอลที่มีความโดดเด่นด้วย “ระบบเร่งความเร็ว เมอร์คิวเรียล เวเปอร์” ใหม่ ที่ผลิตขึ้นด้วยมือโดยช่างผีมือในประเทศอิตาลี มีน้ำหนักเท่ากับรองเท้าพื้นปุ่มสำหรับการแข่งวิ่งระยะสั้น (ราว 200 กรัมกว่าๆ) โดยระบบนี้ประกอบด้วยส่วนประกอบอิสระ 3 ส่วนที่ทำงานเกี่ยวเนื่องกัน ได้แก่
• “เวเปอร์ ฮีล ล็อค” – อุปกรณ์พิเศษบริเวณส้นเท้าเพื่อช่วยลดการสั่นไหว (Stabilizer) ทำหน้าที่ยึดส้นเท้าไว้กับตัวรองเท้าอย่างแน่นหนา ช่วยเพิ่มแรงส่งให้นักฟุตบอลเคลื่อนตัวไปข้างหน้าได้อย่างมีประสิทธิภาพ ตลอดจนพัฒนารูปแบบการก้าวเท้าตามธรรมชาติในทุกย่างก้าว
• “เวเปอร์ แชสซิส” – โครงพื้นรองเท้าที่ช่วยในการถ่ายโอนแรงจากเท้าไปยังพื้นให้เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด
• “เวเปอร์ แทรคชั่น” – รูปแบบพิเศษในการจัดวางปุ่มกันลื่นที่พื้นรองเท้าเพื่อสมรรถนะในการเร่งความเร็วหลากหลายทิศทาง
“เมอร์คิวเรียล เวเปอร์ III” มีหน้าผ้าหรือส่วนของรองเท้าด้านบนที่ออกแบบโดยใช้ต้นแบบขึ้นรูปรองเท้าที่เรียกว่า “สปีด ลาสต์” (Speed Last) ซึ่งพัฒนาขึ้นโดยเลียนแบบสรีระทางกายภาพตามธรรมชาติของเท้าเพื่อความสบายสูงสุดขณะสวมใส่ นอกจากนี้ ยังผลิตจากวัสดุสังเคราะห์ชนิดพิเศษที่มีน้ำหนักเบา ที่เรียกว่า ไมโครไฟเบอร์สังเคราะห์ ซึ่งนอกจากจะสอดรับและกระชับไปกับส่วนโค้งเว้าต่างๆ ของเท้าและมีน้ำหนักเบาแล้ว ยังพร้อมให้การปกป้อง รองรับ และไวต่อการรับรู้สัมผัสต่างๆ เป็นอย่างดี
รูปลักษณ์ที่โดดเด่นของ “เมอร์คิวเรียล เวเปอร์ III” สะท้อนถึงการเคลื่อนไหวที่รวดเร็วราวสายฟ้าของนักฟุตบอลผู้สวมใส่ การออกแบบภายนอกที่ดูเรียบง่ายซึ่งเป็นผลจากการลดส่วนต่อเชื่อมที่ไม่จำเป็นลง ส่งผลให้รองเท้ามีภาพรวมที่ดูหมดจดและเป็นเอกภาพ
“ความเร็วและการเร่งความเร็วเป็นปัจจัยสำคัญที่ส่งผลต่อฝีเท้าของโรนัลโด้ โดยไนกี้ได้ทำงานร่วมกับเขาอย่างไกล้ชิด ตั้งแต่เริ่มโครงการ “เมอร์คิวเรียล” การออกแบบรองเท้าฟุตบอล “เมอร์คิวเรียล เวเปอร์ III” มีที่มาจากความใส่ใจในทุกรายละเอียดและความต้องการที่จะนำเสนอเทคโนโลยีเพื่อการเล่นฟุตบอลที่ดีที่สุดให้กับนักเตะ เป้าหมายของเรา คือ การสร้างสรรค์รองเท้าฟุตบอลที่ช่วยให้นักเตะเข้าครองบอลได้เร็วที่สุดและมีรูปลักษณ์สวยงาม” ปีเตอร์ ฮัดสัน นักออกแบบอาวุโสของไนกี้กล่าว
รองเท้าฟุตบอล “เมอร์คิวเรียล เวเปอร์ III” ทั้งแบบเล่นบนสนามหญ้าและเล่นบนพื้นคอนกรีต (ราคา 7,700 บาท) จะเริ่มวางจำหน่ายต้นเดือนเมษายนนี้ ที่ร้าน Sports Revolution สาขาสยามเซ็นเตอร์, ไนกี้ คอร์เนอร์ สยามพารากอน, ร้าน Super Sports สาขาสยามเซ็นเตอร์ เซ็นทรัลชิดลม และเซ็นทรัลลาดพร้าว, ร้าน Parrot ข้างสนามกีฬาแห่งชาติ จุฬาซอย 5 และร้าน Montana พัทยาสาย 2
