สสปน. จัด ASEAN MICE 2007 ปูทางตลาดไมซ์ไทยสู่ระดับอาเซียน

สสปน. ผนึกกำลัง ทิก้า และ ทีอีเอ ปูพรมไทยเป็นศูนย์กลางการประชุม และแสดงสินค้าแห่งเอเชียแปซิฟิค จัดงาน ASEAN MICE 2007 วันที่ 8 – 11 มีนาคม 2550 พร้อมดันไทยเป็นผู้นำเทรดโชว์ด้านไมซ์ภายในปี 2553

นายขจิต หัพนานนท์ ผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (สสปส.) และประธานคณะกรรมการการจัดงาน ASEAN MICE 2007 เปิดเผยว่า ปัจจุบันธุรกิจการจัดประชุมสัมมนา กิจกรรมท่องเที่ยวระดับองค์กร รวมถึงนิทรรศการระดับประเทศและระดับนานาชาติ หรือเรียกโดยรวมว่า “ไมซ์” (MICE – Meetings, Incentives, Conventions and Exhibitions) ทั้งในระดับประเทศและระดับโลกได้ขยายตัวมากขึ้น และมีการแข่งขันกันสูงขึ้น ทั้งในด้านสถานที่ การบริการ และเทคโนโลยีด้านต่างๆ ประกอบกับภาครัฐได้เข้ามามีบทบาทในการส่งเสริมอุตสาหกรรมนี้มากขึ้น โดยมีนโยบายผลักดันให้เประเทศไทยเป็นศูนย์กลางในการจัดงานแสดงสินค้าและงานประชุมในภูมิภาคเอเชีย และเพื่อเป็นการสนองนโยบายของรัฐบาล สสปน. ร่วมกับสมาคมส่งเสริมการประชุมนานาชาติ (ไทย) และ สมาคมการแสดงสินค้า (ไทย) จัดงาน ASEAN MICE 2007 ขึ้น โดยมีวัตถุประสงค์สำคัญเพื่อกระตุ้นให้บุคคลทั่วไปเห็นถึงความสำคัญของอุตสาหกรรมไมซ์ที่จะช่วยสร้างประโยชน์ต่อเศรษฐกิจของประเทศและเห็นถึงรายได้ที่ประเทศไทยจะได้รับ ทั้งในส่วนที่มาจากรายได้ทางตรงซึ่งเกิดขึ้นจากการใช้จ่ายของนักท่องเที่ยว/ นักธุรกิจในระหว่างการเดินทางมาร่วมการสัมมนาและงานนิทรรศการต่างๆ และรายได้ซึ่งเกิดขึ้นจากการซื้อ-ขาย แลกเปลี่ยนธุรกิจ ภายหลังจากที่ได้มาร่วมงาน

“อุตสาหกรรมไมซ์มีส่วนสำคัญต่อการเสริมสร้างเศรษฐกิจของชาติแบบก้าวกระโดด เนื่องจากเป็นศูนย์รวมการติดต่อระหว่างผู้ผลิต และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องสามารถทำธุรกรรมการค้าได้อย่างครบวงจรอีกทั้งกระจายรายได้ให้กับอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวภายในประเทศ โดยนักท่องเที่ยวในกลุ่มสัมมนาระดับนานาชาติ มีค่าใช้จ่ายต่อคนต่อครั้งมากกว่านักท่องเที่ยวปกติถึง 3 เท่าตัว โดยมีค่าใช้จ่ายเฉลี่ยต่อคนประมาณ 10,000 บาทต่อวัน ขณะที่นักท่องเที่ยวทั่วไปใช้จ่ายประมาณคนละ 3,700 บาทต่อวัน” นายขจิต กล่าว

สสปน. ซึ่งเป็นองค์กรที่มีบทบาทสำคัญในการเป็นหน่วยงานที่มีหน้าที่รับผิดชอบโดยตรงต่ออุตสาหกรรมไมซ์ ได้วางแนวทางในการดำเนินงานเพื่อส่งเสริมการดำเนินงานในหลายๆ ด้าน อาทิ การการวางระบบข้อมูลส่วนกลาง (MICE Information Research Center) เพื่อเป็นศูนย์วิจัยข้อมูล และรวบรวมข้อมูลด้านอุตสาหกรรมไมซ์ที่กระจัดกระจายให้เป็นหมวดหมู่ มีการจัดเก็บข้อมูลอย่างเป็นระบบเพื่อความสะดวกและง่ายต่อการค้นหา จัดตั้งระบบพัฒนาบุคลากรของอุตสาหกรรม (MICE Capability) ส่งเสริมอุตสาหกรรมไมซ์ภายในประเทศ โดยกระตุ้นให้มีการจัดงานประชุมและนิทรรศการในประเทศ เพื่อรักษาเม็ดเงินไว้ในประเทศ อีกทั้งยังส่งเสริมให้บริษัทห้างร้านที่เคยไปจัดงานประชุมหรือนิทรรศการในต่างประเทศหันมาจัดงานในประเทศแทน เนื่องจากประเทศไทยมีความพร้อมในทุกๆ ด้านที่จะเป็นเจ้าภาพจัดการประชุมนานาชาติ

งานนิทรรศการเกี่ยวกับอุตสาหกรรมการจัดประชุมและนิทรรศการ ASEAN MICE 2007 ซึ่งจะจัดเป็นครั้งแรกในประเทศไทย ระหว่างวันที่ 8 -11 มีนาคม 2550 นับเป็นอีกหนึ่งแนวทางการดำเนินงานของ สสปน. เพื่อช่วยส่งเสริมการเติบโตของอุตสาหกรรมไมซ์ โดยจะเป็นการรวมตัวของผู้ประกอบการและผู้ที่เกี่ยวข้องในอุตสาหกรรมการจัดประชุมและนิทรรศการจากทั่วโลก ทั้งนี้จะเป็นเวทีที่เปิดโอกาสให้มีการสร้างโอกาสทางธุรกิจ การแลกเปลี่ยนประสบการณ์ ความเชี่ยวชาญ และองค์ความรู้ต่างๆ เกี่ยวกับไมซ์ ทั้งนี้ สสปน. ตั้งเป้าในการผลักดันประเทศไทยให้เป็นผู้นำด้านงานเทรดโชว์ของอุตสาหกรรมไมซ์ให้ได้ภายในปี 2553

นายวิทยา สินทราพรรณทร ผู้อำนวยการฝ่ายจัดแสดงสินค้านานาชาติ และประธานคณะทำงาน ASEAN MICE 2007 สำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (สสปน.) กล่าวว่า วัตถุประสงค์ของการจัดงาน ASEAN MICE 2007 คือการสร้างความเข้าใจและกระตุ้นให้ภาคธุรกิจและประชาชนทั่วไปได้เล็งเห็นถึงความสำคัญของอุตสาหกรรมไมซ์ โดยงาน ASEAN MICE 2007 จะเป็นศูนย์รนวมความรู้ คำแนะนำ ทรัพยากร ผู้ประกอบการและให้บริการที่เกี่ยวข้องกับอุตสาหกรรมไมซ์ ซึ่งลักษณะของการจัดงานจะเป็นรูปแบบของนิทรรศการ เอ็ดดูเทนเม้นท์ รวมไปถึงการสัมมนาในหัวข้อที่เกี่ยวข้อง โดยจะจัดให้มีขึ้นระหว่างวันที่ 8 – 11 มีนาคม 2550 ณ อาคารชาเลนเจอร์ 2 อิมแพค เมืองทองธานี บนเนื้อที่ 10,000 ตารางเมตร ทางคณะกรรมการผู้จัดการตั้งเป้าจำนวนผู้เข้าร่วมแสดงงานประมาณ 250- 300 ราย และมีบุคคลเข้าร่วมชมงานประมาณ 50,000 คน ทั้งนี้คาดว่าภายหลังการจัดงานจะทำให้ภาคส่วนต่างๆ มีความเข้าใจเกี่ยวกับอุตสาหกรรมไมซ์มากขึ้น พร้อมกับเป็นการสร้างพันธมิตรและเครือข่ายทางธุรกิจ รวมทั้งมีทรัพยากรบุคคลที่ให้ความสนใจในการเข้าสู่อุตสาหกรรมไมซ์เพิ่มมากขึ้น เพื่อพัฒนาอุตสาหกรรมการจัดประชุมและนิทรรศการของไทยให้ก้าวขึ้นสู่ระดับแนวหน้าของโลก