ไออาร์พีซีเปิดใจเรื่องโรงไฟฟ้าถ่านหิน

ไออาร์พีซีเปิดใจเรื่องโรงไฟฟ้าถ่านหิน
เมื่อ ๔ ก.ย.๕๐ เวลา ๑๑.๐๐ น.ที่โรงงานไออาร์พีซี อ.เมือง จ.ระยอง พล.อ.บัญชร ชวาลศิลป์ ที่ปรึกษาไออาร์พีซีได้เปิดแถลงข่าวกรณีมีผู้ชุมนุมประท้วงการก่อสร้างโรงไฟฟ้าถ่านหินของบริษัท ยืนยันว่า การก่อสร้างโรงไฟฟ้าดังกล่าวมิได้เกิดจากความริเริ่มของบริษัทแต่อย่างใด แต่สืบเนื่องจากการได้รับคำเชิญชวนจากรัฐบาลให้มีส่วนร่วมในการสร้างความมั่นคงทางด้านพลังงานไฟฟ้าให้แก่ประเทศชาติในอนาคต จึงเข้าซื้อซองประกวดราคาเมื่อ ๒๙ มิ.ย.๕๐ ที่ผ่านมา พร้อมยืนยันจะปฏิบัติตามเงื่อนไขที่กำหนดไว้ในเอกสารประกวดราคาอย่างเคร่งครัดในทุกประการ โดยเฉพาะเรื่องสิ่งแวดล้อม และการรับฟังเสียงประชาชนชาวระยอง หากไม่สามารถปฏิบัติได้ก็พร้อมจะถอนตัวจากการยื่นซองประกวดราคาทันทีโดยไม่มีเงื่อนไข

รัฐขอให้เอกชนร่วมลงทุน
พล.อ.บัญชร กล่าวต่อไปว่า จากแผนพัฒนากำลังการผลิตไฟฟ้าของประเทศไทยได้ประมาณการความต้องการพลังงานไฟฟ้าในช่วง ๑๕ ปีข้างหน้าระหว่าง พ.ศ.๒๕๕๐-๒๕๖๔ ว่ามีความต้องการไฟฟ้าเพิ่มอีกประมาณ ๓๖,๗๙๐ เมกะวัตต์ จึงต้องมีการก่อสร้างโรงไฟฟ้าเพิ่มเติมโดยการไฟฟ้าฝ่ายผลิตซึ่งต้องใช้งบประมาณถึงประมาณ ๙๘๖,๗๙๖ ล้านบาท ดังนั้นเพื่อเป็นการแบ่งเบาภาระทางด้านงบประมาณ รัฐบาลจึงได้ประกาศเชิญชวนให้ภาคธุรกิจเอกชนที่มีความพร้อมเข้ามาลงทุนก่อสร้างโรงไฟฟ้าเพื่อขายให้กับการไฟฟ้าฝ่ายผลิต

ไออาร์พีซีซึ่งประกอบธุรกิจปิโตรเคมีมีความแข็งแกร่ง มีผลประกอบการที่มั่นคง มีสินทรัพย์ถึงประมาณ ๑.๕ แสนล้านบาท และมีความพร้อมทั้งที่ตั้งทางภูมิศาสตร์ มีที่ดินพร้อมก่อสร้าง มีท่าเรือน้ำลึก และมีพนักงานซึ่งมีประสบการณ์ด้านนี้ ซึ่งจะทำให้ต้นทุนในการผลิตไฟฟ้ามีราคาต่ำ ส่งผลให้ภาคอุตสาหกรรมและประชาชนทั่วไปสามารถใช้ไฟฟ้าในราคาถูก กอปรทั้งมีความประสงค์จะร่วมรับผิดชอบต่อสังคมและประเทศชาติจึงได้เสนอตัวเข้าร่วมโครงการนี้ด้วยการเข้าซื้อซองประกวดราคาเมื่อ ๒๙ มิ.ย.๕๐ ที่ผ่านมา โดยมีบริษัทอื่นๆเข้าร่วมซื้อซองประกวดราคานี้หลายบริษัท ทั้งนี้มีกำหนดในการยื่นซองประกวดราคาใน ๑๙ ต.ค.๕๐

ต้องผ่านเกณฑ์สิ่งแวดล้อม
พล.อ.บัญชร กล่าวต่อไปว่า ในเงื่อนไขการประกวดราคานั้นมีเรื่องสำคัญชี้ขาดคือการศึกษาผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม หรือ EIA ซึ่งรวมทั้งเรื่องสำคัญควบคู่กันไปคือการรับฟังความคิดเห็นจากประชาชนด้วย ขณะนี้ไออาร์พีซีกำลังดำเนินการจัดทำ EIA อย่างละเอียดและรอบคอบ รวมทั้งรวบรวมความคิดเห็นและข้อห่วงใยของพี่น้องประชาชนชาวระยองด้วยวิธีการต่างๆ ซึ่งเมื่อผลการจัดทำ EIA เสร็จสิ้นลงแล้วไออาร์พีซีก็จะจัดให้มีการรับฟังความคิดเห็นของประชาชนอย่างเป็นทางการเต็มรูปแบบตามวิธีการกำหนดที่ไว้ในระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีทันที

อย่างไรก็ตาม หากผลการศึกษาของบริษัทพบว่าเราไม่สามารถสนองตอบต่อเงื่อนไขทางด้านสิ่งแวดล้อมได้ก็จะไม่ยื่นซองประกวดราคาอย่างแน่นอน เพื่อมิให้สร้างความเดือดร้อนแก่พี่น้องประชาชนชาวระยอง และถึงแม้ว่าไออาร์พีซีจะยื่นซองประกวดราคาพร้อมแนบ EIA ไปด้วยก็ยังต้องผ่านการตรวจสอบอย่างละเอียดรอบคอบอีกหลายขั้นตอนจากทางราชการ ซึ่งหากไม่ผ่านเกณฑ์ ไออาร์พีซีก็จะไม่มีสิทธิเป็นผู้ชนะการประมูล

อย่างไรก็ตาม พล.อ.บัญชร ชี้ว่าแม้ไออาร์พีซีจะไม่ยื่นซองประกวดราคาก็มิได้สร้างความเสียหายทางธุรกิจให้แก่บริษัทแต่อย่างใด เพราะธุรกิจหลักของบริษัทคือปิโตรเคมีครบวงจรที่ใหญ่ที่สุดในเอเซียอาคเนย์ มีผลประกอบการที่แข็งแกร่ง และนับเป็นความภาคภูมิใจของคนไทยทั้งประเทศ แต่ที่เข้าไปซื้อซองประกวดราคาก็เพราะต้องการร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการสร้างความมั่นคงทางเศรษฐกิจให้แก่สังคมและประเทศชาติเท่านั้น

พล.อ.บัญชร ยืนยันว่า ตามที่ปรากฎข่าวลือว่า ทางบริษัทได้มีการปรับปรุงพื้นที่ไว้แล้วเพื่อก่อสร้างโรงไฟฟ้านั้น ไม่มีมูลความจริงแต่อย่างใด เพราะจนถึงบัดนี้ก็ยังมิได้ตัดสินใจว่าจะยื่นซองประกวดราคาหรือไม่ และถึงจะยื่นซองก็ไม่แน่ว่าจะชนะการประกวดราคา จึงเป็นไปไม่ได้ที่จะมีการลงทุนล่วงหน้าโดยปราศจากเหตุผลเช่นนั้น

การเจรจา
ต่อคำถามว่า จะเจรจากับผู้ชุมนุมประท้วงหรือไม่ พล.อ.บัญชร กล่าวว่า จากการรับฟังคำปราศรัยและการให้สัมภาษณ์ของนายสุทธิ อัชฌาศัย ผู้นำการประท้วง บริษัทเห็นว่าไม่มีลักษณะเป็น “การเจรจา” แต่เป็น “การยื่นคำขาด” คือต้องให้ ดร.ปิติ ยิ้มประเสริฐ ไปยืนยันต่อผู้ชุมนุมประท้วงว่าจะไม่ยื่นซองประกวดราคาเท่านั้น ซึ่งไออาร์พีซีเห็นว่าไม่เป็นธรรมต่อบริษัทที่มีเจตนาสุจริตและเข้ามาเกี่ยวข้องอย่างเปิดเผยตามคำเชื้อเชิญของรัฐบาล จึงไม่สามารถกระทำตาม “คำขาด”ของนายสุทธิได้ แม้จะเป็นห่วงพี่น้องชาวระยองที่มาร่วมชุมนุมประท้วงอย่างใดก็ตาม

พล.อ.บัญชร กล่าวปิดท้ายว่า พนักงานและผู้บริหารไออาร์พีซีกว่า ๘,๐๐๐ ชีวิตล้วนมีจิตสำนึกต่อบุญคุณของแผ่นดินที่อยู่อาศัย จึงกำหนดคำขวัญว่า “เรารักระยอง”และจะไม่ทำร้ายพี่น้องชาวระยองเป็นอันขาด พร้อมจะตอบคำถามข้อห่วงใยของพี่น้องประชาชนในทุกคำถาม ถ้าทำไม่ได้ หรือตอบไม่ได้ เราก็ไม่ยื่นซอง จึงเป็นเรื่องง่ายๆ ที่ไม่ได้ส่งผลเสียหายต่อบริษัทแต่อย่างใด เพียงแต่ปัจจุบันเรากำลังอยู่ระหว่างขั้นตอนของการทำ EIA เพื่อให้ได้คำตอบที่ดีที่สุด มีเหตุผลชัดเจนที่เป็นวิทยาศาสตร์รองรับการตัดสินใจ ทั้งนี้ก็เพื่อประโยชน์สูงสุดสำหรับประเทศชาติเป็นส่วนรวมและพี่น้องชาวระยองอันเป็นที่รักยิ่งของเรานั่นเอง