สตาร์มาร์คทุ่ม 80 ล้าน เนรมิตโชว์รูมใหม่เซ็นทรัลเวิลด์ พร้อมเปิดตัว Hygienic Thai Kitche

สตาร์มาร์ค หลอมประสบการณ์กว่า 24 ปี เปิดตัวโชว์รูมใหม่ “เซ็นทรัลเวิลด์” มูลค่า 80 ล้านบาท หวังชิงแชร์กำลังซื้อรายย่อยอย่างมีกลยุทธ์ ด้วยการเปิดตัวชุดครัวไทยยุคไฮเทค “Hygienic Thai Kitchen” ที่สวยด้วยดีไซน์ ง่ายเรื่องติดตั้ง ทั้งยังทนทานโดยไม่ต้องก่ออิฐฉาบปูนดังปัจจุบัน แถมยังจำหน่ายในราคาสมเหตุสมผล หลังจากครองใจกลุ่มลูกค้าโครงการยักษ์ใหญ่ต่างๆ จนครองความเป็นผู้นำตลาดอยู่ในปัจจุบัน

นางสาวนันทนา ศรีสกุลภิญโญ กรรมการผู้จัดการ บริษัท สตาร์มาร์ค จำกัด ผู้สร้างสรรค์ชุดครัวคุณภาพของเมืองไทยมากว่า 24 ปี เปิดเผยว่า ภายหลังจากที่ สตาร์มาร์ค รุกทำตลาดรวมทั้งเน้นการสร้างแบรนด์อย่างจริงจังเมื่อต้นปีที่ผ่านมานั้น บริษัทฯ สามารถขยายตลาดสู่กลุ่มลูกค้าใหม่ได้อย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะในส่วนของลูกค้าโครงการระดับใหญ่ที่ปัจจุบันเราเป็นหนึ่งในผู้นำตลาดดังกล่าวอยู่ ก็มีอัตราที่เพิ่มขึ้นอย่างก้าวกระโดด เพราะ สตาร์มาร์ค มีระบบการทำงานที่สนองต่อความต้องการสูงสุด ด้วยความพร้อมของทีมวิจัยและพัฒนาผลิตภัณฑ์ รวมถึงทีมออกแบบที่ทำงานในลักษณะยืดหยุ่น สามารถออกแบบได้ตามความต้องการเพื่อประโยชน์ใช้สอยสูงสุด หรือแบบ Tailor Made และที่สำคัญเรามีโรงงานผลิตและคิดค้นระบบการผลิตที่ได้มาตรฐาน ซึ่งช่วยลดต้นทุนการผลิตอย่างมีประสิทธิผล ทำให้สตาร์มาร์คสามารถแข่งขันในเรื่องราคาและรูปแบบได้อย่างสบาย และด้วยความพร้อมดังกล่าว ทำให้บริษัทฯ มีนโยบายที่จะเน้นรุกตลาดรายย่อมเพิ่มมากขึ้น โดยล่าสุด สตาร์มาร์ค ได้เปิดตัวโชว์รูมซึ่งวางแผนจะจัดเป็นศูนย์กิจกรรมเพื่อกลุ่มลูกค้าในอนาคตขึ้นที่ “เซ็นทรัลเวิลด์” ซึ่งได้จัดแสดงเพื่อตอบโจทย์ความต้องการทุกระดับราคาเพื่อให้ลูกค้าได้เลือกอย่างจุใจ

“ในปีนี้ศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์ ได้มีการขยายพื้นที่อาคาร พร้อมปรับปรุงรูปแบบศูนย์การค้าให้เป็นแหล่งช้อปปิ้งและไลฟ์สไตล์คอมเพล็กซ์ที่ยิ่งใหญ่แห่งหนึ่งของกรุงเทพ สตาร์มาร์ค จึงเลือกโชว์รูมที่นี่ให้เป็น Flagship Store ของแบรนด์ พร้อมปรับดีไซน์และรูปแบบของร้านใหม่ เพื่อให้สมกับเป็น Flagship Store ที่มีสินค้าในกลุ่มชุดครัว Built in ครบที่สุดของแบรนด์ในขณะนี้ ตอบสนองทุกไลฟ์สไตล์ของลูกค้ากลุ่มคนรุ่นใหม่ ด้านการออกแบบและตกแต่งบริเวณโชว์รูม สื่อถึงการใช้พื้นที่ครัวในปัจจุบันที่เป็นมากกว่าพื้นที่ปิดทำเฉพาะกิจกรรมการปรุงอาหาร แต่สามารถใช้พื้นที่ครัวเป็นพื้นที่เปิดทำกิจกรรมต่อเนื่องกับส่วนอื่น ๆ ของบ้านได้ เช่น ทานข้าว ทานอาหารเช้าหรือใช้ทำงานเล็กๆ น้อยๆ ได้บ้าง รวมถึงบางโอกาสอาจใช้เป็นพื้นที่สังสรรค์ร่วมด้วย จึงเป็นที่มาของแนวความคิดการจัดโชว์รูมแบบ Living Kitchen เน้นที่ความกว้างขวาง โปร่งสบาย มีความเป็นธรรมชาติ การเลือกใช้สี

ตกแต่งแต่ละห้องสะท้อนเอกลักษณ์ของชุดครัวแต่ละชุด ซึ่งจะสัมพันธ์กับบุคลิกของผู้เลือกใช้ เพื่อสื่อถึงความเป็นเอกลักษณ์เฉพาะของแบรนด์ ได้แก่ The True Spirit of Cooking ซึ่งเป็นการใส่ใจในทุกรายละเอียดของผู้ใช้เพื่อให้ได้ชุดครัวที่เอื้อต่อการทำครัวอย่างแท้จริง” นางสาวนันทนา ศรีสกุลภิญโญ อธิบายถึงรายละเอียดการจัด Flagship Store ของสตาร์มาร์ค ณ เซ็นทรัลเวิลด์

ทั้งนี้ Flagship Store ของ สตาร์มาร์ค มีพื้นที่โชว์รูมประมาณ 440 ตารางเมตร เน้นตกแต่ง โดยใช้เฟอร์นิเจอร์ดีไซน์เรียบหรูในแบบอิตาเลียน ซึ่งจะไม่ให้ดูแออัด หรือคับแคบ คอนเซ็ปต์ของโชว์รูม คือ Boutique Kitchen Pavilion มีครัวครบทุกสไตล์ของการตกแต่งได้ นอกจากนี้ยังมีการจัดแบ่งพื้นที่ของร้านออกเป็น 2 โซน โดยโซนแรกเป็นโซนที่จัดโชว์ชุดครัวรุ่นล่าสุดของสตาร์มาร์คใน Series “Ultimate Kitchen” มีโชว์ที่นี่เพียงที่เดียว เป็น Exclusive model ของ Starmark เพื่อรองรับกลุ่มลูกค้าไฮเอนด์ ด้วยคุณสมบัติ High Performance Product กันน้ำ 100% อุปกรณ์และ Fitting ที่ประกอบกับเป็นชุดครัวที่นี่จะพิเศษกว่า Model ที่มีอยู่ในสาขาอื่นๆ นอกจากนี้ยังมีชุดครัวแพนทรี่ในสไตล์ English Country ซึ่งเป็นสไตล์ที่อบอุ่น เป็นธรรมชาติ องค์ประกอบที่เป็น Country จะไม่หนักจนเกินไป สตาร์มาร์คพัฒนางานสไตล์นี้มาตลอด จุดเด่นของชุดครัวจะอยู่ที่ดีไซน์ชุดตู้วางเตาและตู้ครอบเครื่องดูดควัน กับชุด Sink ซึ่งสตาร์มาร์คมีความถนัดในด้านนี้อยู่แล้ว โดยเฉพาะการพัฒนาดีไซน์ของ Sink เนื่องจากสตาร์มาร์คมีทีมดีไซน์เนอร์ออกแบบและพัฒนา Sink ให้เหมาะสมกับสไตล์ของชุดครัวได้ทุกรูปแบบ

“ชุดครัวที่สตาร์มาร์คจัดโชว์อีกรูปแบบ คือ ชุดครัวไทย สำหรับห้องครัวที่ปรุงอาหารหนัก โดยปกติแล้วบ้านทั่วไปจะมีครัว 2 ชุด คือ ครัวแพนทรี่สำหรับปรุงอาหารเบา ๆ เน้นดีไซน์เป็นพิเศษเพราะใช้เป็นครัวโชว์ และจะมีครัวอีกชุด คือ ครัวไทยที่ก่ออิฐฉาบปูนสำหรับปรุงอาหารหนักจริง ๆ แต่รูปแบบครัวไทยในตลาดมักจะไม่มีการพัฒนาดีไซน์มากนัก ดังนั้นสตาร์มาร์คจึงพัฒนาครัวไทยที่มีรูปแบบสวยงามเหมือนครัวแพนทรี่ แต่แข่งแกร่งทนทานสำหรับใช้งานหนักได้เหมือนครัวปูน โดยนำเทคโนโลยีระบบโครงสร้างใหม่จากเยอรมันมาใช้ เพื่อลดปัญหาเรื่องความอับชื้นของครัวปูนซึ่งเป็นบ่อเกิดของเชื้อราและกลิ่นอับชื้น ตะกันที่ภาชนะ สตาร์มาร์ค จึงคิดค้นและพัฒนาระบบโครงสร้างใหม่ที่แข็งแกร่งทนทาน ง่ายต่อการประกอบและติดตั้ง ช่วยให้ลูกค้าได้ใช้สินค้าที่ถูกสุขอนามัยมากขึ้น โดยใช้ชื่อว่า “Hygienic Thai Kitchen” ซึ่งถือเป็นสินค้าที่เราชูเพื่อเจาะตลาดรายย่อย เพราะง่ายต่อการรักษาความสะอาด ดีไซน์สวย ทั้งยังมีให้เลือกหลากหลายราคารับรองว่าไม่แพงอย่างที่คิด ด้วยราคาเริ่มต้นเพียง 70,000 บาท และนับเป็นครั้งแรกของวงการชุดครัวของไทยเพื่อปรับสู่มาตรฐานสากล” กรรมการผู้จัดการ บริษัท สตาร์มาร์ค จำกัด กล่าว

ในช่วงไตรมาสสุดท้ายของปี 2549 สตาร์มาร์ค จะสานต่อนโยบายเชิงรุกโดยมุ่งเน้นการบริหารงานเพื่อสร้างจุดแข็ง 5 ประการ โดยนางสาวนันทนา ศรีสกุลภิญโญ กล่าวในรายละเอียดว่า

ประการแรก เราเน้นกลยุทธ์ Customer inside need ทำงานกับลูกค้าเสมือนเป็น Partner ร่วมคิด ร่วมพัฒนาสินค้ากับคู่ค้า ทั้งลูกค้าโครงการ และกลุ่มลูกค้าโมเดิร์นเทรด

ประการที่สอง เน้นพัฒนาผลิตภัณฑ์ชุดครัวทั้งในด้านคุณภาพและดีไซน์ การเป็นผู้นำในธุรกิจนี้ ต้องพัฒนาเทคโนโลยีรวมถึงค้นหาวัสดุใหม่ๆ เพื่อให้ผู้บริโภคได้ประโยชน์สูงสุดในการซื้อสินค้าของสตาร์มาร์ค อย่างเช่นปีนี้บริษัทพัฒนาสินค้า 2 กลุ่ม คือ กลุ่ม 1 ชุดครัวไทยในคอนต์เซ็ป “Hygienic Thai Kitchen” นวัตกรรมใหม่ของชุดครัวที่เราพัฒนาวัสดุรวมถึงระบบโครงสร้างครัวไทยสำเร็จรูป ประกอบจากโรงงาน ติดตั้งได้ง่ายที่บ้านลูกค้า ไม่ต้องก่อฉาบปูนให้สกปรกเลอะเทอะ มีรูปแบบดีไซน์ที่ประณีตสวยงาม ทันสมัย และกลุ่ม 2 ชุดครัวกันน้ำ “Waterproof Kitchen” เราเลือกสรรวัสดุทดแทนไม้ แต่สามารถออกแบบชุดครัวที่ทันสมัยได้ ที่ผ่านมาเมื่อนึกถึงครัวกันน้ำมักจะนึกถึงครัวที่ทำจากสแตนเลสหรืออลูมิเนียม ซึ่งวัสดุทั้ง 2 ชนิด ถูกจำกัดในเรื่องของดีไซน์ สตาร์มาร์คจึงออกผลิตภัณฑ์ Series ใหม่ที่สวยงามทันสมัยและมีคุณสมบัติกันน้ำได้ 100%

ประการที่สาม นอกจากจะเน้นพัฒนาทางด้านเทคโนโลยีแล้ว เรื่องของงานดีไซน์ บริษัทเน้นทีมงาน R&D โดยทุกปีทางบริษัทมีนโยบายส่ง Designer ไปดูงานที่ Fair ระดับ World Class เช่น Milan Fair เพื่อศึกษา Trend ของงาน Design และ Materials เพื่อนำมาพัฒนาผลิตภัณฑ์ของบริษัท คลอบคลุมทุกสไตล์ เช่น Modern, Modern Contemporary, Country และ Classic ซึ่งแต่ละสไตล์จะมีรายละเอียดของดีไซน์เฉพาะตัวที่แตกต่างกัน เช่น งาน Country ทาง Designer จะต้องดูรายละเอียดการออกแบบชุดครัวไปถึงรายละเอียดองค์ประกอบภายในชุด เพื่อให้ภาพลักษณ์ชุดออกมาเป็นงานสไตล์ Country เช่น ดีไซน์อ่างล้างจาน , ดีไซน์ของ Hanger เป็นต้น

ประการที่สี่ เน้นการพัฒนาภาพลักษณ์ของสินค้าเพื่อตอบสนองกลุ่มคนรุ่นใหม่ ที่ต้องการงานมีดีไซน์และต้องการความเป็นมืออาชีพในการออกแบบฟังก์ชั่นการใช้งานของชุดครัว

ประการสุดท้าย เน้นการขยายสาขาเพื่อให้คลอบคลุมพื้นที่ทั้งกรุงเทพและต่างจังหวัด จากเดิมบริษัทมีโชว์รูมในกรุงเทพ 5 สาขา ในระยะเวลา 5 ปีที่ผ่านมาบริษัทขยายสาขาไปพร้อมกับกลุ่มโมเดิร์นเทรด โฮมโปรและโฮมเวิร์ค ในปัจจุบันบริษัทมีสาขาที่จัดโชว์ชุดครัวพร้อมดีไซน์เนอร์ประจำพื้นที่เพื่อให้บริการออกแบบชุดครัวถึง 40 สาขา ทั่วประเทศ”

สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่
วิภาวริศ เกตุปมา หรือ จาจิญา เพ็งพันธ์
บริษัท โฟว์ดี คอมมิวนิเคชั่น จำกัด 02-951-9119, 04-155-1987 และ 01-890-3568