‘ จีเอเบิล ’ ปี 50 ไม่หยุดนิ่ง ก้าวฉับพัฒนารอบด้าน ทั้งศักยภาพบุคลากร – คุณภาพการบริการ – กลยุทธ์การทำตลาดที่แตกต่าาง – ค้นคว้าโซลูชั่นใหม่ๆ เพื่อเสริมรากฐานให้แข็งแกร่งยิ่งขึ้นท่ามกลางความผันผวนของสภาวะการเมืองและเศรษฐกิจ ส่งสัญญาณเตือนผู้บริโภคอย่าวางใจของถูกเพราะส่อแววดั๊มพ์ราคาเกินความเป็นจริง เผยธุรกิจ Outsource : Go to Market ที่เพิ่งเปิดตัวไปได้รับความสนใจในวงกว้าง พร้อมนำมาตรฐานการบริการ ITIL ช่วยผลักดันตลาด ขณะที่บริษัทในเครือ เฟิร์ส ลอจิก, ทีซีเอส และซีดีจีเอ็มต่างเข้าเป้ากันถ้วนหน้าประกาศพรอ้มขับเคลื่อนจีเอเบิลให้ไปถึงยอด 6,000 ล้านบาท
นายไตรรัตน์ ใจสำราญ กรรมการบริหารกลุ่มบริษัท จีเอเบิล เปิดเผยถึงทิศทางการดำเนินธุรกิจในปี 2550 ว่า จากสภาพเศรษฐกิจที่ถูกบีบรัดด้วยปัจจัยภายในประเทศและรอบโลก รวมถึงสภาพการเมืองที่ยังไม่ลงตัวมีการเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา ส่งผลให้บริษัทไอทีขนาดเล็กไม่สามารถประคองบริษัทให้อยู่รอดต้องล้มหายไปภายในปีนี้ ดังนั้นกลุ่มลูกค้าต้องเลือกบริษัทไอทีที่มั่นคงแข็งแกร่ง มีสถานะการเงินที่ดี มีทีมงานคุณภาพ มีประสบการณ์ความเชี่ยวชาญมายาวนาน ไม่ควรพิจารณาเฉพาะด้านราคาถูกเพียงอย่างเดียว เนื่องจาก ขณะนี้มีหลายโครงการที่นำเสนอด้วยราคาที่ต่ำอย่างไม่น่าจะเป็น ซึ่งเป็นจุดที่น่ากลัว และต้องพิจารณาให้รอบคอบ
ทั้งนี้ กลุ่มบริษัท จีเอเบิล สามารถยืนหยัดมาได้อย่างแข็งแกร่ง ด้วยปัจจัยต่างๆ ดังนี้
1. บุคลากรมีคุณภาพ
2. มีฐานลูกค้าที่มั่นคง
3. คุณภาพของการบริการ
4. Partner ที่ดีในระดับ World Class ที่เชื่อมั่นในจีเอเบิล
5. มีความพยายามในการผลักดันให้เกิดองค์ความรู้ (Learning Organization) ซึ่งในที่สุดผลก็จะเกิดแก่บุคลากร ได้รับการพัฒนาประสิทธิภาพ ส่งผลต่อการบริการที่จะทำให้ลูกค้าประทับใจ
6. Corporate Social Responsibility เป็นการตอบแทนสิ่งดีๆให้กับสังคม ซึ่งจีเอเบิลจัดทำมาโดยตลอด เช่น สนับสนุนโครงการฝึกอบรมเชิงปฏิบัติการทางคอมพิวเตอร์ให้กับนักเรียนมัธยมศึกษาทั่วประเทศ, การบริจาคเครื่องคอมพิวเตอร์มือสองแด่น้องผู้ห่างไกล, การทอดกฐินให้กับวัดพร้อมมอบอุปกรณ์การเรียนและทุนการศึกษาแก่เด็กนักเรียนที่ยากจน, โครงการจีเอเบิลเติมฝันให้น้องกับเด็กนักเรียนชั้นประถมศึกษาในถิ่นทุรกันดาร, การจัดโครงการ TCS Network Security Contest ในกลุ่มนักศึกษาปริญญาตรี เป็นต้น
สำหรับปีนี้ กลุ่มบริษัท มีการเน้นย้ำในคุณภาพงานบริการให้ดียิ่งขึ้น ด้วยการนำมาตรฐานสากล Information Technology Infrastructure Library หรือ ITIL มาปรับใช้ในองค์กร ซึ่งปกติแล้วมาตรฐาน ITIL ถือเป็น “Best Practices” ในการบริหารจัดการงานบริการด้านระบบสารสนเทศที่มีประสิทธิภาพ และประสิทธิผลชัดเจน เช่น มาตรฐานด้านงานบริการ Service Support และ การส่งมอบงานบริการ Service Delivery ตลอดจนการกำหนดระดับการให้บริการ SLA ( Service Level Agreement ) เป็นต้น
“เพื่อรองรับการให้บริการงาน Services และ Outsource ที่มีการเติบโตต่อเนื่องในทุกปี การนำมาตรฐานสากลมาใช้ควบคุมคุณภาพงานบริการจึงถือเป็นเรื่องสำคัญ ที่เราต้องศึกษาและนำมาปรับใช้ให้เกิดประโยชน์สูงสุด นั่นหมายถึงว่า ผู้ที่เลือกใช้บริการของเราจะมีความมั่นใจและพึงพอใจที่ได้รับงานบริการระดับคุณภาพมาตรฐานสากล ขณะที่เราเองก็ได้ความภูมิใจที่สร้างความสำเร็จและสามารถส่งมอบงานตามมาตรฐานระดับสากลได้เช่นกัน ” นายไตรรัตน์กล่าว
นายเชวง ธนาพันธรักษ์ กรรมการผู้จัดการ กลุ่มบริษัท จีเอเบิล กล่าวว่า ปัจจุบันสถาบันต่าง ๆ ไม่สามารถผลิตบุคลากรด้านไอทีออกมารองรับความต้องการของตลาดได้เพียงพอ ทำให้เกิดปัญหาด้านอื่น ๆ ตามมา เช่น พัฒนาคุณภาพของคนไม่ทัน การซื้อตัวบุคลากร การเลื่อนตำแหน่งเร็วเกินไปกว่าคุณสมบัติของบุคคลนั้นมีอยู่จริง ความต่อเนื่องในการพัฒนาบุคลากร ขณะที่กลุ่มบริษัท จีเอเบิล เป็นบริษัทที่มีการลงทุนสูงด้านทรัพยากรบุคคลเพราะทราบดีว่าในธุรกิจไอทีนั้น เรื่องของทรัพยากรบุคคลที่มีคุณภาพ ถือเป็นสิ่งสำคัญ
ดังนั้น กลุ่มบริษัท จีเอเบิล นอกจากจะส่งเสริมให้มีการพัฒนาศักยภาพด้านบุคลากรแล้ว ยังมุ่งเน้นการปรับปรุงและพัฒนาการบริการ เพื่อตอบสนองความต้องการท่ามกลางสภาวะที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว การทำตลาดด้วยกลยุทธ์ที่แตกต่าง และการเข้าถึงลูกค้าในเชิงลึก การคิดค้น นำเข้า และผสมผสานเทคโนโลยีที่ทันสมัย พร้อมกับ โซลูชั่นใหม่ๆ เพื่อเป็นการเสริมฐานเดิมที่ดีอยู่แล้วให้แข็งแกร่งยิ่งขึ้น พร้อมที่จะรุกและรับตลอดเวลาสำหรับการขับเคลื่อนองค์กรให้ไปถึงยอดรายได้ที่ตั้งไว้ในปี 2550 ประมาณ 6,000 ล้านบาท โดยมีกลุ่มเป้าหมายหลักในตลาด ได้แก่ สถาบันการเงิน (Banking) โทรคมนาคม (Telecommunication) และอุตสาหกรรม (Manufacturing)
ด้านธุรกิจ Outsource ซึ่งจีเอเบิลได้เริ่มรุกหนักในปีที่ผ่านมา ก็ยังมีแนวโน้มการขยายตัวที่ดี อีกทั้งกลยุทธ์รูปแบบใหม่ Go to Market ที่เริ่มเปิดตัวเมื่อปลายปีที่ผ่านมา ทำให้จีเอเบิลได้รับความสนใจอย่างกว้างขวาง โดยธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธกส.) ได้ไว้วางใจเลือกรูปแบบร่วมทุนกับจีเอเบิล ในโครงการติดตั้งระบบ ATM ภายใต้ชื่อ ธกส.
“ธกส. เลือกโมเดลนี้ เพราะสามารถทำระบบ ATM ให้เกิดขึ้นได้เร็วและไม่ต้องมากังวลในเรื่องทักษะของบุคลากร การบริหารจัดการติดตั้งตู้ การหา Location ซึ่งเป็นสิ่งที่แบงก์ไม่ถนัดและต้องใช้เวลานาน ด้านจีเอเบิลมี Khow how ที่มีความ
ถนัดในการติดตั้ง ATM อยู่แล้ว เพียงแต่เพิ่มศักยภาพของ Application และการจัดการโครงสร้างของธุรกิจ รวมถึงการหา Location เพิ่มเข้าไป โดยรูปแบบนี้ทำให้เกิดความน่าสนใจเนื่องจากลูกค้าไม่มีความเสี่ยง เราจึงนำเสนอแนวทางให้บริการรูปแบบดังกล่าวแก่ลูกค้ารายอื่นๆ ด้วย” นายเชวงกล่าว
นายเชวง กล่าวเพิ่มเติมว่า การเติบโตของกลุ่มบริษัท จีเอเบิล ในปีที่ผ่านมา เป็นไปตามความคาดหมาย โดยสามารถครองแชมป์ตลาดไอทีในธุรกิจประกันภัย อีกทั้งบริษัท เดอะ คอมมูนิเคชั่น โซลูชั่น จำกัด (TCS) ซึ่งเป็นบริษัทในกลุ่มบริษัท จีเอเบิล ยังสามารถเติบโตแบบก้าวกระโดดด้วยยอดรายได้ที่เพิ่มขึ้นจากปี 2005 โดยสามารถขยายตลาดเพิ่มขึ้นในกลุ่มสถาบันการศึกษา รวมถึงได้ยังรับเลือกให้ติดตั้งระบบ Network ในโครงการใหญ่ๆ อีกด้วย
ขณะที่บริษัท เฟิร์ส ลอจิก จำกัด ก็สามารถรักษาและขยายตลาดในกลุ่มสถาบันการศึกษา และกลุ่มโรงงานอุตสาหกรรม (Manufacturing) ซึ่งเป็นกลุ่มเป้าหมายหลักได้เช่นกัน
สำหรับบริษัท ซีดีจี ไมโครซีสเต็มส์ จำกัด (CDGM) ได้สร้างความโดดเด่นและสร้างความสำเร็จในด้านการให้คำปรึกษา (Consulting) และการเป็นผู้นำด้านโซลูชั่นอย่างเต็มตัว โดยเป็นผู้ที่อยู่เบื้องหลังความสำเร็จขององค์กรใหญ่ๆ มากมาย อาทิ กลุ่มโรงงานอุตสาหกรรม กลุ่มธุรกิจการเงินการธนาคาร รวมไปถึงองค์กรเอกชนระดับประเทศ
กลุ่มบริษัท จีเอเบิล Professional IT Services Provider ประกอบไปด้วยผู้เขี่ยวชาญด้านระบบคอมพิวเตอร์มากสาขาที่สุดในประเทศไทย ด้วยนโยบาย Single Point of Contact ที่ให้บริการภายใต้คุณภาพมาตรฐานระดับสูง แบบครบวงจร ด้วยทีมงานคุณภาพพร้อมประสบการณ์การให้บริการในธุรกิจ IT มากว่า 18 ปี ประกอบไปด้วย 4 บริษัท ได้แก่
บริษัท จีเอเบิล จำกัด A Premier IT Services Provider
บริษัท เดอะ คอมมูนิเคชั่น โซลูชั่น จำกัด A Premier Network Services
บริษัท ซีดีจี ไมโครซีสเต็มส์ จำกัด A Premier IT Solutions Provider
บริษัท เฟิร์ส ลอจิก จำกัด A Premier IT Infrastructure Integrator
