เทรนด์ ไมโคร ครองแชมป์อันดับหนึ่งด้านซอฟต์แวร์ป้องกันไวรัส

บริษัท เทรนด์ ไมโคร อิงค์. เปิดเผยถึง ผลการวิจัยล่าสุดของบริษัท ไอดีซี ประจำภูมิภาคเอเชีย แปซิฟิค ในหัวข้อ “IDC Asia/Pacific (Excluding Japan) Semiannual Security Software Tracker 1H 2006” ซึ่งบริษัท เทรนด์ ไมโครได้รับการจัดอันดับเป็นที่หนึ่ง ในฐานะที่เป็นผู้นำด้านซอฟต์แวร์การจัดการรักษาความปลอดภัยของข้อมูล (Security Content Management Software – SCM ซึ่งรวมถึงซอฟต์แวร์ป้องกันไวรัส กรองเนื้อหา/ป้องกัน สแปม) ประจำปี 2549 ที่ผ่านมา

นายไลโอนัล พาง กรรมการผู้จัดการ ประจำภูมิภาคเอเชียใต้ บริษัท เทรนด์ ไมโคร อิงค์ กล่าวในงานแถลงข่าวว่า “จากรายงานสรุปผลวิจัยของบริษัท ไอดีซี เอเชีย แปซิฟิคดังกล่าวสร้างขวัญและกำลังใจให้กับทีมงานและบริษัทฯ เป็นอย่างมาก พวกเรารู้สึกยินดีกับตัวเลขการเติบโตอย่างมั่นคงในประเทศไทย ที่ประกอบด้วยเลขสองหลัก และรายงานชิ้นนี้ของไอดีซียืนยันได้ถึงความมั่นใจในการเติบโตของการบริการและผลิตภัณฑ์ด้านความปลอดภัยของบริษัทในตลาดด้วย”

สำหรับสัดส่วนรายได้รวมของบริษัท เทรนด์ ไมโคร ประเทศไทย ในปีที่ผ่านมาแบ่งออกเป็น 3 ส่วนหลัก ได้แก่

1. กลุ่มผลิตภัณฑ์สำหรับธุรกิจขนาดใหญ่ทั้งภาครัฐและเอกชน ประมาณ 25 %

2. กลุ่มผลิตภัณฑ์สำหรับองค์กรขนาดกลางและเล็ก (SMB) ประมาณ 30.5 %

3. องค์กรธุรกิจขนาดใหญ่ (มากกว่า 500 ไลเซ่นขึ้นไป) ประมาณ 44.5 % ซึ่งในรายงานของบริษัท ไอดีซี ยังระบุด้วยว่า บริษัท เทรนด์ ไมโครมีส่วนแบ่งในตลาดของไทยถึง 34%

นายรัฐสิริ ไข่แก้ว ผู้จัดการฝ่ายขายประจำประเทศไทย บริษัท เทรนด์ ไมโคร (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า บริษัทมีอัตราการเติบโตอย่างมั่นคงในช่วงปีต่อปีที่ผ่านมาอยู่ที่ระดับ 30 % (ปี พ.ศ. 2548 – 2549) ซึ่งปัจจัยที่ทำให้บริษัท เทรนด์ ไมโคร เติบโตอย่างต่อเนื่อง คือ การใช้แนวคิดแบบองค์รวมที่มีต่อการรักษาความปลอดภัยของข้อมูล และความจริงที่ว่าบริษัทฯ เป็นหนึ่งในผู้นำตลาดซึ่งนำเสนอข้อมูลเรื่องแนวโน้มภัยคุกคามด้านความปลอดภัยรูปแบบใหม่ๆ ที่ทันโลก ทันเหตุการณ์อยู่ตลอดเวลา

“ปัจจุบันนี้การโจมตีจากซอฟต์แวร์ที่มุ่งร้ายต่อองค์กรธุกริจทั้งหมดนั้นทวีความรุนแรงเพิ่มมากขึ้น ซึ่งเราเชื่อมั่นว่าด้วยกลยุทธ์การป้องกันองค์กรของผลิตภัณฑ์เทรนด์ ไมโคร และความรวดเร็วในการตรวจสแกนไวรัสที่มี ทำให้เราสามารถตอบสนองความต้องการและป้องกันการโจมตีจากไวรัสในองค์กรธุรกิจได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยเฉพาะในองค์กรขนาดกลาง และขนาดใหญ่”

“บริษัท เทรนด์ ไมโคร (ประเทศไทย) ยังคงรักษาการเติบโตอย่างต่อเนื่องในปี 2549 และตั้งเป้าหมายที่จะเติบโตอย่างต่อเนื่องในปี 2550 ด้วย เนื่องจากบริษัทฯ มีแผนจะเพิ่มทรัพยากร และเน้นการลงทุนเรื่องการศึกษาและสร้างชื่อให้เป็นที่รู้จักในตลาดมากยิ่งขึ้น เพื่อเพิ่มส่วนแบ่งตลาดของเทรนด์ ไมโครในหน่วยงานภาครัฐ และเอกชน ในขณะเดียวกันบริษัทฯ จะขยายเครือข่ายช่องทางการจัดจำหน่าย ด้วยการเปิดตัวโปรแกรมสำหรับพันธมิตรเพื่อรักษาระดับการเติบโตในตลาดองค์กรขนาดกลาง และขนาดเล็กไว้ให้ได้ ทั้งนี้ด้วยยุทธศาสตร์และแนวคิดใหม่ๆ ทำให้เรามั่นใจได้ว่าจะสามารถครองส่วนแบ่งตลาดด้านการจัดการความปลอดภัยของข้อมูลได้มากขึ้น”

นายรัฐสิริ กล่าวเพิ่มเติมว่า “ความกังวลด้านความปลอดภัยที่สำคัญในปัจจุบัน คือการเพิ่มจำนวนของ สแปม สปายแวร์ และฟิชชิง โดยทั่วไป 80% ของอีเมลในแต่ละวันจะเป็นสแปม และนั่นทำให้ธุรกิจมีต้นทุนเพิ่มขึ้นทั้งในแง่ของเวลา และทรัพยากรที่จะต้องลบอีเมลเหล่านั้น ตลอดจนการสูญเสียความสามารถในการผลิตที่เป็นผลมาจากหนอน สปายแวร์ และแอดแวร์ ที่สแปมดังกล่าวอาจนำมาด้วย การเกิดขึ้นของไวรัสเครือข่าย Zotob ในเดือนสิงหาคมปีที่ผ่านมา ซึ่งสร้างความเสียหายให้กับบริษัทสื่อ และโรงงานผลิตหลายแห่ง แสดงให้เห็นว่าองค์กรหลายแห่งยังไม่ได้กำหนดมาตรฐานการรักษาความปลอดภัยขององค์กรไว้อย่างเพียงพอ สิ่งเหล่านี้แสดงให้เห็นถึงโอกาสการเติบโตที่สูงขึ้น สำหรับโซลูชั่นเทรนด์ ไมโคร เน็ตเวิร์ค ไวรัส วอลล์ (Trend Micro Network Virus Wall)”

“สำหรับแผนงานในอนาคตของเทรนด์ ไมโคร ประเทศไทยนั้น เรามีภารกิจหลักที่สำคัญ คือ การช่วยให้องค์กรธุรกิจสามารถดำเนินงานได้อย่างต่อเนื่องภายใต้แนวป้องกันภัยคุกคามทั้งหลายที่เทรนด์ ไมโคร มีให้ ดังนั้นบริษัทฯ จึงพร้อมที่จะผลักดัน และเข้าถึงองค์กรธุรกิจที่ยังไม่มีระบบป้องกันตัวเองที่ดีพอให้มากยิ่งขึ้น” นายรัฐสิริกล่าวทิ้งท้าย

เกี่ยวกับบริษัท เทรนด์ ไมโคร อิงค์
บริษัท เทรนด์ ไมโคร อิงค์. เป็นผู้นำระดับโลกด้านซอฟต์แวร์และการบริการด้านการป้องกันไวรัสบนเครือข่าย และการรักษาความปลอดภัยข้อมูลบนอินเทอร์เน็ต มีสำนักงานใหญ่ตั้งอยู่ ณ กรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น และมีหน่วยธุรกิจอยู่ทั่วโลก สำหรับผลิตภัณฑ์ของเทรนด์ ไมโคร ได้จำหน่ายไปยังองค์กรธุรกิจ ตัวแทนจำหน่ายแบบมูลค่าเพิ่ม และผู้ให้บริการ สนใจข้อมูลและชุดทดลองใช้งานผลิตภัณฑ์จากเทรนด์ ไมโครได้ที่ เว็บไซต์ www.trendmicro.com