mai รับบมจ. มัลติแบกซ์ เข้าซื้อขาย 29 ม.ค. เป็นหลักทรัพย์แรกของปี 2550

บมจ. มัลติแบกซ์ (MBAX) พร้อมเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ ( mai) วันที่ 29 มกราคม 2550 หลังระดมทุน 175 ล้านบาท จากการขายหุ้นแก่ประชาชนทั่วไปเมื่อ 18-19 ม.ค. ที่ผ่านมา เผยเตรียมนำเงินที่ระดมได้ไปขยายกำลังการผลิต ทั้งการซื้อเครื่องจักรใหม่ และก่อสร้างอาคารคลังสินค้า

นายชนิตร ชาญชัยณรงค์ ผู้จัดการตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ (mai) เปิดเผยว่า ตลาดหลักทรัพย์ฯ อนุมัติรับบริษัท มัลติแบกซ์ จำกัด (มหาชน) เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ (mai) โดยกำหนดให้เริ่มซื้อขายได้ตั้งแต่วันที่ 29 มกราคม 2550 ใช้ชื่อย่อในการซื้อขายหลักทรัพย์ว่า “ MBAX ”

MBAX มีทุนจดทะเบียนชำระแล้ว 128 ล้านบาท ประกอบด้วยหุ้นสามัญเดิม 93 ล้านหุ้น หุ้นสามัญเพิ่มทุน 35 ล้านหุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 1 บาท โดยบริษัทได้เสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนต่อประชาชนทั่วไปครั้งแรก (IPO ) ระหว่างวันที่ 18 – 19 มกราคม 2550 จำนวน 35 ล้านหุ้น ราคาหุ้นละ 5 บาท คิดเป็นมูลค่าการระดมทุน 175 ล้านบาท โดยมีบริษัทหลักทรัพย์ กสิกรไทย จำกัด (มหาชน) เป็นที่ปรึกษาทางการเงิน

ณ ราคาหุ้นไอพีโอ MBAX มีอัตราส่วนราคาต่อกำไรต่อหุ้น (P/E Ratio) อยู่ที่ระดับ 12.24 เท่า (คำนวณโดยใช้กำไรสุทธิต่อหุ้น 12 เดือน คือ ต.ค. 2548 – ก.ย. 2549 ถัวเฉลี่ยด้วยจำนวนหุ้น 128 ล้านหุ้น) ในขณะที่ P/E Ratio ของ mai ณ วันที่ 11 ม.ค. 2550 (ที่ปรากฏในหนังสือชี้ชวนของ MBAX) อยู่ที่ระดับ 8.72 เท่า ทั้งนี้ MBAX มีนโยบายการจ่ายเงินปันผลไม่ต่ำกว่าร้อยละ 40 ของกำไรสุทธิหลังจากหักภาษี และสำรองตามกฎหมายแล้ว

การระดมทุนผ่านไอพีโอครั้งนี้ MBAX จะนำเงินไปใช้ชำระค่าเครื่องจักรใหม่ และการก่อสร้างอาคารคลังสินค้า รวมทั้ง ซื้อเครื่องจักรเพื่อขยายกำลังผลิตของโรงงานที่ 3 ทั้งนี้ ภายหลังการจำหน่ายหุ้นแก่ประชาชนทั่วไปแล้ว ผู้ถือหุ้นรายใหญ่ MBAX ได้แก่ นายวรพจน์ ศรีมหาโชตะ ถือหุ้นในอัตราร้อยละ 17.20 รองลงมา นายอนุวัฒน์ สุดมหาตยางกูร และนายสุรชัย อัศวแก้วมงคล ถือหุ้นเท่ากันในอัตราร้อยละ 10.55

MBAX ประกอบธุรกิจผลิตถุงพลาสติกตามคำสั่งซื้อของลูกค้า ได้แก่ ถุงถนอมอาหาร ถุงซิปชนิดปิด – เปิดในตัว ถุงใส่ผักผลไม้ และถุงใส่ขยะบางประเภท โดยส่งออกไปจำหน่ายยังตลาดต่างประเทศ ได้แก่ ประเทศในทวีปอเมริกาเหนือ กลุ่มสหภาพยุโรป และทวีปออสเตรเลีย ทั้งนี้ บริษัทได้รับบัตรส่งเสริมการลงทุนจากคณะกรรมการ
ส่งเสริมการลงทุน (BOI) 2 ฉบับ

ทั้งนี้ สิทธิประโยชน์ที่บริษัทได้รับจาก BOI ได้แก่ การได้รับการลดหย่อนภาษีครึ่งหนึ่งจากกำไรสุทธิเป็นเวลา 5 ปี (นับจากปี 2549) และ การได้รับยกเว้นภาษีเงินได้นิติบุคคลสำหรับกำไรสุทธิจากกำลังผลิตปีละ 30,000 ตันเป็นเวลา 8 ปี นับจาก 5 เม.ย. 2547 นอกจากนี้ ผู้ถือหุ้นยังได้รับการยกเว้นไม่ต้องนำเงินปันผลจากกิจการที่ได้รับการส่งเสริมการลงทุนไปรวมในการคำนวณภาษีเงินได้ตลอดระยะเวลาที่ได้รับการส่งเสริมการลงทุนอีกด้วย

ผู้สนใจขอข้อมูลเพิ่มเติมของ MBAX ติดต่อได้จากเว็บไซต์ของบริษัทได้ที่ www.multibax.com หรือ เว็บไซต์ตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ (mai)ที่ www.mai.or.th และเว็บไซต์ของเซ็ทเทรด.ดอทคอมที่ ดอท คอม ที่ www.settrade.com