ฟุตบอลโลก2006 : เศรษฐกิจซบ…เงินพนันยังสะพัด 37,000 ล้านบาท

มหกรรมการแข่งขันกีฬาฟุตบอลที่ยิ่งใหญ่ที่สุดที่ประชาชนทั่วโลกต่างรอคอยมาเป็นเวลา 4 ปีอันได้แก่การแข่งขันฟุตบอลโลกที่ประเทศเยอรมนีเป็นเจ้าภาพได้ฤกษ์การแข่งขันอีกครั้งในช่วงระหว่างวันที่ 9 มิถุนายน-9 กรกฎาคม 2549 โดยการแข่งขันครั้งนี้มี 32 ทีมเข้าร่วมการแข่งขันรวม 64 นัด ทั้งนี้ช่วงเวลาถ่ายทอดสดการแข่งขันในประเทศไทยจะอยู่ในช่วงค่ำไปจนถึงดึก โดยคู่แรกจะเริ่มเวลาประมาณ 20.00 น. คู่ที่สองประมาณ 23.00 น และคู่ที่สามเวลาประมาณ 02.00น.ทั้งนี้ช่วงเวลาการถ่ายทอดสดดังกล่าวแตกต่างจากการแข่งขันฟุตบอลโลกครั้งก่อนซึ่งประเทศญี่ปุ่นและเกาหลีใต้เป็นเจ้าภาพร่วม ทำให้เวลาการถ่ายทอดอยู่ในช่วงกลางวัน ซึ่งปัจจัยดังกล่าวส่งผลดีต่อธุรกิจต่างๆที่เกี่ยวข้องไม่ว่าจะเป็นธุรกิจสิ่งพิมพ์และธุรกิจโฆษณา สินค้าประเภทอาหาร ฟาสต์ฟูดส์ เครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์และไม่มีแอลกอฮอล์ รวมไปถึงร้านอาหาร สถานบันเทิง ที่จะเพิ่มยอดขายได้เพิ่มขึ้นจากลูกค้าที่สนใจเข้ามาใช้บริการเพื่อเชียร์การแข่งขัน อย่างไรก็ตาม สิ่งที่มาพร้อมๆกับการแข่งขันฟุตบอลโลกก็คือการพนันฟุตบอลที่กำลังระบาดตามแหล่งชุมชน สถานศึกษา หอพักต่างๆทั่วไปจนสร้างปัญหาให้กับสังคมทั้งการทะเลาเบาะแว้งในครอบครัว ปัญหาอาชญากรรม การจี้ชิงทรัพย์ การทำผิดกฎหมายเพื่อหาเงินมาใช้หนี้พนัน เป็นต้น

ศูนย์วิจัยกสิกรไทย คาดว่า ในการแข่งขันฟุตบอลโลกปี 2549 นี้แม้ว่าปัจจัยด้านราคาน้ำมัน ราคาสินค้า อัตราดอกเบี้ย ที่ปรับเพิ่มขึ้นจะส่งผลต่อภาวะเศรษฐกิจและกำลังซื้อของประชาชนที่ชะลอตัวลง แต่อย่างไรก็ตามปัจจัยดังกล่าวไม่เป็นอุปสรรคต่อการเล่นพนันฟุตบอลของคนไทยในช่วงฟุตบอลโลก ทั้งนี้คาดว่าวงเงินหมุนเวียนเล่นพนันฟุตบอลโลกครั้งนี้มีประมาณ 37,000 ล้านบาทเพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับการเล่นพนันฟุตบอลโลกเมื่อปี 2545 ซึ่งครั้งนั้นมีเงินหมุนเวียนประมาณ 30,000 ล้านบาทหรือเพิ่มขึ้นร้อยละ 23.3 สำหรับในเขตกรุงเทพฯนั้น ประมาณว่า การแข่งขันฟุตบอลโลกในครั้งนี้คนกรุงเทพฯจะเล่นพนันฟุตบอลประมาณ 700,000 คน โดยวงเงินพนันบอลที่คนกรุงเทพฯใช้เล่นในช่วงฟุตบอลโลกครั้งนี้จะมีทั้งสิ้นประมาณ 7,600 ล้านบาท เพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับการแข่งขันฟุตบอลโลกครั้งที่ผ่านมาที่มีวงเงินพนันในกรุงเทพฯประมาณ 6,700 ล้านบาท

โต๊ะบอลเริงร่า : เตรียมรับเซียนพนันช่วงฟุตบอลโลก
ศูนย์วิจัยกสิกรไทย ได้ทำการสำรวจ ”พฤติกรรมคนไทยกับการแข่งขันฟุตบอลโลกปี 2549” ในระหว่างวันที่ 1-15 พฤษภาคม 2549 จำนวนกลุ่มตัวอย่างทั้งสิ้น 3,093 ชุด แยกตามเพศ อายุ อาชีพ ของประชากรตามภาคต่างๆทั่วประเทศ ซึ่งจากการสำรวจดังกล่าวพบประเด็นที่น่าสนใจดังต่อไปนี้

1.1 โต๊ะบอล…รองรับเซียนพนันร้อยละ 41.4 ของผู้เล่น
จากการสอบถามแหล่งที่คนไทยนิยมเล่นพนันฟุตบอลในช่วงการแข่งขันฟุตบอลโลกครั้งนี้พบว่ามีอยู่ถึงร้อยละ 41.4 จะเล่นพนันกับโต๊ะบอลที่ตั้งตามแหล่งชุมชน สถานศึกษา หอพัก อาคารสำนักงานต่างๆในขณะที่ร้อยละ 58.1 เล่นกับเพื่อหรือคนรู้จัก โดยเป็นที่น่าสังเกตว่านักเรียน/นักศึกษาและพนักงานบริษัทเอกชน เป็นกลุ่มที่เล่นพนันฟุตบอลกับโต๊ะบอลในสัดส่วนสูงกว่ากลุ่มอาชีพอื่น สำหรับวิธีที่เล่นพนันฟุตบอลนั้นส่วนใหญ่ร้อยละ 39.1 ของกลุ่มตัวอย่างที่ตอบแบบสอบถาม จะเดินทางไปเล่นพนันด้วยตนเอง รองลงมาคือการโทรศัพท์ไปเล่นคิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 31.1 และฝากเพื่อนไปเล่นมีสัดส่วนร้อยละ 27.5 และเมื่อสอบถามถึงวิธีชำระเงินจากการเล่นพนันฟุตบอลพบว่าร้อยละ 86.5 ของกลุ่มตัวอย่างที่สำรวจจ่ายเป็นเงินสดและมีร้อยละ 12.4 ใช้วิธีโอนเงินผ่านธนาคาร

1.2 อาชีพค้าขาย/กิจการส่วนตัว : เตรียมเงินไว้เล่นพนันมากที่สุด
หากจำแนกเป็นรายอาชีพแล้วพบว่า ในการแข่งขันฟุตบอลโลกครั้งนี้ กลุ่มอาชีพค้าขาย/กิจการส่วนตัวจะเตรียมเงินไว้เล่นพนันฟุตบอลโลกมากที่สุดเฉลี่ยประมาณคนละ 11,800 บาทเพิ่มขึ้นร้อยละ 16.8 เมื่อเปรียบเทียบกับการแข่งขันฟุตบอลโลกครั้งที่ผ่านมาที่จำนวนวงเงินที่เตรียมไว้เล่นพนันอยู่ที่ประมาณคนละ 10,100 บาท รองลงมาได้แก่พนักงานบริษัทเอกชนเตรียมวงเงินประมาณคนละ 10,300 บาทเพิ่มขึ้นร้อยละ 32.1 เมื่อเทียบกับครั้งที่แล้วที่มีวงเงินเล่นพนันประมาณคนละ 7,800 บาท กลุ่มข้าราชการ/รัฐวิสาหกิจเตรียมวงเงินเล่นพนันประมาณคนละ 7,100 บาทเพิ่มขึ้นร้อยละ 31.5 เมื่อเทียบกับครั้งก่อนที่มีวงเงินเล่นพนันประมาณคนละ 5,400 บาท นักเรียน/นักศึกษาเตรียมวงเงินเล่นพนันประมาณคนละ 6,300 บาทลดลงร้อยละ 10 เมื่อเทียบกับครั้งก่อนที่มีวงเงินเล่นประมาณคนละ 7,000 บาท และกลุ่มอาชีพรับจ้างเตรียมวงเงินเล่นพนันไว้ประมาณคนละ 5,800 บาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 7.4 เมื่อเทียบกับครั้งก่อนที่มีวงเงินเล่นประมาณคนละ 5,400 บาท

ผลจากการสำรวจดังที่กล่าวมาแล้วข้างต้น จะเห็นได้ว่ากลุ่มอาชีพ พนักงานบริษัทเอกชน ค้าขาย/กิจการส่วนตัว และข้าราชการ/รัฐวิสาหกิจ มีอัตราการขยายตัวของวงเงินที่จะเล่นพนันฟุตบอลมากที่สุดร้อยละ 32.1 ร้อยละ 31.5 และร้อยละ 16.8 ตามลำดับ ทั้งนี้เนื่องจากทั้งสามกลุ่มอาชีพจะมีรายได้ประจำที่เข้ามาในแต่ละเดือนที่แน่นอนทำให้มีแหล่งเงินที่จะนำมาใช้เล่นพนันฟุตบอลได้ และเป็นที่น่าสังเกตว่านักเรียน/นักศึกษาเป็นกลุ่มเดียวที่เตรียมวงเงินเล่นพนันบอลฟุตบอลโลกลดลงจากครั้งก่อน ทั้งนี้เนื่องจากกลุ่มนี้ยังไม่สามารถหารายได้ด้วยตนเอง รายได้ส่วนใหญ่จะมาจากพ่อแม่ผู้ปกครอง ซึ่งส่วนมากพ่อแม่ผู้ปกครองก็จะให้เท่าที่จำเป็นอาทิ ค่าอาหาร ค่ารถโดยสาร และใช้ส่วนตัวด้านบันเทิงและค่าเสื้อผ้า ดังนั้น หากนักเรียน/นักศึกษาจะนำเงินมาเล่นพนันฟุตบอลก็ต้องลดค่าใช้จ่ายของตนเอง หรือไม่ก็ต้องจำนำหรือขายของมีค่าของตนเอง

1.3 หญิงไทยใจกล้า…วงเงินพนันฟุตบอลสูสีผู้เล่นชาย
จากการศึกษาจำแนกตามเพศของกลุ่มตัวอย่างพบว่า ผู้ชายเตรียมวงเงินเพื่อเล่นพนันฟุตบอโลกครั้งนี้ประมาณคนละ 7,900 บาทเพิ่มขึ้นร้อยละ 11.3 เมื่อเทียบกับการแข่งขันฟุตบอลโลกครั้งที่ผ่านมาซึ่งมีวงเงินเพื่อเล่นพนันประมาณคนละ 7,100 บาทในขณะที่ผู้หญิงจะเตรียมเงินไว้เล่นพนันฟุตบอลโลกครั้งนี้ประมาณคนละ 7,700 บาทเพิ่มขึ้นร้อยละ 14.9 เมื่อเทียบกับการแข่งขันฟุตบอลโลกครั้งที่แล้วที่มีการเตรียมวงเงินไว้เล่นพนันประมาณคนละ 6,700 บาท โดยเป็นที่น่าสังเกตว่าเพสหญิงจะเล่นพนันฟุตบอลโลกในครั้งนี้กับเพื่อนในสัดส่วนที่มากถึงร้อยละ 67.8 และเล่นกับโต๊ะพนันบอลร้อยละ 32.2 ในขณะที่เพศขายจะเล่นพนันฟุตบอลกับโต๊ะพนันบอลในสัดส่วนที่สูงกว่าเพศหญิงคือร้อยละ 45.1 ในขณะที่เล่นพนันกับเพื่อนหรือคนรู้จักร้อยละ 54.9 ทั้งนี้จะเห็นได้ว่าวงเงินที่ผู้หญิงใช้เล่นพนันฟุตบอลเริ่มใกล้เคียงกับผู้ชายมากขึ้น แสดงให้เห็นว่าในโลกยุคดิจิตอลฟุตบอลไม่ได้ถูกแบ่งแยกด้วยเพศอีกต่อไป ดังนั้นทุกวันนี้จึงเห็นผู้หญิงติดตามชมถ่ายทอดสอการแข่งขันฟุตบอลจากต่างประเทศทั้งที่บ้านตนเองรวมทั้งตามหน้าห้างสรรพสินค้าที่มีจอถ่ายทอดสดขนาดใหญ่ในรายการแข่งขันสำคัญๆ

1.4 เยาวชนไทย…ลดวงเงินพนันตามกำลังซื้อของพ่อแม่ผู้ปกครอง
จากการสำรวจในกลุ่มนักเรียน/นักศึกษาที่เล่นพนันฟุตบอลพบว่า วงเงินที่เตรียมไว้เพื่อเล่นพนันฟุตบอลในครั้งนี้จะมีตั้งแต่หลักร้อยไปจนถึงหลักหมื่น ซึ่งเฉลี่ยแล้วนักเรียน/นักศึกษาจะใช้วงเงินเล่นพนันฟุตบอลครั้งนี้ประมาณคนละ 6,300 บาทลดลงร้อยละ 10 เมื่อเทียบกับช่วงการแข่งขันฟุตบอลโลกครั้งก่อนที่มีวงเงินเล่นพนันประมาณคนละ 7,000 บาท ซึ่งปัจจัยสำคัญที่ทำให้วงเงินเล่นพนันฟุตบอลโลกในครั้งนี้ปรับลดลงมีสาเหตุจากรายได้ส่วนใหญ่ของนักเรียน/นักศึกษาจะมาจากพ่อแม่ผู้ปกครอง ดังนั้นเมื่อต้องเผชิญกับภาวะเศรษฐกิจชะลอตัว กำลังซื้อถูกกระทบจากราคาน้ำมันและราคาสินค้าที่ปรับตัวสูงขึ้นทำให้พ่อแม่ผู้ปกครองจ่ายเงินให้กับนักเรียน/นักศึกษาเท่าที่จำเป็น ทำให้นักเรียน/นักศึกษาเหลือเงินที่จะใช้เล่นพนันฟุตบอลในวงเงินที่เหลือจากการใช้จ่ายด้านอื่นๆแล้ว อย่างไรก็ตาม สำหรับนักเรียน/นักศึกษาบางกลุ่มที่สามารถหาแหล่งเงินด้านอื่นๆมาเสริมก็มีแนวโน้มที่จะเล่นพนันฟุตบอลเพิ่มขึ้น โดยแหล่งรายได้เสริมจะมีทั้งจากการขายหรือจำนำสิ่งของเช่นทองคำ โทรศัพท์มือถือ เครื่องใช้ไฟฟ้า หรืออาจจะทำงานรับจ้างในช่วงเย็นหรือวันหยุด เป็นต้น ในขณะเดียวกัน แหล่งเงินบางส่วนอาจจะได้มาโดยผิดกฎหมายอาทิ การลักทรัพย์ การชี้ชิงทรัพย์ เป็นต้น

เป็นที่น่าสังเกตว่าแหล่งที่นักเรียน/นักศึกษาใช้เล่นพนันฟุตบอลโลกครั้งนี้จะเล่นพนันกับเพื่อนในสัดส่วนร้อยละ 55.1 ในขณะที่เล่นพนันฟุตบอลกับโต๊ะบอลในสัดส่วนร้อยละ 44.9 โดยนักเรียน/นักศึกษาถือเป็นกลุ่มที่เล่นพนันฟุตบอลผ่านโต๊ะบอลในสัดส่วนที่มากกว่ากลุ่มอาชีพอื่นๆ แสดงให้เห็นว่าปัจจุบันโต๊ะรับพนันฟุตบอลได้กระจายตัวตามสถานศึกษาและหอพักนักเรียนอย่างแพร่หลาย ในขณะเดียวกันโต๊ะรับพนันยังมีการกระจายเครือข่ายการรับพนันไปยังกลุ่มนักเรียน/นักศึกษาให้รับพนันกับเพื่อนในสถาบันและส่งต่อโต๊ะรับพนันบอลอีกต่อหนึ่ง ส่งผลให้นักเรียน/นักศึกษาเกิดความสะดวกในการเล่นพนันมากขึ้น

1.5 เซียนพนันฟันธง …จะเล่นทีมไหนตัดสินใจด้วยตนเอง
จากการสำรวจเกี่ยวกับข้อมูลต่างๆที่เซียนพนันใช้ตัดสินใจเลือกทีมฟุตบอลที่จะเล่นพนันพบว่าผู้เล่นพนันจะเล่นตามความคิดเห็นของตนเองร้อยละ 25.4 และใช้ข้อมูลจากนักวิจารณ์ฟุตบอลของหนังสือพิมพ์ในสัดส่วนร้อยละ 25.4 เท่ากัน ในขณะที่เชื่อตามข้อมูลของเพื่อนมีสัดส่วนร้อยละ 18.6 เชื่อตามข้อมูลของนักวิจารณ์ฟุตบอลทางโทรทัศน์ร้อยละ 14.7 เชื่อตามข้อมูลจากอินเตอร์เน็ตร้อยละ 9.3 และเชื่อตามนักวิจารณ์ฟุตบอลทางสถานีวิทยุร้อยละ 5.9 ทั้งนี้ การที่นักพนันฟุตบอลต่างตัดสินใจเล่นพนันฟุตบอลตามความคิดเห็นของตนเองมีสาเหตุจากการที่ปัจจุบันคนไทยสามารถชมถ่ายทอดสดการแข่งขันฟุตบอลจากต่างประเทศเป็นประจำแทบจะทุกสัปดาห์ทั้งการแข่งขันฟุตบอลของอังกฤษ เยอรมนี อิตาลี ฝรั่งเศส ทำให้เซียนพนันเห็นความสามารถของทีมฟุตบอลรวมทั้งนักเตะของแต่ละทีมและวิเคราะห์ถึงโอกาสที่ทีมไหนจะชนะเลิศการแข่งขันในแต่ละนัดได้ด้วยตนเอง

1.6 โต๊ะบอลเข้ม…ลูกค้าเบี้ยวหนี้เจอทวงหนัก
ในการเล่นพนันฟุตบอลนั้นหลายครั้งที่นักพนันจะเกิดปัญหาติดขัดทางด้านการหาเงินมาจ่ายให้กับโต๊ะบอล ทั้งนี้เนื่องจากการเล่นพนันฟุตบอลบางครั้งจะใช้ความเชื่อใจกันระหว่างเจ้ามือกับผู้เล่นซึ่งสามารถแทงก่อนจ่ายทีหลังได้ ส่งผลให้โต๊ะบอลต้องหาวีธีติดตามผู้เล่นมาชำระหนี้ซึ่งมีหลากหลายวิธี โดยจากการสอบถามผู้เล่นพนันฟุตบอลที่เคยประสบกับปัญหาการไม่มีเงินจ่ายค่าพนันพบว่าวิธีทวงเงินของโต๊ะพนันฟุตบอลส่วนใหญ่ร้อยละ 80.5 จะใช้วิธีพูดคุยให้ตกลงชำระเงิน รองลงมาได้แก่การข่มขู่ร้อยละ 11.7 และบังคับยึดสิ่งของมีค่าของนักพนันอาทิ รถยนต์ เครื่องใช้ไฟฟ้าร้อยละ 7.8 ทั้งนี้เป็นที่น่าสังเกตว่าวิธีที่โต๊ะบอลใช้ข่มขู่มีทั้งโทรศัพท์ไปที่บ้าน ที่ทำงาน สถานศึกษา เพื่อประจานและเพื่อให้เกิดความเกรงกลัวจนนักพนันที่ติดหนี้ต้องรีบหาเงินมาใช้ ซึ่งปัจจัยดังกล่าวนำไปสู่การกระทำที่ผิดกฎหมายเพื่อหาเงินมาใช้หนี้พนัน เช่น การลักทรัพย์สินภายในบ้านหรือที่ทำงาน การยักยอกทรัพย์ การค้าของผิดกฎหมาย รวมไปถึงการค้าประเวณี และในกรณีที่ผู้เล่นพนันไม่สามารถหาเงินมาใช้หนี้ได้ นักพนันบางรายก็ถึงขั้นลาออกจากงานหรือย้ายที่อยู่กันเลยทีเดียว

1.7 เศรษฐกิจซบเซา : เซียนพนันยังมัวเมาการพนันบอลโลกต่อเนื่อง
การแข่งขันฟุตบอลโลกในแต่ละครั้งสิ่งที่จะหลีกเลี่ยงไม่ได้ก็คือการพนันฟุตบอลซึ่งมีการเล่นกันแทบทุกประเทศทั่วโลก สำหรับการแข่งขันฟุตบอลโลก ในปี 2549 ก็เช่นกันเซียนพนันทั่วโลกที่หลงใหลในเกมการแข่งขันฟุตบอลต่างมีการเตรียมเงินไว้สำหรับการแทงพนันฟุตบอลกันอย่างคึกคักแม้ว่าเศรษฐกิจโลกจะชะลอตัวตามปัจจัยราคาน้ำมัน ตัวอย่างเช่นประเทศอังกฤษซึ่งฟุตบอลเป็นกีฬาที่คนทั้งประเทศให้ความสนใจ และในการแข่งขันฟุตบอลโลกครั้งนี้ทีมอังกฤษก็เป็น 1 ใน 32 ทีมที่เข้าร่วมการแข่งขัน ซึ่งจากการติดตามข้อมูลการเล่นพนันฟุตบอลในประเทศอังกฤษช่วงฟุตบอลโลกพบว่า บริษัทรับพนันฟุตบอลของอังกฤษมีแผนที่จะเพิ่มจำนวนพนักงานในเดือนมิถุนายนเพื่อรองรับผู้ที่สนใจเล่นพนันฟุตบอลที่เพิ่มขึ้นกว่าปกติ นอกจากนี้บริษัทที่รับพนันของอังกฤษยังคาดการณ์ว่าในช่วงการแข่งขันฟุตบอลโลกจะมีเงินหมุนเวียนใช้เล่นพนันฟุตบอลในประเทศอังกฤษประมาณ 1,000 ล้านปอนด์หรือประมาณ 70,000 ล้านบาท โดยการเล่นพนันจะมีทั้งผ่านทางอินเตอร์เน็ต โทรศัพท์ไปเล่น และเดินทางไปเล่นที่ร้านรับพนันที่ถูกกฎหมาย อย่างไรก็ตามวงเงินพนันฟุตบอลดังกล่าวอาจมีการเปลี่ยนแปลงจากที่ประมาณไว้ซึ่งขึ้นอยู่กับว่าทีมฟุตบอลของอังกฤษจะสามารถเข้ารอบการแข่งขันลึกๆได้หรือไม่โดยหากเข้าถึงรอบ 4 ทีมสุดท้ายและรอบชิงชนะเลิศได้ วงเงินพนันฟุตบอลของนักพนันชาวอังกฤษก็จะเพิ่มขึ้นจากที่ประมาณการไว้เดิม

สำหรับการพนันฟุตบอลในส่วนของนักพนันชาวไทยในช่วงการแข่งขันฟุตบอลโลกก็เช่นกัน วงเงินที่เซียนพนันเตรียมไว้ในครั้งนี้ที่มีถึงประมาณ 37,000 ล้านบาทเพิ่มสูงกว่าวงเงินที่ใช้พนันฟุตบอลโลกครั้งก่อนที่มีวงเงินเล่นพนันประมาณ 30,000 ล้านบาท ซึ่งเกิดจากปัจจัยสนับสนุนหลายประการ ทั้งนี้

2.1 ความสำคัญของฟุตบอลโลก ฟุตบอลโลก เป็นมหกรรมกีฬาที่คนทั่วโลกต่างให้ความสนใจ ทังนี้เนื่องจากปัจจัยหลายประการทั้งระยะเวลาการแข่งขันซึ่ง 4 ปีจะมีครั้ง ประกอบกับทีมที่เข้าร่วมแข่งขันจะเป็นทีมซึ่งคนทั่วโลกให้ความสนใจและชื่นชอบในฝีมือของนักกีฬาในทีมไม่ว่าจะเป็นฟุตบอลทีมชาติอังกฤษ บราซิล อิตาลี เยอรมนี ฝรั่งเศส อาเจนติน่า เป็นต้น ดังนั้นเมื่อทีมฟุตบอลที่มีชื่อเสียงจากทั่วโลกมาลงแข่งขันพร้อมกัน จึงส่งผลให้ประชาชนเกิดความสนใจติดตามชมการแข่งขันรวมทั้งการเล่นพนันฟุตบอลเพื่อเพิ่มความสนุกสนานระหว่างชมการแข่งขันยิ่งขึ้น

2.2 ภาวะเศรษฐกิจ จากการที่คนไทยในปัจจุบันต้องเผชิญกับปัญหาค่าครองชีพที่ปรับเพิ่มขึ้น ในขณะที่รายได้ปรับตัวไม่ทันกับรายจ่าย ได้ส่งผลกระตุ้นให้ประชาชนสนใจทุ่มเล่นพนันเสี่ยงโชคเพราะเล็งเห็นลู่ทางที่จะหาเงินมาใช้จ่ายจากการเล่นพนันในช่วงการแข่งขันฟุตบอลโลกซึ่งมีขั้นตอนการเล่นไม่ยุ่งยากสามารถเล่นกับเพื่อนฝูง รวมทั้งเล่นกับโต๊ะพนันที่กระจายอยู่ตามชุมชนต่างๆเป็นจำนวนมากได้ง่ายๆ ทั้งนี้จากคำตอบที่ได้จากแบบสอบถามพบว่าเหตุผลที่เล่นพนันฟุตบอลเพราะต้องการเพิ่มความสนุกสนานในการชมคิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 56.4 ของกลุ่มตัวอย่างที่สำรวจ รองลงมาได้แก่ เล่นพนันเพราะอยากได้เงินซึ่งมีอยู่ถึงร้อยละ 34.1 และเล่นพนันเพราะต้องการทันกระแสสามารถพูดคุยกับกลุ่มเพื่อนได้มีสัดส่วนร้อยละ 8.7 นอกจากนี้จากการสำรวจเหตุผลของกลุ่มคนที่ไม่เล่นพนันฟุตบอลโลกในครั้งนี้พบว่าร้อยละ 39.5 ของกลุ่มตัวอย่างที่สำรวจให้เหตุผลว่าไม่ชอบเล่นการพนัน รองลงมาได้แก่กลัวถูกตำรวจจับคิดเป็นร้อยละ 19.1 ไม่มีเงินเล่นร้อยละ 18.2 ไม่รู้วิธีเล่นมีสัดส่วนร้อยละ 14.8 และไม่มีสถานที่จะเล่นพนันคิดเป็นร้อยละ 7.7 ทั้งนี้กลุ่มที่ไม่เล่นพนันฟุตบอลเพราะเหตุผลว่ากลัวถูกตำรวจจับ ไม่มีเงินเล่น ไม่รู้วิธีและไม่มีแหล่งที่จะเล่นนับเป็นกลุ่มเสี่ยงที่จะเข้าสู่วงจรการเล่นพนันฟุตบอลหากข้อจำกัดต่างๆหมดไป

2.3 แหล่งเงินที่เล่นพนันฟุตบอล นอกจากแหล่งเงินที่ใช้เล่นพนันฟุตบอลจะมาจากเงินเดือน เงินเก็บสะสมแล้ว ปัจจุบันมีแหล่งเงินกู้ยืมที่คนไทยสามารถเข้าถึงได้สะดวกโดยเฉพาะเงินกู้นอกระบบที่ปัจจุบันมีการโฆษณาตามแหล่งชุมชน สถานที่ทำงาน ห้างสรรพสินค้าต่างๆ ทั้งนี้ขั้นตอนการกู้ก็ไม่ยุ่งยากและไม่ต้องมีคนค้ำประกัน สามารถได้รับเงินรวดเร็ว นอกจากนี้ จากการที่ปัจจุบันราคาทองคำได้ปรับตัวเพิ่มสูงขึ้นมาก ทองคำจึงเป็นแหล่งเงินอีกประเภทหนึ่งที่นักเล่นพนันจะแปรสภาพเป็นเงินเพื่อนำมาเล่นพนันฟุตบอลทั้งการจำนำหรือขายคืนร้านทอง

2.4 จำนวนกลุ่มลูกค้าเป้าหมายเพิ่มขึ้น ผลจากจำนวนประชากรที่ปรับเพิ่มขึ้นโดยเฉพาะในกลุ่มเสี่ยงที่จะมีโอกาสเล่นพนันฟุตบอลอาทิ กลุ่มประชากรที่มีงานทำส่งผลให้จำนวนผู้ที่เล่นพนันฟุตบอลมีแนวโน้มเพิ่มขึ้น ทั้งนี้ในช่วงปี 2545 ซึ่งเป็นปีที่มีการแข่งขันฟุตบอลโลก ประเทศไทยมีจำนวนประชากรที่มีงานทำประมาณ 33.06 ล้านคน แต่มาปัจจุบันจำนวนประชากรที่มีงานทำปรับเพิ่มขึ้นเป็น 36.3 ล้านคนหรือเพิ่มขึ้น 3.24 ล้านคน ในขณะเดียวกันจำนวนนักเรียนในระดับประถมที่เลื่อนชั้นมาอยู่ในระดับมัธยมก็เป็นกลุ่มเสี่ยงที่จะเล่นพนันฟุตบอลเช่นกัน เนื่องจากเพื่อนฝูงในโรงเรียนที่มีการเล่นพนันฟุตบอลกันจะก่อให้เกิดการเลียนแบบเพื่อให้สามารถเข้ากับกลุ่มเพื่อนได้ โดยจากการสำรวจกลุ่มตัวอย่างที่สนใจเล่นพนันฟุตบอลโลกในปีนี้พบว่ามีอยู่ถึงกว่าร้อยละ 24.8 ของกลุ่มตัวอย่างที่สำรวจที่ไม่ได้เล่นพนันฟุตบอลโลกครั้งก่อน ซึ่งกลุ่มนี้ถือเป็นกลุ่มคนเล่นพนันฟุตบอลรายใหม่ที่เข้าสู่วงจรการเล่นพนันฟุตบอล โดยหากแยกเป็นกลุ่มอาชีพแล้วจะพบว่า นักเรียนนักศึกษาที่เล่นพนันฟุตบอลโลกครั้งนี้มีถึงร้อยละ 31.3 ที่ไม่เคยเล่นพนันฟุตบอลโลกในครั้งที่ผ่านมา ซึ่งถือเป็นลูกค้ารายใหม่ที่เข้ามามากกว่ากลุ่มอาชีพอื่นๆ รองลงมาได้แก่ข้าราชการ/รัฐวิสาหกิจ พนักงานบริษัทเอกชน

2.5 สถานะครอบครัว&การเงินไม่มั่นคง : ผลพวงจากการพนันฟุตบอล
ปัจจุบัน การพนันฟุตบอลได้แพร่หลายสู่สังคมไทยในกลุ่มชนทุกอาชีพทั้ง นักเรียน/นักศึกษา ข้าราชการ/รัฐวิสาหกิจ พนักงานเอกชน พ่อค้า/แม่ค้า คนขับรถแท็กซี่ มอเตอร์ไซด์รับจ้าง และยิ่งมีการแข่งขันฟุตบอลโลกในช่วงนี้ก็ส่งผลให้การเล่นพนันฟุตบอลขยายตัวเพิ่มขึ้น ซึ่งจากการสำรวจพฤติกรรมการเล่นพนันฟุตบอลในช่วงการแข่งขันฟุตบอลโลกครั้งนี้พบว่าการพนันฟุตบอลส่งผลกระทบต่อครอบครัว สังคม รวมทั้งสถานะทางการเงินของผู้เล่นเอง โดยมีรายละเอียดดังนี้
2.6 ความมั่นคงทางการเงิน จากการสำรวจในครั้งนี้พบว่า แหล่งเงินที่นักพนันใช้เล่นจะมาจากเงินเดือนคิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 39.8 รองลงมาร้อยละ 37.7 จะใช้เงินเก็บสะสมมาใช้เล่น ร้อยละ 6.3 จะใช้เงินจากบัตรเครดิต ในขณะที่มีถึงร้อยละ 6 ที่จะใช้เงินจากการขายหรือจำนำของรวมทั้งการกู้เงินจากนอกระบบมาใช้เล่นพนันฟุตบอล และจากผลสำรวจที่ได้คาดว่าภายหลังเสร็จสิ้นการแข่งขันฟุตบอลโลกในครั้งนี้ ฐานะทางการเงินของผู้เล่นพนันฟุตบอลจะเปลี่ยนแปลงไป ทั้งนี้เนื่องจากการนำเงินเก็บและรายได้จากการทำงานมาใช้ จึงส่งผลกระทบต่อเงินที่ต้องใช้ในยามฉุกเฉินหรือใช้เป็นค่าใช้จ่ายจำเป็นในครอบครัวก็ต้องลดหรืองดเว้นไป

2.7 ความมั่นคงทางครอบครัว จากผลการสำรวจกลุ่มที่เล่นพนันพบว่า มีผู้ที่เล่นพนันฟุตบอลถึงร้อยละ 63.7 ของผู้ตอบแบบสอบถามที่ทางครอบครัวไม่รู้ว่าเล่นพนันฟุตบอล ซึ่งต่างจากช่วงการแข่งขันฟุตบอลโลกปี 2545 ซึ่งในครั้งนั้นร้อยละ 45.8 ตอบว่าครอบครัวไม่ทราบว่าเล่นพนันฟุตบอล และเมื่อสอบถามกลุ่มที่ตอบว่าครอบครัวทางบ้านทราบว่าเล่นพนันฟุตบอลแล้วเป็นอย่างไรพบว่า ร้อยละ 43.7 ของกลุ่มตัวอย่างที่สำรวจถูกว่ากล่าวตักเตือนให้เลิกเล่นพนัน รองลงมาร้อยละ 38.8 ตอบว่าครอบครัวทางบ้านรู้สึกเฉยๆและร้อยละ 15.1 ตอบว่าผู้เล่นพนันฟุตบอลเกิดการทะเลาะกันกับสมาชิกในครอบครัว

2.8 ความมั่นคงทางสังคม การเล่นพนันฟุตบอลโลกครั้งนี้ทำให้เกิดปัญหาหลายอย่างตามมาทั้งปัญหาอาชญากรรมต่างๆอาทิ การติดตามทวงหนี้ การลักทรัพย์ การค้าประเวณี เพื่อนำเงินมาใช้หนี้ เป็นต้น ทั้งนี้จากการสอบถามกลุ่มผู่ที่เล่นพนันฟุตบอลว่าเคยเล่นพนันฟุตบอลแล้วไม่มีเงินจ่ายหรือไม่พบว่าส่วนใหญ่ร้อยละ 80.6 ของกลุ่มตัวอย่างที่สำรวจไม่เคยติดหนี้พนันฟุตบอล ในขณะที่อีกร้อยละ 19.4 เคยเล่นพนันฟุตบอลแล้วไม่มีเงินจ่าย โดยในส่วนของวิธีแก้ปัญหาการติดหนี้พนันฟุตบอลพบว่าผู้ตอบแบบสอบถามส่วนใหญ่ร้อยละ 26.8 ของกลุ่มตัวอย่างที่สำรวจจะใช้วิธียืมเงินจากเพื่อน รองลงมาได้แก่การผ่อนจ่ายเป็นงวดมีสัดส่วนร้อยละ 23.4 ติดหนี้พนันไว้ก่อนรอมีเงินแล้วค่อยจ่ายมีสัดส่วนร้อยละ 21.3 ขอเงินจากผู้ปกครองและเอาของไปจำนำมีสัดส่วนเท่ากันคือร้อยละ 13.2

ฟุตบอลโลกฟีเวอร์ : กระตุ้นคนไทยชมถ่ายทอดสดคึกคัก
ดังได้กล่าวมาแล้วข้างต้นว่า ฟุตบอลโลกเป็นมหกรรมการแข่งขันกีฬาที่ประชาชนทั่วโลกให้ความสนใจเฝ้ารอคอยแต่ละครั้งนานถึง 4 ปีเต็ม ซึ่งในส่วนของประเทศไทยเองนั้น โดยปกติคนไทยก็ให้ความสนใจการแข่งขันฟุตบอลของต่างประเทศที่ถ่ายทอดสดมาให้ชมตลอดทั้งปี ทั้งจากประเทศอังกฤษ ฝรั่งเศส เยอรมนี อิตาลี และยิ่งเป็นการแข่งขันฟุตบอลโลกที่รวบรวมทีมฟุตบอลชั้นนำจากทั่วโลกมาแข่งขันด้วยแล้วคนไทยก็ยิ่งให้ความสนใจติดตามชมการถ่ายทอดสดอย่างใจจดใจจ่อไม่แพ้ชาติไหนเช่นกัน ตรงข้ามอาจจะมากกว่าอีกหลายๆประเทศด้วยซ้ำ เนื่องจากสามารถติดตามชมถ่ายทอดสดการแข่งขันทุกนัดผ่านทางโทรทัศฯโดยไม่ต้องเสียเงินค่าชมรวมทั้งไม่มีโฆษณาคั่นระหว่างการแข่งขันให้เสียบรรยากาศเหมือนบางประเทศที่ต้องเสียค่าชมผ่านทาง Pay TV หรือทางระบบเคเบิลทีวีที่เก็บค่าสมาชิก ทั้งนี้จากการสำรวจพฤติกรรมการชมฟุตบอลโลกปี 2549 ของคนไทยมีสิ่งที่น่าสนใจดังนี้

3.1 พนักงานบริษัทเอกชน…สนใจชมการแข่งขันมากที่สุด
จากการสำรวจพบว่าร้อยละ 81.0 ของกลุ่มตัวอย่างที่สำรวจให้ความสนใจติดตามชมถ่ายทอดสดการแข่งขันฟุตบอลโลก และมีเพียงร้อยละ 19.0 ที่ไม่ได้ติดตามชมการแข่งขัน ทั้งนี้พนักงานบริษัทเอกชน ถือเป็นกลุ่มอาชีพที่สนใจชมการถ่ายทอดสดการแข่งขันมากที่สุดคิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 86.6 รองลงมาได้แก่ กลุ่มอาชีพค้าขาย/กิจการส่วนตัวสนใจติดตามชมฟุตบอลโลกร้อยละ 84.6 และกลุ่มอาชีพข้าราชการ/รัฐวิสาหกิจสนใจติดตามชมร้อยละ 80.5 และเป็นที่น่าสังเกตว่ากลุ่มนักเรียน/นักศึกษาสนใจติดตามชมการแข่งขันฟุตบอลโลกในสัดส่วนร้อยละ 79.4 ของกลุ่มนักเรียน/นักศึกษาที่ตอบแบบสอบถาม

สำหรับสาเหตุของการติดตามชมการถ่ายทอดสดการแข่งขันฟุตบอลโลกในครั้งนี้ กลุ่มผู้ตอบแบบสอบถามให้เหตุผลว่าเป็นกีฬาที่ชื่นชอบอยู่แล้วคิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 52.2 ของกลุ่มผู้ตอบแบบสอบถาม สาเหตุรองลงมาร้อยละ 28.6 ติดตามชมเพราะต้องการร่วมกระแสฟุตบอลโลกที่สื่อประเภทต่างๆรวมทั้งผู้ผลิตสินค้าจัดกิจกรรมเกี่ยวกับฟุตบอลโลกอย่างต่อเนื่องในช่วงนี้ และมีร้อยละ 17.6 ที่ชมการถ่ายทอดสดการแข่งขันฟุตบอลโลกเพราะได้มีการพนันไว้ ในขณะที่สาเหตุที่กลุ่มผู้ตอบแบบสอบถามที่คาดว่าจะไม่ชมการแข่งขันฟุตบอลโลกในครั้งนี้เกิดจากเหตุผลเพราะไม่มีเวลาว่างคิดเป็นร้อยละ 37.8 รองลงมาร้อยละ 35.1 กลัวว่าจะต้องนอนดึกและส่งผลกระทบต่อการเรียนหรือการทำงานเนื่องจากการแข่งขันส่วนใหญ่จะอยู่ในช่วงดึกเวลา 22.00 น. 23.00 น. และ 02.00 น. และมีร้อยละ 26.3 ที่ไม่ชมการแข่งขันเพราะไม่ชอบกีฬาฟุตบอล

3.2 ร้านอาหาร…สถานบันเทิง : เตรียมรับทรัพย์คอลูกหนังเข้าใช้บริการ
เมื่อครั้งที่มีการแข่งขันฟุตบอลโลกในปี 2545 ซึ่งประเทศญี่ปุ่นและเกาหลีใต้เป็นเจ้าภาพ การถ่ายทอดสดการแข่งขันมายังประเทศไทยจะอยู่ในช่วงกลางวัน ส่งผลให้ผู้สนใจสามารถติดตามชมได้จากที่บ้านหรือที่ทำงาน แต่สำหรับการแข่งขันฟุตบอลโลกในครั้งนี้เนื่องจากเวลาการถ่ายทอดสดจะอยู่ในช่วงดึกของไทย ซึ่งปัจจัยดังกล่าวส่งผลให้คนไทยบางกลุ่มสนใจที่จะติดตามชมการแข่งขันตามหน้าศูนย์การค้า ร้านอาหาร สถานบันเทิงต่างๆอย่างคึกคัก โดยเฉพาะการแข่งขันบางคู่ที่เริ่มเวลาประมาณ 20.00 น.-22.00 น. ซึ่งมีถึง 26 นัดจาก 64 นัด โดยเฉพาะนัดชิงที่ 3 ในวันที่ 8 กรกฎาคม ที่ถ่ายทอดเวลา 21.00 น. และรอบชิงชนะเลิศวันที่ 9 กรกฎาคมที่ถ่ายทอดเวลา 20.00 น. ทั้งนี้จากการติดตามพฤติกรรมของผู้ที่สนใจชมถ่ายทอดสดการแข่งขันฟุตบอลโลกพบว่าร้อยละ 54.7 จะติดตามชมการแข่งขันที่บ้าน รองลงมาคือชมที่ร้านอาหารร้อยละ 16.9 ชมตามสถานบันเทิงร้อยละ 12.6 และชมตามห้างสรรพสินค้าที่ถ่ายทอดสดการแข่งขันด้วยจอภาพขนาดใหญ่ร้อยละ 5.9

ประสิทธิภาพการเรียน&การงานลด : ผลกระทบจากฟุตบอลโลก
เนื่องจากการแข่งขันฟุตบอลโลกในครั้งนี้จะมีการถ่ายทอดสดการแข่งขันจากประเทศเยอรมนีมาให้คนไทยที่คลั่งไคล้ได้ชมกันทุกนัดแบบไม่มีโฆษณาคั่นระหว่างการแข่งขัน แต่เนื่องจากระยะเวลาการถ่ายทอดสดส่วนใหญ่ถึง 38 นัดจาก 64 นัดการแข่งขันจะเป็นการถ่ายทอดสดในช่วงเวลาประมาณ 23.00 น.และสิ้นสุดการแข่งขันเวลาประมาณ 01.00 น. และอีกคู่เริ่มเวลาประมาณ 02.00 น. สิ้นสุดประมาณ 04.00 น. ซึ่งถือเป็นช่วงเวลาที่ค่อนข้างดึกสำหรับกลุ่มคนวัยเรียนและวัยทำงาน ดังนั้นหากผู้ชมการแข่งขันฟุตบอลโลกในช่วงดึกฝืนมาเรียนหรือทำงานก็จะทำให้ประสิทธิภาพลดลง ส่งผลให้ในช่วงการแข่งขันฟุตบอลโลกอาจได้เห็นภาพของเด็กนักเรียน นักศึกษา หลับในห้องเรียน หรือข้าราชการ พนักงานหรือลูกจ้างบริษัทเอกชนหลับในที่ทำงานจนชินตา โดยเฉพาะในกลุ่มผู้ที่เล่นพนันฟุตบอลไว้ส่วนใหญ่จะติดตามชมการแข่งขันมากกว่ากลุ่มอื่น ทั้งนี้จากการสอบถามพบว่า กลุ่มตัวอย่างที่เล่นพนันฟุตบอลไว้ ส่วนใหญ่ร้อยละ 61.4 จะชมการแข่งขันฟุตบอลในคู่ที่เล่นพนันไว้ และมีถึงร้อยละ 31.6 ที่ดูทุกคู่ มีเพียงร้อยละ 7.0 ที่ไม่ได้ติดตามชมการแข่งขัน

และเมื่อสอบถามเกี่ยวกับผลกระทบจากการติดตามชมการแข่งขันฟุตบอลซึ่งส่วนใหญ่เป็นช่วงดึกพบว่าร้อยละ 57.7 ตอบว่าการชมถ่ายทอดสดฟุตบอลในช่วงดึกไม่มีผลกระทบต่อตนเอง ในขณะที่ร้อยละ 42.3 ตอบว่าส่งผลกระทบ ทั้งนี้เป็นที่น่าสังเกตว่ากลุ่มอาชีพพนักงานบริษัทเอกชนได้รับผลกระทบจากการชมฟุตบอลมากที่สุด โดยมีถึงร้อยละ 50.5 ที่ตอบว่าตนเองได้รับผลกระทบ ในขณะที่กลุ่มข้าราชการ/รัฐวิสาหกิจเป็นกลุ่มที่ได้รับผลกระทบจากการติดตามชมฟุตบอลในช่วงดึกน้อยที่สุดโดยมีเพียงร้อยละ 35.1 ที่ตอบว่าได้รับผลกระทบ

สำหรับผลกระทบสำคัญในกลุ่มที่ชมการแข่งขันฟุตบอลในช่วงดึกพบว่าส่วนใหญ่ร้อยละ 49.7 ได้รับผลกระทบจากการทำงาน รองลงมาร้อยละ 27.9 กระทบทางด้านเรื่องเรียน ร้อยละ 15.0 เกิดปัญหาการทะเลาะเบาะแว้งในครอบครัว และร้อยละ 17.4 เกิดปัญหาทางด้านสุขภาพร่างกายจากการอดหลับอดนอนอาทิ ตาบวม ร่างกายอ่อนเพลีย วิงเวียนศีรษะ เรียนหรือทำงานไม่มีสมาธิ เป็นต้น

ปราบปรามพนันฟุตบอล : ภารกิจใหญ่ที่หยุดไม่ได้
ในช่วงหลายปีที่ผ่านมาจำนวนผู้เล่นรวมทั้งมูลค่าการเล่นพนันฟุตบอลมีเพิ่มขึ้นเป็นลำดับ ส่งผลให้ภาครัฐต้องเร่งปราบปรามจับกุมการเล่นพนันฟุตบอลอย่างจริงจัง โดยเฉพาะในช่วงที่มีการแข่งขันฟุตบอลในระดับนานาชาติที่ประชาชนให้ความสนใจเป็นพิเศษเช่น การแข่งขันฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติยุโรป และการแข่งขันฟุตบอลโลก ซึ่งเป็น 2 ทัวร์นาเม้นที่คนไทยให้ความสนใจมากที่สุด ทำให้สามารถจับกุมผู้เล่นพนันฟุตบอลได้เพิ่มขึ้นกว่าช่วงปกติ ดังจะเห็นได้จากปี 2545 ซึ่งเป็นปีที่มีการแข่งขันฟุตบอลโลกเจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถจับกุมผู้เล่นพนันฟุตบอลได้ถึง 5,017คน เพิ่มขึ้นจากปี 2544 ซึ่งสามารถจับกุมได้ 1,674 คนหรือเพิ่มขึ้นประมาณ 3 เท่า ทั้งนี้หากแยกเป็นสถิติการจับกุมในช่วงเพียง 1 เดือนของการแข่งขันฟุตบอลโลกระหว่างวันที่ 31 พฤษภาคม-30 มิถุนายน 2545 สามารถจับกุมผู้เล่นพนันฟุตบอลได้ทั้งสิ้น 1,322 คน หรือคิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 26.4 ของจำนวนที่จับได้ตลอดทั้งปี2545

และนับตั้งแต่ปี 2545 เป็นต้นมาภาครัฐได้มีการปราบปรามการเล่นพนันฟุตบอลอย่างต่อเนื่องและจริงจัง เพราะถือเป็นภารกิจสำคัญที่จะต้องปราบปรามการเล่นพนันฟุตบอลที่แพร่ขยายไปยังกลุ่มคนทุกเพศ ทุกวัย ทุกสาขาอาชีพและทุกชุมชนอย่างรวดเร็วจนส่งผลกระทบต่อปัญหาการทะเลาะเบาะแว้งกันในครอบครัว ปัญหาทางสังคมทั้งการลักขโมย จี้ปล้น เพื่อนำเงินมาใช้หนี้พนัน รวมทั้งปัญหาทางเศรษฐกิจเนื่องจากเงินทองของผู้เล่นพนันส่วนใหญ่จะอยู่ในกลุ่มเจ้ามือบอลเพียงไม่กี่ราย โดยจากสถิติการจับกุมผู้เล่นพนันฟุตบอลในปี 2546 อยู่ที่ 4,827 คน ส่วนในปี 2547 ซึ่งมีการแข่งขันฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติยุโรป ผลการจับกุมผู้เล่นพนันฟุตบอลมีทั้งสิ้น 4,627 คน แยกเป็นการจับกุมในช่วงการแข่งขันฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติยุโรประหว่างวันที่ 12 มิถุนายน-5กรกฎาคม 1,838 รายหรือคิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 39.7 ของจำนวนที่จับได้ตลอดทั้งปี 2547

ศูนย์วิจัยกสิกรไทย เห็นว่า ที่ผ่านมาภาครัฐโดยเฉพาะเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ทุ่มเทและพยายามป้องกันและปราบปรามการเล่นพนันฟุตบอลอย่างต่อเนื่องและจริงจังตลอดมา จนสามารถจับกุมผู้กระทำความผิดทั้งผู้เล่นและเจ้ามือพนันได้เป็นจำนวนมาก แต่เนื่องจากกลุ่มผู้เล่นที่ขยายตัวออกไปในทุกกลุ่มสาขาอาชีพ ทั้งเด็ก เยาวชน และผู้ใหญ่ ในขณะที่กำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจมีไม่เพียงพอกับจำนวนโต๊ะรับพนันฟุตบอลที่แพร่กระจายไปยังแหล่งชุมชนต่างๆ ประกอบกับการเล่นพนันฟุตบอลบางส่วนจะใช้วิธีเล่นพนันโดยการใช้โทรศัพท์และใช้วิธีโอนเงินผ่านทางสถาบันการเงินทำให้การติดตามจับกุมมีความยากลำบากมากขึ้น ดังนั้นในช่วงการแข่งขันฟุตบอลโลกในปี 2549 ซึ่งมีแนวโน้มที่คนไทยจะสนใจเล่นพนันฟุตบอลกันอย่างคึกคัก ทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องกับกลุ่มผู้เล่นพนันฟุตบอลจึงต้องเข้ามาร่วมมือกันแก้ปัญหาการเล่นพนันฟุตบอล โดยในส่วนของสถาบันการศึกษาต่างๆเองในช่วงฟุตบอลโลกนี้ก็เข้ามาดูแลนักเรียนนักศึกษาไม่ให้ยุ่งเกี่ยวกับการเล่นพนันฟุตบอลโดยมีมาตรการต่างๆอาทิ ให้ครูประจำห้องคอมพิวเตอร์ที่มีการเชื่อมต่อกับระบบอินเตอร์เน็ตดูแลไม่ให้ถูกใช้เป็นช่องทางเล่นพนัน รวมทั้งการตรวจสอบเวลาเข้าเรียนของนักเรียน/นักศึกษาว่ามาสายหรือไม่มาเพิ่มขึ้นมากกว่าช่วงปกติก่อนมีการแข่งขันฟุตบอลโลกหรือไม่ ในขณะเดียวกันก็ประสานกับเจ้าหน้าที่ตำรวจในการสอดส่องโต๊ะพนันที่เปิดอยู่ใกล้สถานศึกษาให้เข้มงวดมากขึ้น นอกจากนี้ ประชาชนทั่วไปก็สามารถแจ้งเบาะแสต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจได้หากพบเห็นการเล่นพนันฟุตบอลเพื่อช่วยกันป้องกันไม่ให้การเล่นพนันฟุตบอลขยายวงกว้างออกไป

อย่างไรก็ตาม เป็นที่น่าสังเกตว่าสถาบันที่มีส่วนสำคัญในการป้องกันและลดการเล่นพนันฟุตบอลได้แก่สถาบันครอบครัวซึ่งมีความใกล้ชิดกับผู้เล่นพนันฟุตบอลมากที่สุดไม่ว่าจะเป็นพ่อแม่ ผู้ปกครองซึ่งจะต้องเอาใจใส่กับสมาชิกในครอบครัว โดยต้องหมั่นคอยสังเกตพฤติกรรมของสมาชิกในครอบครัว อาทิ ปฏิกิริยาภายหลังจากรู้ผลแพ้ชนะของคู่ฟุตบอลที่แข่งขันแล้วเป็นอย่างไร หากอารมณ์เสียเกินกว่าปกติก็มีข้อน่าสงสัยว่าจะเล่นพนันฟุตบอลไว้ นอกจากนี้ต้องสังเกตว่าของมีค่าส่วนตัวอาทิ โทรศัพท์มือถือ สร้อยทองคำ กล้องดิจิตอล เครื่องเล่นเอ็มพี3 รวมทั้งทรัพย์สินภายในบ้านหายไปหรือไม่เพราะอาจจะถูกนำไปเล่นหรือใช้หนี้พนันก็เป็นได้ ในขณะเดียวกัน ในทางตรงกันข้ามหากแต่เดิมคนในครอบครัวไม่เคยมีทรัพย์สินมีค่าดังที่กล่าวข้างต้น แต่ได้มาในช่วงการแข่งขันฟุตบอลโลกโดยไม่มีสาเหตุก็อาจสงสัยว่าน่าจะได้มาเพราะการพนันฟุตบอลเช่นกัน

บทสรุป
ศูนย์วิจัยกสิกรไทย ไม่สนับสนุนให้คนไทยเล่นพนันฟุตบอล เพราะการพนันไม่ได้ให้ประโยชน์แก่ผู้เล่นเลย ซึ่งนอกจากจะทำให้ผู้เล่นเสียทรัพย์สินเงินทองที่เก็บสะสมแล้วยังก่อให้เกิดปัญหาการทะเลาเบาะแว้งในครอบครัว ปัญหาอาชญากรรม การจี้ชิงทรัพย์ การทำผิดกฎหมายเพื่อหาเงินมาใช้หนี้พนันเช่นค้ายาเสพติด และการค้าประเวณี ฉะนั้น ทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องทั้งหน่วยงานภาครัฐ สถานศึกษา สถาบันครอบครัวต้องร่วมมือกันสนับสนุนและส่งเสริมให้คนไทยอยู่ในกรอบของการชมการแข่งขันฟุตบอลโลกเพื่อความบันเทิงและอยู่ในความพอดี โดยไม่ส่งผลต่อประสิทธิภาพการเรียนและการทำงานที่ลดลงเพราะสุขภาพร่างกายที่ทรุดโทรมจากการอดนอนอันเป็นผลจากการติดตามการถ่ายทอดสดในช่วงดึก ประการสำคัญคือป้องกันไม่ให้ฟุตบอลโลกถูกแปรมาเป็นการพนันขันต่อซึ่งส่งผลเสียต่อตนเอง ครอบครัว ตลอดจนสังคมที่เสื่อมโทรมลงในที่สุด