ASCON โชว์รายได้ไตรมาส 2 เพิ่มขึ้น 48 % เล็งร่วมพันธมิตรประมูลรถไฟฟ้า 3 สาย

แอสคอนแจ้งผลประกอบการไตรมาส 2 ปี 49 รายได้รวม 251.36 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อน 81.95 ล้านบาท เตรียมพร้อมผนึกพันธมิตรต่างชาติร่วมประมูลรถไฟฟ้า 3 สาย มูลค่ารวมกว่า 1.5 แสนล้านบาทที่รัฐสั่งเดินหน้าแล้ว

นายพัฒนพงษ์ ตนุมัธยา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท แอสคอน คอนสตรัคชั่น จำกัด (มหาชน) เปิดเผยผลประกอบการไตรมาส 2 ปี 49 ว่าบริษัทมีรายได้รวม 251.36 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 81.95 ล้านบาท หรือคิดเป็นร้อยละ 48.37 จากงวดเดียวกันของปี 2548 โดยมีสาเหตุมาจากงานโครงการที่ได้ลงนามในสัญญาก่อสร้างไว้มีความสำเร็จตามแผน ประกอบกับบริษัทได้รับงานโครงการเพิ่มขึ้นอย่างมาก โดยเฉพาะงานอาคารสูง คอนโดมิเนียม และคลังเก็บสินค้า อาทิ โครงการ เดอะ มาสเตอร์ มณธารา โครงการ ดิอินสไปร์ โครงการ วอเตอร์มาร์ค เจ้าพระยา และโครงการ มาบตาพุด ดิสทริบิวชั่น เซ็นเตอร์ ของบริษัท คาทูน นาที เซมป์คอร์ป (ประเทศไทย) จำกัด เป็นต้น ส่งผลให้บริษัทสามารถรับรู้รายได้จากการรับเหมาก่อสร้างเพิ่มมากขึ้น

สำหรับผลดำเนินงานไตรมาส 2 ปี 49 บริษัทฯมีรายได้รวม 251.36 ล้านบาท มีกำไรสุทธิ 28.10 ล้านบาท เพิ่มขึ้น12.25 ล้านบาท เปรียบเทียบจากกำไรสุทธิไตรมาสเดียวกันปี48 ที่มีกำไรสุทธิ 15.85 ล้านบาท โดยมีกำไรสุทธิงวด 6 เดือนปี 49 รวม 49.38 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 31.62 ล้านบาท เปรียบเทียบจากงวด 6 เดือนปี 48 ที่มีกำไรสุทธิ 17.76 ล้านบาท ส่วนกำไรสุทธิต่อหุ้นสำหรับไตรมาส 2 ปี 49 คือ 0.14 บาท เพิ่มขึ้น 0.03บาท เปรียบเทียบกับกำไรสุทธิต่อหุ้นไตรมาส 2ปี 48 คือ 0.11 บาท และคิดเป็นกำไรสุทธิต่อหุ้นงวด 6 เดือนปี 49 เท่ากับ 0.25 บาท เพิ่มขึ้น 0.13 บาท เปรียบเทียบจากกำไรสุทธิต่อหุ้นสำหรับงวด 6 เดือนปี 48 ที่ได้ 0.12 บาท

“สาเหตุที่ผลประกอบการไตรมาส 2 ปี 49 ดีขึ้นกว่าช่วงเดียวกันของปีที่แล้วนั้น เป็นไปตามที่คาดการณ์กันไว้ เพราะงานที่เซ็นสัญญาต่างๆเดินหน้าด้วยดี โดยเฉพาะช่วงมิถุนายน-กรกฎาคม บริษัทมีการเซ็นสัญญาอีกหลายงานด้วยกัน“

ปัจจุบันบริษัทฯ มีทุนจดทะเบียน 200 ล้านบาท เข้าจดทะเบียนซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยเดือนธันวาคมปี 2548 นโยบายปี 2549 ตั้งเป้าหมายอัตราการเติบโตของมูลค่างานในมือเพิ่มขึ้น 50 % จาก 2,000 ล้านบาทที่มีอยู่ ณ ต้นปี ให้เป็น 3,000 ล้านบาท โดยทยอยรับรู้รายได้ตามแผนงานไปกว่า400 ล้านบาท ซึ่งในเดือนมิถุนายน บริษัทฯได้เซ็นสัญญางานก่อสร้างคอนโดบ้านธนารักษ์ นนทบุรี โดยผู้ว่าจ้าง คือ บริษัท ธนารักษ์ พัฒนาสินทรัพย์ จำกัด มูลค่างาน 494.9 ล้านบาท

สำหรับเดือนกรกฎาคมมีการเซ็นสัญญาก่อสร้างเพิ่ม 4 โครงการ คือ โครงการบ้านธนารักษ์ ภูเก็ต จากผู้ว่าจ้างรายเดียวกัน มูลค่างาน 135.5 ล้านบาท โครงการ มาบตาพุด ดิสทริบิวชั่น เซ็นเตอร์ ของบริษัท คาทูน นาที เซมป์คอร์ป (ประเทศไทย) จำกัด มูลค่างาน 60.11 ล้านบาท โครงการดิอินสไปร์ เป็นคอนโดพักอาศัย สูง 18 ชั้น ของ บริษัท วัชรธร จำกัด มูลค่างาน 356 ล้านบาท และโครงการ เดอะมาสเตอร์ มณธาราเป็นอาคารที่พักอาศัย 8 ชั้น 2 อาคาร ของบริษัท เพาเวอร์พลัส พร๊อพเพอร์ตี้ จำกัด มูลค่างาน 331 ล้านบาท และล่าสุดโครงการวอเตอร์มาร์ค ซึ่งเป็นคอนโดพักอาศัย 27 ชั้น มูลค่างาน 930 ล้านบาท ซึ่งคาดว่าจะเซ็นสัญญาภายในเดือนสิงหาคมนี้ กล่าวโดยสรุป ขณะนี้บริษัทฯ มีมูลค่างานในมือ (Backlog) ทั้งหมด หลังรับรู้รายได้ครึ่งปีไปแล้ว ประมาณ 3,800 ล้านบาท ซึ่งเกินเป้าที่ตั้งไว้ในแผนธุรกิจของปี 49

นายพัฒนพงษ์กล่าวต่อว่า ขณะนี้ที่รัฐบาลสั่งเดินหน้าเปิดประมูล โครงการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชน (MRT) 3 สาย คือสายสีแดง สายสีม่วง สายสีน้ำเงิน คิดเป็นมูลค่ารวมกว่า 1.5 แสนล้านบาท โดยจะเริ่มขายแบบและกำหนดเงื่อนไขการประมูล (TOR)ในเร็วๆนี้นั้น ทางบริษัท แอสคอนฯ มีความสนใจที่จะเข้าร่วมประมูลโครงการดังกล่าว โดยจะร่วมทุนกับพันธมิตรจากต่างประเทศ อาทิ ประเทศจีน เยอรมัน และญี่ปุ่น ซึ่งได้มีข้อตกลงเบื้องต้นไว้แล้ว และหากบริษัทได้รับคัดเลือกให้รับงานก่อสร้าง ก็จะเป็นการสร้างผลงาน (Track Record) ของภาครัฐที่ดีอีกงานหนึ่ง โดยขณะนี้ในส่วนพันธมิตรธุรกิจของบริษัทฯมีความพร้อมสำหรับการเข้าร่วมประมูลงานอย่างเต็มที่

ข้อมูลเพิ่มเติม กรุณาติดต่อ บริษัท โอเอซิส มีเดีย จำกัด โทร.0-2937-4658-9,0-2937-4735
คุณชัชวาล ตรีเนตร / คุณศรัญญรัตน์ สุวรรณคาม / คุณปิยะพร จำเนียร
Email : chatchaval@oasismedia.co.th, saranyarat@oasismedia.co.th , piyaporn@oasismedia.co.th