บริษัท ทีโอที จำกัด (มหาชน)(ทีโอที) และ บริษัท กสท โทรคมนาคม จำกัด (มหาชน) (กสท) ยืนยันลูกค้าเดิมของดีแทคและทรู มูฟ ที่ใช้บริการก่อน 15 มกราคม 2550 ยังใช้บริการได้เหมือนเดิมตามปกติไม่เดือดร้อน พร้อมเรียกร้องให้ 2 ผู้ให้บริการแจ้งลูกค้าล่วงหน้า เป็นห่วงลูกค้าใหม่ใช้บริการได้ไม่เต็มประสิทธิภาพ พร้อมแนะลูกค้ารายใหม่ควรตรวจสอบกับผู้ให้บริการก่อนใช้งาน
ตามที่ก่อนหน้านี้ทางบริษัท โทเทิ่ล แอ็คเซ็ส คอมมูนิเคชั่น จำกัด (มหาชน) หรือดีแทค และบริษัท ทรู มูฟ จำกัด หรือ ทรู มูฟ ได้แจ้งการงดชำระค่าเชื่อมโยง (แอ็คเซ็สชาร์จ) ให้กับ ทีโอที เดือนละ 1,080 ล้านบาท ตั้งแต่เดือนพฤศจิกายนเป็นต้นมา รวมเป็นเวลา 3 เดือนเป็นเงินกว่า 3,540 ล้านบาท ซึ่งจะครบงวดชำระเงินในวันที่ 18 และ 19 มกราคมนี้ แต่ทั้งนี้เพื่อไม่ให้ลูกค้าได้รับความเดือดร้อน ทาง ทีโอที ยังคงเปิดให้บริการเชื่อมโยงสัญญาณตามปกติต่อไป
นายสมควร บรูมินเหนทร์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ทีโอที จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า “ ทีโอทีจะงดให้บริการเชื่อมโยงสัญญาณโทรศัพท์เคลื่อนที่เลขหมายใหม่รวมทั้งสิ้นประมาณ 3 ล้านเลขหมายของทั้งสองบริษัทฯ ที่จดทะเบียนหรือเปิดบริการตั้งแต่วันที่ 15 มกราคม 2550 เป็นต้นไป โดยเลขหมายใหม่ดังกล่าวจะไม่สามารถติดต่อกับเลขหมายของทีโอทีได้ จนกว่าผู้ให้บริการทั้งสองรายจะชำระหนี้ค่าเชื่อมโยง (แอ็คเซ็สชาร์จ) อย่างไรก็ดี ทีโอที จะยังคงให้บริการตามปกติกับลูกค้าเดิมของดีแทคและ ทรู มูฟทั้ง 25.77 ล้านเลขหมายที่ได้รับจัดสรรไปก่อนหน้านี้แล้วและในจำนวนนี้ยังมีเลขหมายที่ยังไม่ได้เปิดใช้บริการเหลืออยู่อีกจำนวนหนึ่ง ”
นายสมควรกล่าวว่า “ การดำเนินการดังกล่าวอยู่บนพื้นฐานการรักษาผลประโยชน์ของรัฐ เนื่องจากทีโอทีมีรายได้จากค่าเชื่อมโยงโครงข่ายมูลค่าประมาณปีละ 1.3 หมื่นล้านบาท เงินจำนวนนี้ส่วนหนึ่งได้นำส่งเป็นรายได้เข้ารัฐ และส่วนหนึ่งนำไปใช้เพื่อพัฒนาโครงข่ายโทรคม-นาคมหลักของประเทศมาโดยตลอดทั้งในปัจจุบันและอนาคต นอกจากนี้ทีโอทียังต้องปฏิบัติตามข้อผูกพันตามสัญญา และกฎหมายที่เกี่ยวข้อง (พระราชบัญญัติการประกอบกิจการโทรคมนาคม พ.ศ. 2544) ซึ่งให้สิทธิในการเชื่อมโยงโครงข่ายเฉพาะผู้ที่ได้รับใบอนุญาต
…/2
– 2 –
ประกอบกิจการโทรคมนาคมจาก กทช.และมีโครงข่ายเป็นของตนเอง ซึ่งปัจจุบันมีเพียง ทีโอที และ กสท. เท่านั้น หากทีโอทีไม่เรียกเก็บค่าเชื่อมโยงโครงข่ายก็จะมีความผิดฐานละเลยการปฏิบัติหน้าที่และทำให้รัฐเสียประโยชน์”
ทางทีโอทีและกสท. ต้องการเจรจากับบริษัทผู้ให้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ทั้งสองราย เพื่อหาทางออก แต่หากยังไม่บรรลุผล ก็จำเป็นต้องอาศัยกระบวนการยุติธรรมเข้ามาช่วย อย่างไรก็ดี ไม่ว่าผลการเจรจาจะเป็นอย่างไร ทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องจะพยายามดำเนินการเพื่อให้เกิดผลกระทบต่อผู้บริโภคน้อยที่สุด
นายพิศาล จอโภชาอุดม กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท กสท. โทรคมนาคม จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า “กสท ต้องการให้ทางผู้ให้บริการทั้งสองรายคือดีแทคและ ทรู มูฟ เร่งเจรจาเพื่อหาข้อยุติ เพื่อมิให้เกิดผลกระทบต่อทั้งภาครัฐ และต่อลูกค้า และหากไม่สามารถหาข้อยุติในกรณีนี้ได้ ทาง ทีโอที และ กสท. ก็จะดำเนินการตามกฎหมายต่อไป นอกจากนี้ทางดีแทคและทรู มูฟควรจะต้องแจ้งให้ลูกค้ารายใหม่ที่จดทะเบียนหรือเปิดบริการโทรศัพท์เคลื่อนที่กับบริษัทฯ ตั้งแต่วันที่ 15 มกราคมเป็นต้นไปทราบถึงข้อจำกัดของการใช้บริการดังกล่าว”
สำหรับลูกค้าที่ใช้หมายเลขใหม่ของดีแทคและทรู มูฟ หากพบว่าไม่ได้รับความเป็นธรรมในการใช้บริการสามารถร้องเรียนกับ สำนักการคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค (สคบ.) ได้ที่หมายเลข
รายละเอียดเพิ่มเติมติดต่อ : นางวรรณพร ลีฬหาชีวะ, นางสุวรรณดี เจียรานุชาติ
บริษัท ทีโอที จำกัด (มหาชน)
โทร. 0 2574 9337 , 0 2505 1212
: นางสุภัทรา ฦาชา
บริษัท กสท โทรคมนาคม จำกัด (มหาชน)
โทร. 08 1867 8670
