ดอลลาร์ขยับช่วงแคบ : ตลาดมึนเศรษฐกิจสหรัฐฯ เงินเยนถอย ไร้ปัจจัยหนุน

เงินดอลลาร์สหรัฐฯ มีค่ากระเตื้องขึ้นเล็กน้อย เมื่อเทียบกับเงินยูโรและเงินเยน ท่ามกลางการซื้อขายที่เบาบางในตลาดเอเชีย เนื่องจากเป็นช่วงฤดูกาลหยุดพักผ่อนในญี่ปุ่นและจีน แต่โดยทั่วไป เงินดอลลาร์ยังคงตกอยู่ในสภาพอ่อนแอ เนื่องจากตลาดเงินยังไม่ค่อยไว้วางใจในสถานการณ์เศรษฐกิจสหรัฐฯ ซึ่งรายงานตัวเลขเศรษฐกิจที่ประกาศออกมายังคงให้ภาพที่สับสน จึงเป็นปัจจัยหนึ่งที่ทำให้ค่าเงินดอลลาร์เคลื่อนไหวอยู่ช่วง 1.35-1.36 ดอลลาร์/ยูโร มาเป็นระยะเวลาหลายสัปดาห์ติดต่อกัน

เงินดอลลาร์มีค่าฟื้นตัวในช่วงต้นสัปดาห์ หลังจากที่ทำสถิติต่ำสุดอยู่ที่อัตรา1.3682 ดอลลาร์/ยูโร ในช่วงการซื้อขายปลายสัปดาห์ก่อนหน้า เมื่อทางการสหรัฐฯ ประกาศรายงานตัวเลขอัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจไตรมาสแรกของสหรัฐฯ เพิ่มขึ้นเพียง 1.3% ซึ่งนับเป็นอัตราต่ำสุดในรอบ 4 ปี ส่งผลให้ตลาดเงินคอยจับตารายงานตัวเลขเศรษฐกิจรายการอื่นๆ ต่อไป โดยเฉพาะด้านอสังหาริมทรัพย์และการจ้างงาน ซึ่งจะเป็นอีกปัจจัยหนึ่งที่อาจชี้ว่าสภาพแท้จริงของเศรษฐกิจสหรัฐฯอยู่ในช่วงขาขึ้นหรือขาลง

เงินดอลลาร์มีค่าอ่อนไหวเล็กน้อยในเวลาถัดมา หลังจากที่ทางการสหรัฐฯ รายงานกิจกรรมทางธุรกิจย่านชิคาโกอยู่ในเกณฑ์ซบเซาลง ประกอบกับตัวเลขเงินเฟ้อก็เริ่มอ่อนแรงลงเช่นกัน กระตุ้นให้ตลาดเงินเกรงว่าธนาคารกลางสหรัฐฯ อาจใช้จังหวะในช่วงนี้ปรับลดอัตราดอกเบี้ย เพื่อฟื้นฟูเศรษฐกิจอย่างจริงจัง แต่ปรากฏว่า ค่าเงินดอลลาร์กลับดีดตัวสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว เมื่อทางการสหรัฐฯ ได้ประกาศรายงานอีกฉบับหนึ่งตามออกมา ชี้ว่าดัชนีภาคอุตสาหกรรมการผลิตเดือนเมษายนเพิ่มขึ้นอยู่ที่ 54.7 จากระดับ 50.9 ในเดือนมีนาคม นับเป็นระดับที่ดีที่สุดตั้งแต่เดือนพฤษภาคม 2549 มีส่วนช่วยคลายความกังวลเกี่ยวกับความอ่อนแอของเศรษฐกิจสหรัฐฯ

อย่างไรก็ตาม เงินดอลลาร์ก็ไม่อาจมีค่าสูงผ่านแนวต้าน 1.35 ดอลลาร์/ยูโร ได้สำเร็จ เนื่องจากอัตราการขยายตัวของการจ้างงานภาคเอกชนกลับอยู่ในเกณฑ์ที่ไม่สดใสนัก จึงกลายเป็นสาเหตุที่ทำให้นักลงทุนไม่มั่นใจว่าธุรกิจเอกชนสหรัฐฯยังเติบโตหรือไม่ในระยะนี้ เพราะการจ้างงานดูเหมือนแย่สุดในรอบเกือบ 4 ปี แต่ถึงกระนั้นก็ตาม เงินดอลลาร์ก็ยังสามารถยืนหยัดอยู่ในอัตราเฉลี่ย 1.35 ดอลลาร์/ยูโร ในช่วงปลายสัปดาห์ เนื่องจากดัชนีภาคบริการเดือนเมษายนเพิ่มถึงระดับ 56 จากระดับ 52.4 ในเดือนมีนาคม นับเป็นอีกรายการหนึ่งที่ช่วยประคับประคองค่าเงินดอลลาร์ในสัปดาห์นี้

เงินเยนญี่ปุ่น มีค่าโน้มต่ำลงอยู่ในช่วงซื้อขาย 119-120 เยน/ดอลลาร์ เป็นผลมาจากความเข้มแข็งของค่าเงินดอลลาร์และธุรกรรม carry trade ที่ยังคงมีอิทธิพลต่อค่าเงินเยนต่อไป ตราบที่อัตราดอกเบี้ยญี่ปุ่นต่ำกว่าสกุลอื่นๆ

เงินปอนด์อังกฤษ มีค่าต่ำกว่าระดับ 2.0 ดอลลาร์/ปอนด์ โดยเคลื่อนไหวอยู่ในช่วง 1.98-1.99 ดอลลาร์ เนื่องจากตัวเลขเศรษฐกิจอังกฤษต่ำกว่าที่ตลาดเงินเก็งกันไว้ ทำให้นักลงทุนเริ่มทยอยนำเงินปอนด์ออกมาขาย เพื่อลดความเสี่ยงจากการถือเงินปอนด์มากเกินไป

อัตราแลกเปลี่ยนเงินดอลลาร์สหรัฐฯ เทียบกับเงินตราสำคัญสกุลต่างๆ ณ วันที่ 30 เมษายน 2550 เทียบกับวันที่ 3 พฤษภาคม 2550 (ตัวเลขในวงเล็บ) มีดังนี้

เงินดอลลาร์สหรัฐฯ มีค่าเท่ากับ 1.3644 ดอลลาร์/ยูโร (1.3551 ดอลลาร์/ยูโร) 119.41 เยน (120.39 เยน) และ 1.9983 ดอลลาร์/ปอนด์ (1.9874 ดอลลาร์/ปอนด์)

ราคาทองคำในตลาดลอนดอน เมื่อวันที่ 30 เมษายน 2550 เท่ากับ 678.80 ดอลลาร์/ออนซ์ เทียบกับราคา 673.35 ดอลลาร์/ออนซ์ เมื่อวันที่ 3 พฤษภาคม 2550