คลีนโนเวชั่น ธุรกิจวิ่งฉิวยอดพุ่งกว่าปีละ 20 ล้าน เตรียมบุกตลาดผู้บริโภคมากขึ้น

บริษัท คลีนโนเวชั่น จำกัด ผู้จำหน่ายสินค้าและบริการด้านความสะอาดที่มีคุณภาพให้แก่ลูกค้าแบบครบวงจรมากว่า 1 ปี เปิดตัว แผนธุรกิจและกลยุทธ์การดำเนินงาน เตรียมบุกตลาดผู้บริโภค เริ่มต้นที่กลุ่มลูกค้าพาณิชยกรรมตลาดบน สำนักงานออฟฟิศ และคฤหาสน์ขนาดใหญ่ ที่ใส่ใจเรื่องความสะอาดและต้องการดูแลความสะอาดแบบครบวงจร หลังประสบความสำเร็จในการทำตลาดสำหรับกลุ่มอุตสาหกรรม และกลุ่มองค์กรขนาดใหญ่ ด้วยรายได้ปีละ 20 ล้าน ตั้งเป้าเป็น one stop service อย่างสมบรูณ์แบบเพื่อขยายฐานตลาดไปทั่วประเทศ

นายสิทธิชัย แซ่ตั้ง กรรมการผู้จัดการ บริษัท คลีนโนเวชั่น จำกัด กล่าวว่า “บริษัท คลีนโนเวชั่น จำกัด ถือเป็นผู้จำหน่ายสินค้าและบริการด้านความสะอาดที่มีคุณภาพให้แก่ลูกค้าแบบครบวงจร ภายใต้สโลแกน “คลีนโนเวชั่น….อุปกรณ์มาตรฐาน สำหรับคนรักความสะอาดอย่างมีคุณภาพ” บริษัทได้ต่อยอดมาจากธุรกิจของครอบครัว คือ ผู้ผลิตเครื่องทำความสะอาดยี่ห้อ “Champion” หรือ บริษัท เครื่องขัดไทย จำกัด ผู้นำด้านเครื่องทำความสะอาดคุณภาพเยี่ยมของประเทศไทย ที่เป็นที่รู้จักดีในวงการธุรกิจรับทำความสะอาด โดยบริษัท คลีนโนเวชั่น จำกัด ได้กำหนด “วิสัยทัศน์” เป็นผู้นำด้านอุปกรณ์ทำความสะอาดสำหรับอุตสาหกรรมและพาณิชยกรรมแห่งเอเชีย ในด้านนวัตกรรม คุณภาพ ความเป็นมืออาชีพ และการบริการแบบครบวงจร ซึ่งในปัจจุบันการเติบโตโดยรวมของตลาดสินค้าทำความสะอาด ทั้งด้านงานบริการทำความสะอาด และการขายอุปกรณ์ มีมากกว่า 800 ล้านบาทต่อปี โดยสินค้าที่ผลิตในประเทศเป็นสินค้าที่มีส่วนแบ่งการตลาดมากกว่าสินค้านำเข้าจากต่างประเทศ เพราะมีราคาที่ต่ำกว่าและสามารถตอบสนองความต้องการลูกค้าได้มากกว่าและรวดเร็วกว่า ซึ่งสินค้าคุณภาพ (Premium Product) ในตลาดที่ผลิตในประเทศมีส่วนแบ่งการตลาดอยู่ที่ 550 ล้านบาทต่อปี หรือประมาณ 70% และสินค้านำเข้าจะมีเพียงสินค้าที่ยังไม่ได้ผลิตในประเทศ โดยมีส่วนแบ่งประมาณ 30% แนวโน้มการผลิตสินค้าในประเทศมีการพัฒนาอยู่ตลอดเวลา ซึ่งต่อไปจะสามารถทดแทนสินค้านำเข้าได้ เนื่องจากได้เปรียบในเรื่องราคาต้นทุนที่ต่ำกว่า และมีคุณภาพที่ไม่ด้อยไปกว่าสินค้านำเข้า ส่งผลให้สินค้าที่ผลิตในประเทศได้รับการยอมรับจากต่างประเทศ โดยมียอดการสั่งซื้อสูงกว่า 150 ล้านบาทต่อปี”

นายสิทธิชัย กล่าวว่า “คลีนโนเวชั่น เห็นโอกาสทางธุรกิจนี้จึงนำเสนอสินค้าคุณภาพต่อผู้บริโภค ที่สนใจในการใช้สินค้าที่มีคุณภาพมากขึ้นและห่วงใยในการดูแลรักษาตัวเองมากขึ้น โดย 70% เป็นสินค้าที่ผลิตในประเทศ และที่เหลืออีก 30% เป็นสินค้านำเข้า อีกทั้งตลาดอุปกรณ์ทำความสะอาดยังมีช่องว่างระหว่างผู้ผลิตและผู้บริโภค เพราะยังคงไม่มีตราสินค้าหรือ ผู้นำตลาดที่โดดเด่น การเข้ามาเปิดตัวในตลาดนี้ จึงเป็นโอกาสที่เราจะสามารถเติมเต็มความต้องการของผู้บริโภคได้ ซึ่งบริษัทฯ ถือว่ามีศักยภาพและความพร้อมในส่วนของประสบการณ์ในด้านการผลิตอุปกรณ์ทำความสะอาดสำหรับโรงงานอุตสาหกรรมที่ประสบความสำเร็จในธุรกิจของครอบครัวมาก่อน เราจึงมีข้อมูลและประสบการณ์ในการทำธุรกิจด้านนี้

นับเป็นข้อได้เปรียบของบริษัทฯ ที่มีต่อคู่แข่งในตลาด อีกทั้งการทำตลาดร่วมกับสินค้าอื่นๆ นอกเหนือจากที่เราผลิต นับเป็นกลยุทธ์การเติบโต (Growth Strategy) แบบแนวดิ่ง (vertical integration) ซึ่งเราเน้นในเรื่องสินค้าที่มีคุณภาพสูง เพื่อให้เกิดการยอมรับในคุณภาพสินค้า และคุ้มค่ากับราคาของสินค้า และถือเป็นทางเลือกหนึ่งแก่ผู้บริโภคที่จะมีสินค้าและบริการด้านความสะอาดที่มีคุณภาพแบบครบวงจร ”

นายสิทธิชัย กล่าวเพิ่มเติมว่า “ในส่วนของสินค้าและบริการของบริษัทฯ เราจำหน่ายสินค้าด้านความสะอาดที่มีคุณภาพให้แก่ ลูกค้าแบบครบวงจร โดยสินค้าที่เราจำหน่ายถือเป็นสินค้าในระดับ Hi-Class มีทั้งที่ผลิตในประเทศไทย และสินค้าที่เราเป็นตัวแทนจำหน่ายจากต่างประเทศ โดยเน้นความเป็นมืออาชีพด้านคุณภาพและการบริการที่หลากหลายครอบคลุมทั้งหมด และมีช่องทางการจัดจำหน่ายหลายช่องทาง ทั้งผ่านทางตัวแทนขาย (sale representative) ทางอินเตอร์เน็ต คือ เว็บไซต์ www.clean.co.th และเครือข่ายต่างๆ รวมทั้งเรามีหน้าร้านอยู่ที่อาร์ซีเอ ซึ่งสามารถให้ลูกค้าเข้ามาสัมผัสและทดลองใช้สินค้าได้ด้วยตัวเอง โดยกลุ่มลูกค้าเป้าหมายแบ่งเป็น 2 ส่วนหลัก คือ กลุ่มอุตสาหกรรม และ กลุ่มพาณิชยกรรม เราเริ่มต้นด้วยการบุกตลาดอุตสาหกรรม โดยเฉพาะโรงงานอุตสาหกรรมที่ต้องการสินค้าคุณภาพสูง เพราะสินค้าของเราช่วยตอบโจทย์ในการใส่ใจความสะอาดของลูกค้ากลุ่มโรงงานอุตสาหกรรมที่ต้องการทำมาตรฐาน ISO เพื่อให้สามารถรักษาความสะอาดและคุณภาพของโรงงานอุตสาหกรรม ซึ่งถือว่าได้รับการตอบรับที่ดีจากกลุ่มตลาดนี้อย่างมากจากการดำเนินการของบริษัทฯ ในปีกว่าที่ผ่านมา และอีกกลุ่มคือ กลุ่มพาณิชยกรรม กลุ่มลูกค้าที่เป็นกลุ่มผู้บริโภคโดยตรง โดยจะเน้นที่ลูกค้าตลาดบน สำนักงานออฟฟิศ และคฤหาสน์ขนาดใหญ่ ที่ใส่ใจเรื่องความสะอาดและเน้นด้านการดูแลสุขภาพและใส่ใจที่พักอาศัย โดยจากการศึกษาพฤติกรรมผู้บริโภคในปัจจุบัน ผู้บริโภคตระหนักถึงสุขอนามัยมากขึ้น รวมทั้งช่วงที่ผ่านมาการเติบโตของตลาดอสังหาริมทรัพย์มีสูงขึ้น ทำให้บริษัทฯ มองเห็นช่องทางในการทำตลาดกับกลุ่มลูกค้าเป้าหมายกลุ่มนี้”

“สำหรับเป้าหมายในการดำเนินธุรกิจในปี 2549 นี้ ทางบริษัทฯ ได้วางกลยุทธ์ในการพัฒนาองค์กรเพื่อให้เป็น One Stop Service อย่างสมบรูณ์แบบ และการนำเสนอความเป็น “คลีนโนเวชั่น” ที่ชัดเจนให้กับผู้บริโภคผ่านทางกิจกรรมการตลาดและการประชาสัมพันธ์ โดยคาดว่าในปีนี้จะสามารถขยายตัวเติบโตได้อีก 20% และอีก 40% ในปีถัดไป โดยมีการนำเสนอสินค้าสู่ลูกค้าผ่านช่องทางต่างๆ ที่สะดวกต่อการพบเห็นและง่ายต่อการซื้อสำหรับลูกค้า รวมถึงการเพิ่มช่องทางการจัดจำหน่ายเข้าสู่ลูกค้า และการทำกิจกรรมโรดโชว์สินค้าเพื่อแนะนำสินค้าและบริการแก่ผู้บริโภคโดยตรง การขายตรงผ่านบัตรเครดิตที่เราสามารถคัดเลือกกลุ่มเป้าหมายได้ง่ายขึ้น การร่วมทำตลาดกับโครงการหมู่บ้านจัดสรร การออกงานแสดงสินค้าเพื่อประชาสัมพันธ์และนำเสนอสินค้าต่อผู้บริโภค รวมทั้งการหาพันธมิตรทางธุรกิจในเขตภูมิภาค เพื่อสามารถให้บริการลูกค้าได้สะดวกและรวดเร็วมากขึ้น ในส่วนของเป้าหมายในระยะยาว บริษัทฯ คาดหวังจะพัฒนาแบรนด์ “คลีนโนเวชั่น” เป็นที่รู้จักมากขึ้น ทั้งการทำการตลาดและประชาสัมพันธ์พร้อม ๆ กัน การกระจายสาขา Outlet ออกสู่ต่างจังหวัดเพื่อครอบคลุมตลาดทั่วประเทศ” นายสิทธิชัย กล่าวสรุปในที่สุด