อีเอ็มซี คอร์ปอเรชั่น (NYSE: EMC) ผู้นำระดับโลกด้านการจัดเก็บและการจัดการข้อมูล เปิดเผยรายละเอียดเกี่ยวกับแผนการจัดตั้งศูนย์พัฒนาซอฟต์แวร์ที่ทันสมัยในนครเซี่ยงไฮ้ ประเทศจีน พร้อมทั้งประกาศแผนการลงทุน 500 ล้านดอลลาร์ในจีนในช่วง 5 ปีข้างหน้า ซึ่งนับเป็นเครื่องยืนยันถึงความมุ่งมั่นของบริษัทฯ ในการรองรับการเติบโตที่รวดเร็วของตลาดในประเทศจีน ศูนย์พัฒนาซอฟต์แวร์ดังกล่าวคาดว่าจะเริ่มเปิดดำเนินงานในช่วงเดือนหน้า โดยเป็นส่วนหนึ่งในโครงการลงทุนของอีเอ็มซี และเป็นศูนย์วิจัยและพัฒนาแห่งแรกของอีเอ็มซีที่ตั้งอยู่ในประเทศจีน
ดร.ธัชพล โปษยานนท์ ผู้จัดการทั่วไปประจำประเทศไทยบริษัท อีเอ็มซี กล่าวว่า “อีเอ็มซีมุ่งมั่นที่จะลงทุนและทำธุรกิจในประเทศจีนในระยะยาว เรามีแผนที่จะเพิ่มการลงทุนในจีนเป็น 2 เท่าจากยอดเงินลงทุนในปัจจุบัน ทั้งนี้เพื่อให้เราสามารถเข้าถึงกลุ่มวิศวกรที่มีความสามารถเป็นเลิศในจีน ทั้งยังช่วยเสริมสร้างอุตสาหกรรมซอฟต์แวร์ที่กำลังเติบโตอย่างต่อเนื่อง และเร่งการพัฒนาโซลูชั่นซอฟต์แวร์สำหรับลูกค้าทั่วโลก”
ศูนย์พัฒนาแห่งใหม่นี้เป็นส่วนหนึ่งของการลงทุนด้านการวิจัยและพัฒนาทั่วโลกของอีเอ็มซี ซึ่งคาดว่าจะมีมูลค่ามากกว่า 1,200 ล้านดอลลาร์ ในปี 2549 ทั้งนี้อีเอ็มซีได้จัดตั้งเครือข่ายศูนย์โซลูชั่นแบบครบวงจรในประเทศจีน ซึ่งช่วยกระชับความสัมพันธ์ระหว่างอีเอ็มซีกับลูกค้าในจีน ทั้งยังสร้างความร่วมมือกับผู้จัดหาโซลูชั่นซอฟต์แวร์และฮาร์ดแวร์ เปิดศูนย์ฝึกอบรมเพื่อออกใบรับรองให้แก่ผู้เชี่ยวชาญด้านระบบจัดเก็บข้อมูลบนเครือข่าย และส่งเสริมการพัฒนาระบบการศึกษาในจีน
เมื่อปีที่แล้ว รายได้จากซอฟต์แวร์โดยรวมทำให้อีเอ็มซีกลายเป็นบริษัทซอฟต์แวร์ระดับองค์กรที่ใหญ่ที่สุดในโลกเป็นอันดับที่ 7 นอกจากนั้นอีเอ็มซียังครองตำแหน่งอันดับ 1 ในฐานะผู้จัดหาซอฟต์แวร์ด้านการจัดการคอนเทนต์และระบบจัดเก็บข้อมูล
จากข้อมูลของไอดีซี อีเอ็มซีครองตำแหน่งผู้นำอันดับ 1 ในตลาดซอฟต์แวร์ด้านการจัดเก็บข้อมูลในประเทศจีน โดยมีส่วนแบ่งตลาด 39% ในแง่ของรายได้จากสตอเรจซอฟต์แวร์ ในปี 2548 [a]
ศูนย์พัฒนาในเซี่ยงไฮ้ของอีเอ็มซีจะจัดหาบริการสนับสนุนและการพัฒนาอย่างต่อเนื่องสำหรับโซลูชั่นซอฟต์แวร์ที่เป็นผู้นำตลาด และจะมีบทบาทสำคัญในการเร่งการแปลผลิตภัณฑ์ของอีเอ็มซีสำหรับประเทศจีนและตลาดอื่นๆ ในเอเชีย ศูนย์แห่งนี้คาดว่าจะว่าจ้างผู้พัฒนาซอฟต์แวร์ประมาณ 100 คนภายในสิ้นปีนี้ และจะเพิ่มเป็น 500 คนภายในปี 2551 โดยเป็นส่วนหนึ่งของเครือข่ายศูนย์พัฒนาที่ทันสมัยของอีเอ็มซีในสหรัฐฯ เบลเยียม ฝรั่งเศส อินเดีย และอิสราเอล
ดร. เช็งกอง ชาร์ลส์ ฟาน รองประธานและผู้จัดการทั่วไปของอีเอ็มซี ประเทศจีน จะทำหน้าที่กำกับดูแลการทำงานด้านการพัฒนาของศูนย์แห่งนี้ ดร. ฟาน ซึ่งเป็นชาวจีน จะขึ้นตรงต่อ มร. มาร์ค ลูอิส รองประธานบริหารและประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายพัฒนาของอีเอ็มซี ทั้งนี้ ดร. ฟาน เป็นผู้ร่วมก่อตั้งและประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายเทคโนโลยีของเรนฟินิตี้ (Rainfinity) ซึ่งเป็นผู้นำด้านเทคโนโลยีไฟล์เวอร์ช่วลไลเซชั่น (file virtualization) ซึ่งอีเอ็มซีได้เข้าซื้อกิจการของเรนฟินิตี้ในเดือนสิงหาคม 2548 ดร. ฟาน จบการศึกษาระดับปริญญาเอก สาขาวิชาวิศวกรรมไฟฟ้า จากสถาบันเทคโนโลยีแห่งแคลิฟอร์เนีย (California Institute of Technology)
อีเอ็มซีในประเทศจีน
อีเอ็มซีเริ่มเข้าสู่ตลาดจีนในปี 2539 และในปัจจุบันได้เปิดสำนักงายขายหลายแห่งในปักกิ่ง เซี่ยงไฮ้ กวางโจว และเฉิงตู การลงทุนในปัจจุบันของอีเอ็มซีในประเทศจีนครอบคลุมถึงเครือข่ายศูนย์โซลูชั่นในจีนของอีเอ็มซี (EMC China Solution Center) ซึ่งประกอบด้วยศูนย์ 5 แห่งในปักกิ่ง เซี่ยงไฮ้ กวางโจว ฮ่องกง และไทเป ซึ่งทำหน้าที่สนับสนุนและสาธิตเทคโนโลยีของอีเอ็มซีสำหรับลูกค้าและคู่ค้า นอกจากนี้ยังมีการจัดตั้งชั้นเรียน “EMC Classroom” ที่ Tsinghua University ศูนย์ฝึกอบรม EMC-Fudan Network Storage Training Center ที่นครเซี่ยงไฮ้ การพัฒนาความร่วมมือที่แข็งแกร่งกับ Neusoft และศูนย์บริการ 35 แห่งทั่วประเทศ
นอกเหนือจากตลาดสตอเรจซอฟต์แวร์แล้ว อีเอ็มซียังครองตำแหน่งผู้นำตลาดดิสก์สตอเรจแบบติดตั้งภายนอกในประเทศจีนเมื่อปีที่แล้ว ด้วยยอดขายสูงสุดในส่วนของอุปกรณ์จัดเก็บข้อมูล โดยในปี 2548 รายได้จากอุปกรณ์ดิสก์สตอเรจแบบติดตั้งภายนอกของอีเอ็มซีคิดเป็น 21.8% ของตลาดดิสก์สตอเรจแบบติดตั้งภายนอก จากข้อมูลของไอดีซี [b]
ข้อมูลเกี่ยวกับอีเอ็มซี
อีเอ็มซี เป็นผู้นำแห่งโลกธุรกิจระบบสตอเรจ ที่คิดค้นทั้งระบบ, ซอฟต์แวร์, ระบบเครือข่าย และ การให้บริการต่างๆ ทั้งยังพัฒนาโซลูชั่นสำหรับการบริหารระบบเครือข่ายข้อมูลเพื่อช่วยให้หน่วยงานต่างๆ ทั่วโลกสามารถดึง และปรับใช้ข้อมูลต่างๆ ที่มีอยู่ในแต่ละส่วนของวงจรข้อมูลนั้นๆ ได้ในระดับสูงสุดโดยใช้ต้นทุนต่ำที่สุด ข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับอีเอ็มซี สามารถรับได้ผ่านทางเว็บไซต์
