BEX รับตั๋วเงินคลังและพันธบัตรธปท. มูลค่ารวม 188,000 ล้านบาท เข้าซื้อขาย 4 – 23 กรกฎาคม นี้

ดร.สันติ กีระนันทน์ ผู้จัดการตลาดตราสารหนี้ (Bond Electronic Exchange หรือ BEX) ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า ตลาดหลักทรัพย์ฯ อนุมัติรับตั๋วเงินคลัง มูลค่า 140,000 ล้านบาท และพันธบัตรของธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) มูลค่า 48,000 ล้านบาท รวมมูลค่า 188,000 ล้านบาท เข้าซื้อขายใน BEX ระหว่างวันที่ 4 – 23 กรกฎาคม 2550 ดังนี้

1. พันธบัตรธปท. มูลค่า 60,000 ล้านบาท เริ่มซื้อขายวันที่ 4 กรกฎาคม 2550 ได้แก่
– พันธบัตรธปท. งวดที่ 7/364/50 ชื่อย่อ “CB08703A” อายุ 364 วัน ครบกำหนด ไถ่ถอนวันที่ 7 มีนาคม 2551

2. พันธบัตรธปท. มูลค่ารวม 60,000 ล้านบาท เริ่มซื้อขายวันที่ 6 กรกฎาคม 2550 ได้แก่
– พันธบัตรธปท. งวดที่ S64/14/50 ชื่อย่อ “CB07719B” อายุ 14 วัน มูลค่า 20,000 ล้านบาท ครบกำหนด
ไถ่ถอนวันที่ 19 กรกฎาคม 2550
– พันธบัตรธปท. งวดที่ S65/14/50 ชื่อย่อ “CB07723A” อายุ 14 วัน มูลค่า 20,000 ล้านบาท ครบกำหนด
ไถ่ถอนวันที่ 23 กรกฎาคม 2550
– พันธบัตรธปท. งวดที่ S66/14/50 ชื่อย่อ “CB07724A” อายุ 14 วัน มูลค่า 20,000 ล้านบาท ครบกำหนด
ไถ่ถอนวันที่ 24 กรกฎาคม 2550

3. พันธบัตรธปท. มูลค่า 20,000 ล้านบาท เริ่มซื้อขายวันที่ 10 กรกฎาคม 2550 ได้แก่
– พันธบัตรธปท. งวดที่ 2/63/50 ชื่อย่อ “CB07913A” อายุ 63 วัน ครบกำหนดไถ่ถอนวันที่ 13 กันยายน 2550

4. ตั๋วเงินคลัง มูลค่ารวม 11,000 ล้านบาท เริ่มซื้อขายวันที่ 4 กรกฎาคม 2550 ได้แก่
– ตั๋วเงินคลังงวดที่ 40/28/50 ชื่อย่อ “TB07801C” อายุ 28 วัน มูลค่า 3,000 ล้านบาท ครบกำหนด
ไถ่ถอนวันที่ 1 สิงหาคม 2550
– ตั๋วเงินคลังงวดที่ L40/91/50 ชื่อย่อ “TB07O03B” อายุ 91 วัน มูลค่า 4,000 ล้านบาท ครบกำหนด
ไถ่ถอนวันที่ 3 ตุลาคม 2550
– ตั๋วเงินคลังงวดที่ L40/182/50 ชื่อย่อ “TB08102A” อายุ 182 วัน มูลค่า 4,000 ล้านบาท ครบกำหนด
ไถ่ถอนวันที่ 2 มกราคม 2551

5. ตั๋วเงินคลัง มูลค่ารวม 11,000 ล้านบาท เริ่มซื้อขายวันที่ 9 กรกฎาคม 2550 ได้แก่
– ตั๋วเงินคลังงวดที่ 41/28/50 ชื่อย่อ “TB07808C” อายุ 28 วัน มูลค่า 3,000 ล้านบาท ครบกำหนด
ไถ่ถอนวันที่ 8 สิงหาคม 2550
– ตั๋วเงินคลังงวดที่ L41/91/50 ชื่อย่อ “TB07O10B” อายุ 91 วัน มูลค่า 4,000 ล้านบาท ครบกำหนด
ไถ่ถอนวันที่ 10 ตุลาคม 2550
– ตั๋วเงินคลังงวดที่ L41/182/50 ชื่อย่อ “TB08109A” อายุ 182 วัน มูลค่า 4,000 ล้านบาท ครบกำหนด
ไถ่ถอนวันที่ 9 มกราคม 2551

6. ตั๋วเงินคลัง มูลค่ารวม 13,000 ล้านบาท เริ่มซื้อขายวันที่ 16 กรกฏาคม 2550 ได้แก่
– ตั๋วเงินคลังงวดที่ 42/28/50 ชื่อย่อ “TB07815C” อายุ 28 วัน มูลค่า 3,000 ล้านบาท ครบกำหนด
ไถ่ถอนวันที่ 15 สิงหาคม 2550
– ตั๋วเงินคลังงวดที่ L42/91/50 ชื่อย่อ “TB07O17B” อายุ 91 วัน มูลค่า 5,000 ล้านบาท ครบกำหนด
ไถ่ถอนวันที่ 17 ตุลาคม 2550
– ตั๋วเงินคลังงวดที่ L42/182/50 ชื่อย่อ “TB08116A” อายุ 182 วัน มูลค่า 5,000 ล้านบาท ครบกำหนด
ไถ่ถอนวันที่ 16 มกราคม 2551

7. ตั๋วเงินคลัง มูลค่ารวม 13,000 ล้านบาท เริ่มซื้อขายวันที่ 23 กรกฏาคม 2550 ได้แก่
– ตั๋วเงินคลังงวดที่ 43/28/50 ชื่อย่อ “TB07822C” อายุ 28 วัน มูลค่า 3,000 ล้านบาท ครบกำหนด
ไถ่ถอนวันที่ 22 สิงหาคม 2550.
– ตั๋วเงินคลังงวดที่ L43/91/50 ชื่อย่อ “TB07O24B” อายุ 91 วัน มูลค่า 5,000 ล้านบาท ครบกำหนด
ไถ่ถอนวันที่ 24 ตุลาคม 2550
– ตั๋วเงินคลังงวดที่ L43/182/50 ชื่อย่อ “TB08123A” อายุ 182 วัน มูลค่า 5,000 ล้านบาท ครบกำหนด
ไถ่ถอนวันที่ 23 มกราคม 2551

การเข้าจดทะเบียนของตราสารหนี้ภาครัฐครั้งนี้ ทำให้มูลค่าตราสารหนี้ที่ออกโดยภาครัฐที่จดทะเบียนใน BEX เพิ่มขึ้นเป็น 3.313 ล้านล้านบาท (ร้อยละ 90.39 ของตราสารหนี้จดทะเบียนใน BEX) ส่งผลให้มูลค่าคงค้างรวม (Total Outstanding Value) ใน BEX เพิ่มขึ้นเป็น 3.665 ล้านล้านบาท

ผู้สนใจลงทุนในตราสารหนี้ภาครัฐและเอกชนที่จดทะเบียนใน BEX สามารถติดต่อบริษัทหลักทรัพย์ได้ทุกแห่ง รวมทั้งติดตามข้อมูลข่าวสารเกี่ยวกับตราสารหนี้ไทยและต่างประเทศได้ทางเว็บไซต์ของตลาดตราสารหนี้ที่ www.bex.or.th หากต้องการข้อมูลเกี่ยวกับกองทุนรวมที่มีนโยบายลงทุนในตราสารหนี้ศึกษาเพิ่มเติมได้จากเว็บไซต์โครงการให้เงินทำงานผ่านกองทุนรวมที่ www.thaimutualfund.comหรือติดต่อบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนรวมทุกแห่ง