ดีเอชแอลตอกย้ำความมุ่งมั่นในการสร้างความเติบโตในเวียดนาม ทุ่มเงิน14 ล้านเหรียญสหรัฐฯ

ดีเอชแอล ผู้นำธุรกิจขนส่งด่วนและลอจิสติกส์ระดับโลก ประกาศการลงทุนในด้านการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานและขยายการให้บริการธุรกิจขนส่งด่วนในประเทศเวียดนาม มูลค่า 14 ล้านเหรียญสหรัฐฯ พร้อมแสดงความมุ่งมั่นที่จะเพิ่มการดำเนินธุรกิจของดีเอชแอล ลอจิสติกส์ ในประเทศเวียดนาม

ดีเอชแอล เอ๊กซ์เพรส ภายใต้การร่วมทุนล่าสุดของดีเอชแอล-วีเอ็นพีที วางแผนลงทุนมูลค่า 14 ล้านเหรียญสหรัฐฯ เพื่อดำเนินธุรกิจในประเทศเวียดนาม โดยเงินลงทุนดังกล่าวจะใช้ในการสร้างศูนย์บริการแห่งใหม่ในกรุงฮานอย โฮจิมินห์ และดานัง ที่ครอบคลุมถึงการปรับปรุงระบบพาหนะขนส่ง การขยายการให้บริการโดยตรงไปยังเขตอุตสาหกรรมหลัก และในด้านการจัดซื้อพาหนะใหม่ๆ

การขยายการดำเนินธุรกิจในประเทศเวียดนามในครั้งนี้ทำให้ยอดการลงทุนรวมในเอเชียแปซิฟิกของ ดีเอชแอลมีมูลค่ารวมอยู่ที่ 1.7 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ นอกจากนี้การประกาศลงทุนด้านโครงสร้างพื้นฐานทางลอจิสติกส์ในประเทศจีน การขยายศูนย์บริการอินชอนในประเทศเกาหลีใต้ และล่าสุดคือการเปิดตัวศูนย์กระจายสินค้าแห่งใหม่ของดีเอชแอลในกรุงเทพฯ นับเป็นส่วนหนึ่งของการประกาศล่าสุดของดีเอชแอลที่ตอกย้ำความมุ่งมั่นของบริษัทในการดำเนินธุรกิจในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก

มร. สก๊อตต์ ไพรซ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ดีเอชแอล เอ๊กซ์เพรส ภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก กล่าวว่า พันธกิจของดีเอชแอลที่มีต่อการดำเนินธุรกิจในประเทศเวียดนาม และภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกเกิดขึ้นจากความต้องการของลูกค้า สืบเนื่องจากปริมาณการหมุนเวียนอย่างต่อเนื่องของการค้าภายในภูมิภาคเอเชีย ดีเอชแอลเชื่อมั่นว่าระบบเครือข่ายโครงสร้างที่แข็งแกร่งของบริษัทฯ จะสามารถรองรับความต้องการใหม่ๆ ของลูกค้าได้ และยังทำให้ดีเอชแอลได้เป็นส่วนหนึ่งในการส่งเสริมการค้าของธุรกิจที่เติบโตอย่างรวดเร็วในประเทศเวียดนามที่เชื่อมต่อกับส่วนอื่นๆ ของโลก

พร้อมกันนี้ ทางด้านธุรกิจดีเอชแอล ลอจิสติกส์ ก็ได้ประกาศเพิ่มและกระชับความสัมพันธ์ทางธุรกิจกับประเทศเวียดนามด้วยการเดินหน้าดำเนินโครงการต่างๆ ในด้านการอบรมพนักงาน การพัฒนาเทคโนโลยี และการปรับปรุงพิธีการศุลกากร และบริการขนส่งร่วมกับบริษัทแมกส์ ชิบปิ้ง พันธมิตรอย่างเป็นทางการในเวียดนาม นอกจากนี้ดีเอชแอล ลอจิสติกส์ ยังวางแผนที่จะส่งเสริมให้ประเทศเวียดนามเป็นศูนย์กลางในการขนส่งทางเรือจากภูมิภาคอื่นๆ ไปยังประเทศลาว รวมทั้งการขนส่งข้ามพรมแดนระหว่างเวียดนามและประเทศอื่นๆ เช่น กัมพูชาและจีนตอนใต้ เพื่อรองรับการขนส่งในส่วนของสินค้าบริโภค

มร. ปีเตอร์ แลนด์ซีเดล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ดีเอชแอล โกลบอล ฟอร์เวิร์ดดิ้ง ประจำภูมิภาคเอเชีย แปซิฟิก กล่าวเสริมว่า มูลค่าการนำเข้าและส่งออกโดยรวมของประเทศเวียดนามขยายตัวอย่างต่อเนื่อง โดยในช่วง 9 เดือนแรกของปีนี้มีอัตราการเติบโตเมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมาอยู่ที่ร้อยละ 19 และ 24 ตามลำดับ บริษัทฯ จึงมั่นใจว่าแนวโน้มที่สดใสนี้จะยังคงอยู่ต่อไปจนถึงช่วงหลังจากที่เวียดนามเข้าเป็นสมาชิกองค์กรการค้าโลกแล้ว ดีเอชแอลจะมุ่งมั่นพัฒนาการดำเนินธุรกิจในจังหวัดเล่าไค ดานัง วุ้งต้อ ม๊อกไบ๋ และคั้นทอ เพื่อการขนส่งข้ามพรมแดนไปยังตอนใต้ของประเทศจีน และกัมพูชา จากการที่มีปริมาณการนำเข้าและการส่งออกสินค้าอุปโภคที่สูงระหว่างประเทศดังกล่าวและเวียดนาม ดีเอชแอลจะมุ่งเป้าหมายไปยังตลาดที่มีศักยภาพเช่น ตลาดน้ำมันและพลังงาน เนื่องจากปริมาณน้ำมันดิบสำรองที่อยู่ตามแนวชายฝั่งของเวียดนามจะทำให้เรามีโอกาสในการดำเนินธุรกิจ

ความมุ่งมั่นในการดำเนินธุรกิจของดีเอชแอล ประกอบกับการเข้าเป็นสมาชิกองค์การการค้าโลกของเวียดนาม จะช่วยขับเคลื่อนการเติบโตที่แข็งแกร่งให้กับทั้งธุรกิจการขนส่งด่วนและลอจิสติกส์ในประเทศเวียดนาม ดีเอชแอล เอ๊กซ์เพรสครองความเป็นผู้นำตลาดโดยมีส่วนแบ่งทางการตลาดกว่าร้อยละ 40 และส่งสินค้าทางเรือกว่าปีละเกือบหนึ่งล้านเที่ยว ในขณะที่ดีเอชแอล ลอจิสติกส์ เป็น 1 ใน 5 ฟอร์เวิร์ดเดอร์ของเวียดนาม ที่มีปริมาณการขนส่งทางอากาศกว่า 7,350 ตันและมีปริมาณการขนส่งทางเรือเป็นจำนวน 11,700 คอนเทนเนอร์ในประเทศเวียดนาม

ธุรกิจดีเอชแอล เอ๊กซ์เพรส และดีเอชแอล ลอจิสติกส์ จะประสานงานร่วมกันกับรัฐบาลและหน่วยงานที่รับผิดชอบในด้านนโยบายอย่างต่อเนื่อง เพื่อผลักดันการเติบโตและส่งเสริมการค้าของประเทศเวียดนาม

มร. ไพรซ์ กล่าวว่า “เราได้ร่วมมือกับรัฐบาลเวียดนามอย่างจริงจังในการปฏิรูประบบศุลกากร โดยได้มีการหารือกับหลายฝ่ายในภาคธุรกิจ ไม่ว่าจะเป็นธุรกิจสิ่งทอ รองเท้า เครื่องเรือน รวมทั้งธุรกิจการเงินและการส่งออกสินค้าเทคโนโลยีที่กำลังเติบโตขึ้น”

“การยกเลิกโควตาการนำเข้าและส่งออกที่เป็นผลมาจากการเป็นสมาชิกองค์การการค้าโลกของเวียดนาม ประกอบกับความต้องการบริการลอจิสติกส์สมัยใหม่ที่เพิ่มขึ้น ได้ทำให้ดีเอชแอลอยู่ในตำแหน่งที่เหมาะสมที่จะผลักดันและส่งเสริมการค้า ในช่วงที่เวียดนามก้าวเข้าสู่การเติบโตทางเศรษฐกิจอีกขั้นหนึ่งหลังจากที่ได้เป็นสมาชิกองค์การการค้าโลก” มร. แลนด์ซีเดล ระบุ

“อุตสาหกรรมขนส่งด่วนและลอจิสติกส์นับเป็นปัจจัยผลักดันการเติบโตทางเศรษฐกิจที่มีความสำคัญ อีกทั้งการบูรณาการอย่างรวดเร็วเข้ากับเศรษฐกิจโลกจะทำให้ความต้องการของใช้บริการดังกล่าวของเวียดนามมีมากยิ่งขึ้นทั้งในด้านขนาดและความซับซ้อน” มร. แลนด์ซีเดล กล่าวเสริม

“การลงทุนในเวียดนามมูลค่า 14 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ของเราซึ่งจะครอบคลุมในด้านกลุ่มพาหนะใหม่ การขยายการให้บริการ และการปฏิบัติการในส่วนของเครื่องบินเช่าเหมาลำจะทำให้เราสามารถให้บริการขนส่งด่วนแก่ลูกค้าของเราทั้งในประเทศเวียดนาม และในอีก 220 ประเทศ และอาณาเขตต่างๆ ทั่วโลกได้อย่างต่อเนื่อง” มร. ไพรซ์กล่าวทิ้งท้าย

ดีเอชแอล เวียดนามมีระบบโครงสร้างเหนือชั้นที่ประกอบด้วยศูนย์บริการกว่า 30 แห่งทั่วเวียดนาม ที่ให้บริการลูกค้าด้วยการเข้าถึงที่เหนือกว่า และฉับไว

ข้อมูลเพิ่มเติมดีเอชแอล
ดีเอชแอล ได้รับการยกย่องให้เป็นผู้นำในอุตสาหกรรมการขนส่งด่วนและลอจิสติกส์ระดับโลก ที่มีประสบการณ์และความเชี่ยวชาญพิเศษในการมอบนวัตกรรมและโซลูชั่นซึ่งได้รับการออกแบบโดยเฉพาะเพื่อสนองตอบความต้องการที่หลากหลายของลูกค้าจากผู้ให้บริการเพียงรายเดียว ดีเอชแอลเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านการบริการขนส่งด่วน การขนส่งทางอากาศ ทางเรือ และทางบก ตลอดจนโซลูชั่นด้านลอจิสติสก์ต่างๆ และบริการไปรษณีย์ระหว่างประเทศ ที่สามารถเข้าถึงผู้ใช้บริการทั่วทุกมุมโลก และมีความเข้าใจถึงความต้องการของตลาดในแต่ละประเทศได้อย่างลึกซึ้ง ปัจจุบัน ดีเอชแอลมีเครือข่ายเชื่อมโยงครอบคลุมมากกว่า 220 ประเทศ และอาณาเขตต่างๆ ทั่วโลก โดยมีบุคลากรกว่า 285,000 คนทั่วโลก ที่พร้อมมอบบริการขนส่งด่วนและลอจิสติกส์ครบวงจรที่รวดเร็ว วางใจได้ และเกินความคาดหวังของลูกค้า ดีเอชแอล เป็นหนึ่งในตราสินค้าของดอยช์ โพสท์ เวิลด์ เน็ต ซึ่งสามารถทำรายได้ 45 พันล้านเหรียญยูโร ในปี 2005

ดีเอชแอล ประเทศไทย ให้บริการขนส่งและลอจิสติกส์อย่างครบวงจรด้วยศักยภาพของ 3 หน่วยงาน ได้แก่ ดีเอชแอล เอ๊กซ์เพรส ดีเอชแอล โกลบอล ฟอร์เวิร์ดดิ้ง และดีเอชแอล เอ็กเซล ซัพพลายเชน ที่ช่วยให้ลูกค้าได้รับความสะดวกอย่างเต็มที่จากการติดต่อผู้ให้บริการเพียงรายเดียว (one-stop-shop) ซึ่งรองรับการขนส่งทุกรูปแบบ ตั้งแต่เอกสารไปจนถึงตู้คอนเทนเนอร์ โดยมีพนักงาน 1,700 คนให้บริการอย่างมืออาชีพ ผ่านเครือข่ายและจุดบริการมากกว่า 20 แห่ง ที่ให้บริการครอบคลุม 76 จังหวัดทั่วประเทศไทย สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมกรุณาเยี่ยมชมที่เว็บไซต์ http://www.dhl.co.th