เอพีซี-เอ็มจีอี ผู้นำระดับโลกด้านโซลูชั่นคุ้มครองและป้องกันการเสียหายของข้อมูล รวมทั้งการเสียหายของฮาร์ดแวร์และการหยุดชะงักของระบบงานให้แก่ตลาดอุตสาหกรรม องค์กร ธุรกิจตั้งแต่ระดับเล็ก กลาง จนถึงผู้ใช้งานตามบ้าน ได้ฤกษ์ประกาศแต่งตั้ง นายเอเทียน เกรุ ให้ดำรงตำแหน่งผู้จัดการทั่วไป ของเอพีซี-เอ็มจีอี ประเทศไทย อย่างเป็นทางการ โดยมีผลตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป โดย นายเอเทียน เกรุ จะขึ้นตรงต่อนายจอร์จ คอง ซึ่งได้รับการแต่งตั้งให้ทำหน้าที่ผู้จัดการทั่วไป ประจำภาคพื้นอาเซียนของเอพีซี-เอ็มจีอี เมื่อเร็วๆ นี้
นายจอร์จ คอง ผู้จัดการทั่วไป ประจำภาคพื้นอาเซียนของเอพีซี-เอ็มจีอี กล่าวว่า “บริษัทรู้สึกยินดีที่ได้เอเทียนเข้ามาร่วมบริหารธุรกิจของเอพีซี-เอ็มจีอี ในประเทศไทย โดยผู้จัดการทั่วไปคนใหม่จะดูแลด้านการบริหารจัดการ การจำหน่าย การตลาด และการบริการสินค้าและโซลูชั่นของเอพีซี-เอ็มจีอีในประเทศไทย และสานต่อเจตนารมณ์ในการนำเสนอสิ่งที่ดีที่สุดให้แก่ลูกค้า พันธมิตรทางธุรกิจ รวมทั้งพนักงาน โดยจะนำเสนอโซลูชั่นที่สามารถตอบโจทย์ของลูกค้าตั้งแต่ระดับเด็สก์ท้อป ดาต้า เซ็นเตอร์ ไปจนถึงระดับโรงงาน”
ด้วยประสบการณ์ที่สร้างสม และความรับผิดชอบที่ดีเยี่ยมในการดูแลลูกค้า จึงไม่ใช่เรื่องยากที่ผู้จัดการทั่วไปประจำประเทศไทยคนใหม่ของเอพีซี-เอ็มจีอี จะสามารถนำพาบริษัทให้เติบโตและสามารถสร้างความพึงพอใจให้แก่ลูกค้าในประเทศไทย ในการนำเสนอโซลูชั่นและบริการที่โดดเด่นที่สุดของอุตสาหกรรม รวมทั้งการมุ่งเน้นตอบสนองความต้องการของลูกค้าได้อย่างตรงจุด
ก่อนเข้ารับตำแหน่งผู้จัดการทั่วไปของเอพีซี-เอ็มจีอี นายเอเทียนเคยดำรงตำแหน่งผู้จัดการทั่วไปของเอ็มจีอี ยูพีเอส ซิสเต็มส์ (ประเทศไทย) นายเอเทียนนับเป็นหนึ่งในผู้เชี่ยวชาญด้านไอที ด้วยประสบการณ์ที่สร้างสมในประเทศไทยและด้านผลิตภัณฑ์เครื่องสำรองไฟฟ้า (UPS) จึงมิใช่เรื่องยากที่นายเอเทียนสามารถนำพาบริษัทไต่ขึ้นสู่อันดับ 1 ด้านผลิตภัณฑ์เครื่องสำรองไฟฟ้าในตลาดประเทศไทย พร้อมการเติบโตของยอดขายอย่างต่อเนื่องปีละกว่า 20 % หลังจากนั้นในปี พ.ศ. 2547 มร. เอเทียน ได้รับมอบหมายให้รับผิดชอบงานในขอบข่ายที่กว้างขึ้น เพื่อนำเสนอผลิตภัณฑ์และโซลูชั่นของเอ็มจีอีสู่ตลาดในภูมิภาคอินโดจีน นอกเหนือจากประเทศไทย ได้แก่ อินโดนีเซีย พม่า ลาว กัมพูชา และเวียดนาม
ในฐานะผู้จัดการทั่วไป ของเอพีซี-เอ็มจีอี ประเทศไทย นายเอเทียนมีหน้าที่ดูแลด้านการจัดการ การจำหน่าย การตลาด การบริการสินค้าและโซลูชั่นของเอพีซี-เอ็มจีอีในประเทศไทย รวมทั้งการรักษาความเป็นผู้นำตลาดในส่วนอุปกรณ์ป้องกันการเสียหายของข้อมูลเนื่องจากระบบไฟฟ้าล่ม ขณะเดียวกัน นายเอเทียนจะทำหน้าที่สร้างทีมงานระดับมืออาชีพในการนำเสนอสิ่งที่ดีที่สุดให้แก่ลูกค้าอย่างต่อเนื่อง สร้างความแข็งแกร่งให้แก่โซลูชั่นสำหรับลูกค้าระดับองค์กรขนาดใหญ่ และที่สำคัญที่สุด คือ การสร้างเอพีซี-เอ็มจีอีให้เป็นผู้นำเสนอระบบคุ้มครองและป้องกันการเสียหายของข้อมูล และผู้นำเสนอระบบควบคุมความเย็นชั้นนำระดับโลก
ก่อนเข้ามารับตำแหน่งให้กับเอพีซี-เอ็มจีอี นายเอเทียนเคยดำรงตำแหน่งผู้ช่วยผู้จัดการฝ่ายคุณภาพ ของ Chloride Power Electronics เชี่ยวชาญในส่วนพาวเวอร์ ซัพพลาย ผลิตภัณฑ์เครื่องสำรองไฟฟ้า และการออกแบบระบบไฟฟ้าตามความต้องการของลูกค้า
นายเอเทียนกล่าวว่า “ผมรู้สึกยินดีที่ได้รับมอบหมายจากเอพีซี-เอ็มจีอี ให้ดำรงตำแหน่งอันน่าตื่นเต้นและท้าทายนี้ในการดูแลตลาดประเทศไทย ซึ่งทีมงานของเอพีซี-เอ็มจีอี ประเทศไทยมีความพร้อมอยู่แล้ว ที่จะนำเสนอโซลูชั่นและเทคโนโลยีล่าสุด ที่สามารถตอบโจทย์ได้ตรงวัตถุประสงค์ทางธุรกิจของลูกค้า หรือความต้องการที่ท้าทายอื่นๆ ของอุตสาหกรรมเกี่ยวกับพลังงาน และระบบทำความเย็น”
เอพีซี-เอ็มจีอี ถูกก่อตั้งขึ้นในเดือนกุมภาพันธ์ 2550 ภายหลังจากชไนเดอร์ อิเล็คทริค ได้เข้าซื้อกิจการของเอพีซี และทำการควบรวมธุรกิจกับเอ็มจีอี ยูพีเอส ซิสเต็มส์ ปัจจุบันนายลอเรน เวอร์เนรี่ ทำหน้าที่ตำแหน่งประธานและกรรมการบริหารสูงสุดของชไนเดอร์ อิเลคทริค และยังควบตำแหน่งประธานและซีอีโอของเอพีซี-เอ็มจีอี
เกี่ยวกับเอพีซี และ เอ็มจีอี
เอพีซี และ เอ็มจีอี ยูพีเอส ซิสเต็มส์ ได้ผนวกกันเมื่อเร็วๆ นี้ เพื่อจัดตั้งหน่วยธุรกิจด้านการจัดการพลังงาน และระบบควบคุมความเย็นในเครือของชไนเดอร์ อิเล็คทริค โดยเอพีซี และเอ็มจีอี มียอดจำหน่ายทั่วโลกในปีที่ผ่านมารวมกันถึง 3 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ (2.4 พันล้านยูโร) เอพีซี-เอ็มจีอีร่วมนำเสนอสินค้า และโซลูชั่นคุ้มครองและป้องกันการเสียหายของข้อมูล รวมทั้งการเสียหายของฮาร์ดแวร์และการหยุดชะงักของระบบงานให้แก่ตลาดอุตสาหกรรม องค์กร ธุรกิจตั้งแต่ระดับเล็ก กลาง จนถึงผู้ใช้งานตามบ้าน
โซลูชั่นของเอพีซี-เอ็มจีอีประกอบด้วยผลิตภัณฑ์เครื่องสำรองกระแสไฟฟ้า (UPS) ระบบทำความเย็นภายในตู้แร็ค ผลิตภัณฑ์ตู้แร็ค การบริการออกแบบวางระบบ และซอฟต์แวร์สำหรับบริหารและจัดการภายในห้องศูนย์ข้อมูล รวมทั้งโซลูชั่นที่เป็นหนึ่งเดียวในวงการที่รวมตั้งแต่ระบบไฟฟ้า ระบบทำความเย็น และระบบบริหารจัดการห้องศูนย์ข้อมูลไว้ด้วยกัน ทั้งนี้ ด้วยรากฐานที่แข็งแกร่งระดับโลกและการสนับสนุนอย่างเข้มแข็งทางด้านวิจัยและการพัฒนา พนักงานจำนวน 12,000 คนของเอพีซี-เอ็มจีอีได้ช่วยลูกค้าให้สามารถแก้ไขปัญหาวิกฤติอันเกิดจากการหยุดชะงักของระบบงานและระบบควบคุมความเย็น ตลอดจนรับมือกับความท้าทายของการบริหารจัดการห้องศูนย์ข้อมูลได้อย่างมีประสิทธิภาพ
รายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับเอพีซี-เอ็มจีอี สามารถเข้าชมได้ที่ www.apc-mge.com
