ทีโอที นำระบบบริหารจัดการสร้างมูลค่าเชิงเศรษฐศาสตร์

นายสมควร บรูมินเหนทร์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ทีโอที จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ทีโอที จะนำระบบการบริหารจัดการเพื่อสร้างมูลค่าเชิงเศรษฐศาสตร์มาใช้ในการดำเนินงาน เพื่อเพิ่มมาตรฐานการตอบสนองยุทธศาสตร์และเป้าหมายที่แท้จริงขององค์กร และเพิ่มศักยภาพการแข่งขันทางการตลาดและมูลค่าเงินลงทุนของรัฐบาล โดยมอบหมายให้บริษัท ไพร้ซ – วอเตอร์เฮาส์ คูเปอร์ เอบีเอเอส จำกัด (PwC) เป็นที่ปรึกษาโครงการ
สืบเนื่องจากสำนักงานคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ กระทรวงการคลังมีนโยบายให้รัฐวิสาหกิจนำระบบการบริหารจัดการเพื่อสร้างมูลค่าเชิงเศรษฐศาสตร์ (Economic Value Management : EVM) มาใช้บริหารองค์กร เพื่อพัฒนาการบริการให้สามารถตอบสนองความต้องการบริษัท เพิ่มศักยภาพทางการตลาดและสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับเงินทุนของรัฐบาล โดยระบบบริหารการจัดการมูลค่าเพิ่มทางเศรษฐศาสตร์ หรือ EVM นี้จะมีการนำกำไรทางเศรษฐศาสตร์ซึ่งมีความสอดคล้องกับยุทธศาสตร์และเป้าหมายขององค์กรที่ได้กำหนดไว้มาเป็นตัวชี้วัดองค์กร จึงเป็นระบบที่มีประสิทธิภาพที่สามารถสะท้อนยุทธศาสตร์และเป้าหมายของ ทีโอที ได้อย่างแท้จริง
ทั้งนี้ ทีโอที ได้ให้ บริษัท ไพร้ซ – วอเตอร์เฮาส์ คูเปอร์ เอบีเอเอส จำกัด (PwC) ซึ่งเป็นบริษัทที่มีความรู้ ความชำนาญ มาช่วยวางระบบที่เป็นรูปธรรมและมีความสอดคล้องกับระบบ Balanced Scorecard ที่ใช้อยู่ตั้งแต่ระดับภาพรวมขององค์กรไปจนถึงระดับศูนย์ที่ดูแลงานในระดับพื้นที่ และเชื่อมโยงเข้ากับยุทธศาสตร์องค์กรปี 2550 และกำหนดจะเริ่มวัดผลงาน ในปี 2551 โดยจะเชื่อมโยงกับการกำหนดผลตอบแทนของผู้บริหารระดับสูงอีกด้วย
นายสมควร บรูมินเหนทร์ กล่าวว่า “ การมอบหมายให้ บริษัท ไพร้ซ – วอเตอร์เฮาส์ คูเปอร์ เอบีเอเอส จำกัด (PwC) เป็นผู้พัฒนาระบบการบริหารจัดการเพื่อสร้างมูลค่าเชิงเศรษฐศาสตร์ เพราะเป็นบริษัทที่มีความรู้ ความชำนาญในเรื่องการบริหารจัดการสร้างมูลค่าเพิ่มทางเศรษฐศาสตร์ เพื่อมาจัดวางแนวทางที่เหมาะสมของการนำระบบ EVM มาใช้พัฒนาและเชื่อมโยงกับฐานข้อมูล ทีโอที เพื่อให้การดำเนินงานเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพสอดคล้องกับระบบ Balanced Scorecard ในภาพรวมของ ทีโอที และเชื่อมโยงกับการกำหนดค่าตอบแทนของผู้บริหาร สามารถสร้างศักยภาพการบริหารจัดการองค์กรรองรับแรงขับตามกลไกตลาด และสร้างคุณภาพบุคลากรที่ได้มาตรฐานและตอบสนองความต้องการของบริษัท ”