นางสาธินี โมกขะเวส กรรมการผู้จัดการ บริษัท จัดหางาน จ๊อบส์ดีบี (ประเทศไทย) จำกัด ผู้ให้บริการเว็ปไซต์สมัครงานรายใหญ่ที่สุดในเมืองไทย ภายใต้ชื่อเว็ปไซต์ที่รู้จักกันแพร่หลายในนามของ
www.jobsdb.com กล่าวถึง สภาวะเศรษฐกิจของเมืองไทยที่อยู่ในช่วงขาลง เนื่องมาจากปัจจัยด้านต่าง ๆ ในประเทศ ไม่ว่าจะเป็นเศรษฐกิจ การเมือง การปกครอง ภายหลังจากมีการปฏิรูปการเมืองไปตั้งแต่ปีกลาย ทำให้ส่งผลต่อสภาพแวดล้อมต่าง ๆ ทางด้านเศรษฐกิจ แต่ละธุรกิจหยุดนิ่ง บ้างชะลอตัว บางบริษัทที่คิดจะทำเพิ่มก็หยุดการขยาย หรือบางที่ถึงกับ Lay Off พนักงานก็มีให้เห็นบ้างก็มี
นางสาธินี กล่าวว่า “สิ่งหนึ่งที่เราสามารถมองเห็นได้จากการจัดงาน CE2007 หรือ Career Exhibition 2007 หรือมหกรรมสมัครงานที่ จัดติดต่อกันมาเป็นครั้งที่ 3 แล้ว เมื่อช่วงเดือนมีนาคมที่ผ่านมา ซึ่งในงานนี้เราได้รวบรวมบริษัท มากมายทั้งด้านการเงิน การธนาคาร ด้านเคมี ธุรกิจบริการ ธุรกิจไอที และธุรกิจสินค้าอุปโภคบริโภค ไว้มากมาย นับได้กว่า 130 บริษัทด้วยกัน เราจะเห็นได้ว่างาน CE ครั้งนี้ คนให้ความสนใจค่อนข้างมาก มีผู้เข้าร่วมงานนับ 50,000 คน และสนใจสมัครงานกันถึง 220,000 ตำแหน่ง ตัวเลขดังกล่าวชี้ให้เห็นว่า ในปี ๆ หนึ่งมีนิสิตนักศึกษาจบใหม่ ที่ต้องการงานมากมาย นอกจากนี้ ยังมีคนทำงานที่ว่างงานหรือต้องการเปลี่ยนงานไม่น้อย และความจริงที่ต้องยอมรับคือไม่ใช่ทุกคนที่จะไปถึงฝั่งฝันนั่นคือการประสบความสำเร็จในการหางาน ส่วนน้อยคือคนที่ได้งานทำ แต่เกินครึ่งคือคนที่ต้องผิดหวัง ประกอบกับพิษเศรษฐกิจ ที่ต่างหยุดนิ่ง ชะลอดูทีท่าของรัฐบาล ว่าจะมีนโยบายช่วยเหลือหรือฟื้นฟูสภาวะเศรษฐกิจที่ยังคงฟุบอยู่อย่างไรบ้าง ทำให้ส่งผลโดยตรงกับคนที่กำลังต้องการงาน สภาวะการณ์ดังกล่าว โดยส่วนตัวแล้วเชื่อว่า คงจะอยู่กับที่ และชะลอตัว เช่นนี้ไปตลอดปี และอาจเลยส่งผลกระทบไปถึงปีหน้าก็เป็นได้ เพราะอยู่ในช่วงวางแผนการบริหาร และเตรียมการเลือกตั้งรัฐบาลชุดใหม่อีกด้วย ในฐานะที่เราเป็นบริษัทเกี่ยวกับการหางาน สมัครงาน พอมองเห็นเศรษฐกิจเป็นเช่นนี้ ซึ่งส่งผลโดยตรงกับคนหางาน จึงอดที่จะขอเป็นตัวแทนคนทำงาน คนที่กำลังสมัครงานหรือมองหางานอยู่ ในการกระจายข่าวสารให้กับมดงานทั้งหลายเหล่านั้น ไม่ว่าจะเป็นผู้ที่จบการศึกษาที่ยังหางานไม่ได้ คนทำงานที่โดน Lay Off หรือต้องการมองหางานใหม่ เพื่อบอกให้รัฐบาล ภาครัฐ ภาคเอกชน หันมามองจุดนี้ด้วย ว่าปัญหาคนว่างงานก็น่าสนใจ และควรแก้ไขอย่างเร่งด่วน ไม่น้อยไปกว่าการร่างแบบแผนการบริหารประเทศเช่นกัน”
นางสาธินี ยังเปิดเผยต่อไปว่า การที่เศรษฐกิจเกิดภาวะชะลอตัวนั้น ทำให้บริษัทของบรรดานักลงทุนข้ามชาติต่างรอดูทีท่า ว่าจะลงทุนขยายงานต่อ หรือจะยกเลิกถอนทุนกลับดี ซึ่งถ้าเหตุการณ์สถานการณ์ยังไม่ดีขึ้น หรือมีความชัดเจนมากยิ่งขึ้นกว่าทุกวันนี้ จะยิ่งส่งผลให้ประเทศไทยมีระดับความน่าเชื่อถือลดต่ำลง ดังที่ตอนนี้เรามักจะเห็นต่างชาติปรับลดระดับความน่าลงทุนของประเทศไทยเราลงไปค่อนข้างมาก ผ่านมาไตรมาสแรกของปี สถิติความเจริญเติบโตของเศรษฐกิจก็ไม่เป็นไปตามเป้าหมาย บอกได้คำเดียวว่า บรรดานักบริหาร หรือบรรดาเจ้าของธุรกิจ ต่างฝากความหวังไว้กับระบบ แนวคิดการแก้ไขปัญหา หนทางการกระตุ้นเศรษฐกิจ กลวิธีต่าง ๆ ในการกู้ความมั่นใจของเมืองไทยกลับมา ซึ่งปัญหาเหล่านี้ไม่ควรชักช้า เพราะผลพวงของเศรษฐกิจนั้นไม่ใช่เรื่องเล่น ๆ แต่เป็นเรื่องของคนทั้งชาติ ฉะนั้นจึงควรแก้ไขให้เร็วที่สุด
