เงินดอลลาร์สหรัฐฯ ยังคงเคลื่อนไหวอยู่ในช่วงแคบ ท่ามกลางความไม่แน่นอนเกี่ยวกับทิศทางอัตราดอกเบี้ยสหรัฐฯ และกระแสข่าวการปรับเปลี่ยนรัฐมนตรีคลังสหรัฐฯ ส่งผลให้ตลาดเงินจับตานโยบายค่าเงินดอลลาร์ของขุนคลังคนใหม่ ขณะเดียวกันเงินปอนด์สเตอร์ลิงอังกฤษ มีค่าโน้มต่ำลง เมื่อราคาที่อยู่อาศัยส่งสัญญาณไม่ชัดเจนว่าตลาดบ้านของอังกฤษยังคงเข้มแข็งหรือซบเซา สำหรับราคาทองคำในตลาดต่างประเทศ ผันผวนอย่างหนัก โดยกระเตื้องขึ้นในช่วงต้นสัปดาห์ ก่อนที่จะลดต่ำลงแตะระดับเฉลี่ย 630 ดอลลาร์/ออนซ์
เงินดอลลาร์สหรัฐฯ มีค่าอ่อนไหวในช่วงต้นสัปดาห์ เนื่องจากข่าวจากประเทศจีนแถลงว่าทางการจีนอาจเรียกเก็บภาษีจากผลตอบแทนที่เกิดจากการขายบ้านที่มีระยะเวลาการซื้อขายภายใน 5 ปี อีกทั้งอาจพิจารณาเพิ่มเงินดาวน์สำหรับผู้ซื้อบ้านแบบผ่อนชำระ ทั้งนี้เพื่อบรรเทาความร้อนแรงของตลาดอสังหาริมทรัพย์ของจีน มาตรการเหล่านี้มีวัตถุประสงค์ส่วนหนึ่งเพื่อป้องกันมิให้เศรษฐกิจจีนเติบโตเร็วเกินไป จนอาจไร้เสถียรภาพ ซึ่งก่อนหน้านี้ทางการจีนได้ขึ้นอัตราดอกเบี้ยอย่างไม่คาดฝันมาแล้ว และส่งผลให้ค่าเงินหยวนแข็งขึ้นเมื่อเทียบกับเงินดอลลาร์สหรัฐฯ ปัจจัยสำคัญอีกประการหนึ่งที่เขย่าค่าเงินดอลลาร์ ได้แก่ ดัชนีวัดความเชื่อมั่นผู้บริโภคสหรัฐฯเดือนพฤษภาคมลดลงต่ำสุดในรอบ 3 เดือน
เป็นที่น่าสังเกตว่า เงินดอลลาร์ได้รับข่าวดีชั่วขณะ เมื่อมีรายงานข่าวว่าประธานาธิบดี George W. Bush อาจเสนอชื่อนาย Henry Paulson ประธานบริษัท Goldman Sachs เข้าดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีคลังคนใหม่แทนนาย John Snow ทำให้ตลาดเงินคาดว่านาย Paulson น่าจะนิยมนโยบายค่าเงินดอลลาร์แข็ง เหมือนผู้บริหารคนก่อน คือ นาย Robert Rubin ที่เข้ามาทำหน้าที่ขุนคลังสหรัฐฯ เมื่อหลายปีก่อน แต่อย่างไรก็ตาม กระแสข่าวดังกล่าวกลับพยุงค่าเงินดอลลาร์เพียงเล็กน้อยเท่านั้น ค่าเงินดอลลาร์ลดต่ำลงในเวลาถัดมา
เงินดอลลาร์มีค่าโน้มต่ำลงอีกในตลาดยุโรป เพราะหนังสือพิมพ์ชั้นนำ Times ได้ลงข่าวว่าทางการสหรัฐฯอาจเลือกนาย Don Evans อดีตรัฐมนตรีพาณิชย์ เข้ารับตำแหน่งรัฐมนตรีคลัง เนื่องจากนาย Evans มีแนวคิดที่โอนเอียงไปในทางที่สนับสนุนค่าเงินดอลลาร์อ่อนตัว เพื่อช่วยการส่งออกของสหรัฐฯ และแก้ไขปัญหาความไม่สมดุลทางการค้า นอกจากนี้ เงินดอลลาร์ยังถูกกดดันจากการแสดงความคิดเห็นของรัฐมนตรีเศรษฐกิจญี่ปุ่น นาย Kaoru Yosano ที่สะท้อนว่าทางการไม่ต้องให้ค่าเงินเยนผันผวนจนเกินไป หรืออีกนัยหนึ่งก็คือพร้อมที่จะเข้าแทรกแซงตลาด
ในช่วงกลางสัปดาห์ เงินดอลลาร์กระเตื้องขึ้นเล็กน้อย เพราะรายงานการประชุมคณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐฯครั้งล่าสุด ให้ความสนใจในประเด็นเงินเฟ้ออย่างชัดเจน ซึ่งตลาดเงินมองว่าทางการสหรัฐฯน่าจะมีแนวโน้มที่จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยต่อไปอีก ประกอบกับข่าวของรัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯที่พยายามหาหนทางเจรจาประนีประนอมกับอิหร่าน เพื่อลดความตึงเครียดลง ก็มีส่วนช่วยค่าเงินดอลลาร์ด้วย เช่นเดียวกับรายงานดัชนีผู้ประกอบการเดือนพฤษภาคมของเมืองชิคาโกที่พุ่งสูงสุดในรอบ 7 เดือน ล้วนตอกย้ำว่าเศรษฐกิจสหรัฐฯและเงินเฟ้อยังคงต้องจับตาอย่างใกล้ชิด
น่าเสียดายที่ค่าเงินดอลลาร์อ่อนแรงลงในช่วงท้ายสัปดาห์ เป็นผลจากรายงานของธนาคารกลางยุโรปที่เตือนให้ตลาดเงินเฝ้าระวังปัจจัยเสี่ยงเกี่ยวกับความไม่สมดุลทางการค้าของสหรัฐฯกับประเทศต่างๆ ซึ่งอาจส่งผลให้ค่าเงินดอลลาร์ผันผวนในที่สุด
เงินปอนด์อังกฤษ มีค่าขยับสูงขึ้นในช่วงแรก เป็นผลจากค่าเงินดอลลาร์ที่ทรุดต่ำลง รวมถึงนักค้าเงินคาดว่าธนาคารกลางอังกฤษจะขึ้นอัตราดอกเบี้ยในช่วงครึ่งหลังของปีนี้ แต่อย่างไรก็ตาม ผลการสำรวจภาวะราคาบ้านเดือนพฤษภาคมที่อ่อนกำลังลง รวมถึงการอนุมัติสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัยที่ลดลงในเดือนเมษายน ได้สร้างความไม่แน่ใจเกิดขึ้นอีกระลอกเกี่ยวกับการขึ้นอัตราดอกเบี้ยของอังกฤษ และบั่นทอนค่าเงินปอนด์ด้วย
ราคาทองคำในตลาดต่างประเทศ เคลื่อนไหวรุนแรง โดยมีราคาเฉลี่ยในช่วง 631-662 ดอลลาร์/ออนซ์ สาเหตุสำคัญที่ทำให้ราคาทองคำผันผวน ได้แก่ ทิศทางค่าเงินดอลลาร์ และแนวโน้มราคาน้ำมันดิบ ที่เป็นชนวนให้บรรดากองทุนและพวกเก็งกำไรมีการซื้อขายกันเป็นจำนวนมาก และมีอิทธิพลทำให้ราคาทองคำเคลื่อนไหวอย่างรวดเร็ว
อัตราแลกเปลี่ยนเงินดอลลาร์สหรัฐฯ เทียบกับเงินตราสำคัญสกุลต่างๆ ณ วันที่ 29 พฤษภาคม 2549 เทียบกับวันที่ 1 มิถุนายน 2549 (ตัวเลขในวงเล็บ) มีดังนี้
เงินดอลลาร์สหรัฐฯ มีค่าเท่ากับ 1.2753 ดอลลาร์/ยูโร (1.2800 ดอลลาร์/ยูโร) 112.42 เยน (112.67 เยน) และ 1.8596 ดอลลาร์/ปอนด์ (1.8645 ดอลลาร์/ปอนด์)
ราคาทองคำในตลาดลอนดอน เมื่อวันที่ 30 พฤษภาคม 2549 เท่ากับ 662.0 ดอลลาร์/ออนซ์ เทียบกับราคา 631.40 ดอลลาร์/ออนซ์ เมื่อวันที่ 1 มิถุนายน 2549
