PR124 ปรับกลยุทธ์เน้นสร้างงานประชาสัมพันธ์รูปแบบใหม่

PR124 ปรับกลยุทธ์เน้นสร้างงานประชาสัมพันธ์รูปแบบใหม่ บุกตลาดองค์กรภาคเอกชน กวาดลูกค้าใหม่เข้าพอร์ตต่อเนื่อง โชว์งานในมือมูลค่า 85 ล้านบาท ขณะที่ผลประกอบการไตรมาสแรกมีรายได้รวม 43.47 ล้านบาท

นายนิมิตร หมดราคี ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท 124 คอมมิวนิเคชั่นส จำกัด (มหาชน) หรือ PR124 ผู้ประกอบธุรกิจที่ปรึกษาประชาสัมพันธ์อันดับหนึ่งของประเทศ เปิดเผยถึงทิศทางธุรกิจของบริษัทในปี 2550 ว่า บริษัทจะทำการปรับกลยุทธ์งานประชาสัมพันธ์ในรูปแบบใหม่อย่างต่อเนื่องตลอดทั้งปี เพื่อให้สอดคล้องกับความต้องการของลูกค้า และภาวะตลาดโดยรวมที่มีการปรับเปลี่ยนตลอดเวลา โดยในปีนี้บริษัทจะเน้นการเจาะกลุ่มลูกค้าองค์กรภาคเอกชนมากขึ้น และคาดว่าสัดส่วนรายได้ของบริษัทในปีนี้จะมาจากงานภาคเอกชน 60% ภาครัฐ 40%

ทั้งนี้ในช่วงที่ผ่านมาบริษัทได้รับเป็นที่ปรึกษาประชาสัมพันธ์ให้กับลูกค้ารายใหม่จำนวนมาก อาทิ American Standard, Apple Computer, บริษัท เจ้าพระยามหานคร จำกัด (CMC) ผู้ประกอบการด้านธุรกิจอสังหาริมทรัพย์, โรงพยาบาลมหาชัย, บริษัท โกดัก (ประเทศไทย) จำกัด, BEA Systems, โครงการศูนย์บันเทิงเชิงศิลป์ The Esplanade, Lenovo งานประชาสัมพันธ์เปิดตัวคบเพลิงโอลิมปิก 2008, งานจัดทำสื่อประชาสัมพันธ์ประเทศไทยผ่านเครือข่าย CNBC ให้ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เป็นต้น

ส่วนงานของลูกค้าที่อยู่ระหว่างการดำเนินงาน อาทิ TONI&GUY, MasterCard Worldwide, บริษัท ไทยสโตเรจ แบตเตอรี่ จำกัด (มหาชน), บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน), บริษัท สยามฟิวเจอร์ ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน), บริษัท โซลูชั่น คอนเนอร์ (1998) จำกัด (มหาชน), บริษัท ไออาร์พีซี จำกัด (มหาชน), บริษัท มีเดีย ออฟ มีเดียส์ จำกัด (มหาชน), บริษัท เค.อี.แลนด์ จำกัด, ผลิตภัณฑ์กระเบื้องหลังคาตราเพชร ฯลฯ

ปัจจุบันบริษัทมีมูลค่างานที่ลูกค้ามีการลงนามในสัญญา และอนุมัติแผนประชาสัมพันธ์เป็นที่เรียบร้อยแล้ว ณ สิ้นเดือน เม.ย. 2550 คิดเป็นมูลค่ารวมทั้งสิ้น 85 ล้านบาท ซึ่งในช่วงต่อจากนี้บริษัทจะเข้าเสนองานที่ปรึกษาประชาสัมพันธ์ให้กับองค์กรภาคเอกชนมากขึ้น และมั่นใจว่ามีโอกาสที่จะได้รับงาน เนื่องจากปัจจุบันบริษัทมีความพร้อมในด้านต่างๆอยู่แล้ว ทั้งในเรื่องของบุคลากร ความเข้าใจธุรกิจในด้านต่างๆ คาดว่าในไตรมาส 2 ปีนี้ ผลประกอบการของบริษัทจะมีการปรับตัวดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง

“ถึงแม้ในปีนี้การจัดกิจกรรมเพื่อการประชาสัมพันธ์ ทั้งในส่วนของภาครัฐและเอกชนจะมีแนวโน้มปรับตัวลดลงอย่างเห็นได้ชัด แต่ตลาดของธุรกิจที่ปรึกษาประชาสัมพันธ์ยังมีโอกาส และช่องทางในการทำงานอีกมาก ซึ่งเป็นเหตุผลให้เราต้องมีการปรับตัวอยู่ตลอดเวลา ไม่ยึดถือการทำธุรกิจแบบเดิมๆ ทำให้ในช่วงที่ผ่านมาบริษัทมีลูกค้าเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง”นายนิมิตร กล่าว

นายนิมิตร กล่าวต่อไปถึงผลประกอบการไตรมาส 1 ของปี 2550 ว่า บริษัทมีรายได้รวมทั้งสิ้น 43.47 ล้านบาท ปรับตัวเพิ่มขึ้น 5% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน ซึ่งมีรายได้รวมอยู่ที่ 41.58 ล้านบาท ขณะที่กำไรสุทธิมีจำนวนทั้งสิ้น 3.2 แสนบาท ลดลงจากช่วงเดียวกันของปีก่อน ซึ่งมีกำไรสุทธิอยู่ที่ 3.3 ล้านบาท

สาเหตุที่รายได้ของบริษัทมีการปรับตัวเพิ่มขึ้น เนื่องจากในช่วงไตรมาส 1 ที่ผ่านมา บริษัทมีการรับงานซื้อสื่อเพื่อการประชาสัมพันธ์จำนวนมาก โดยคิดเป็นสัดส่วน 68% ของรายได้รวม ซึ่งงานประเภทดังกล่าวมีต้นทุนการดำเนินงานที่ค่อนข้างสูง ส่งผลให้อัตราการทำกำไรขั้นต้นของบริษัทปรับตัวลดลงเช่นกัน

อย่างไรก็ตามบริษัทได้มีการปรับกลยุทธ์เพื่อควบคุมต้นทุนการดำเนินงานในด้านอื่นๆ โดยในช่วงไตรมาส 1 ที่ผ่านมาบริษัทได้มีการควบคุมค่าใช้จ่ายในการให้บริการและบริหาร อยู่ที่ 9.9 ล้านบาท ลดลงจำนวน 2 ล้านบาท หรือ 16.5% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน ซึ่งมีค่าใช้จ่ายในส่วนดังกล่าวอยู่ที่ 11.9 ล้านบาท

“ในช่วงไตรมาส1 ผลประกอบการของบริษัทอยู่ในระดับที่น่าพอใจ กระแสความวุ่นวายทางการเมือง และเศรษฐกิจที่มีความผันผวน ไม่ส่งผลกระทบต่อการดำเนินงานของบริษัทแต่อย่างใด คาดว่าในไตรมาสต่อๆไป น่าจะได้เห็นการเติบโตของรายได้ที่สูงขึ้นอีก เนื่องจากธรรมชาติของธุรกิจพีอาร์นั้น ช่วงต้นปีถือเป็นช่วงที่มีงานและรายได้เข้ามาไม่มากนัก แต่จะมีการปรับตัวเพิ่มขึ้นเป็นอย่างมากในช่วงไตรมาส 3-4”นายนิมิตร กล่าว