จีเอ็นซี ดึง 9 พันธมิตรเพื่อสุขภาพระดับเวิลด์คลาสของไทย ร่วมมอบสิทธิประโยชน์สูงสุด

จีเอ็นซี ประเทศไทย (GNC Thailand) ศูนย์รวมผลิตภัณฑ์เสริมอาหารอันดับ 1 จากอเมริกา เปิดตัวบัตรสมาชิกใหม่ GNC Platinum Card เพื่อมอบให้กับลูกค้าระดับพรีเมี่ยม พร้อมสิทธิประโยชน์สูงสุดเพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตของคนไทยสมัยใหม่ ร่วมกับสถานบริการเพื่อสุขภาพระดับเวิลด์คลาสของไทย อีก 9 แห่ง อาทิ เอส เมดดิคอล สปา,ไคโรฟิต,TRIA และ Holistic Medical Center รวมมูลค่ากว่า 1 แสนบาทต่อ 1 สมาชิกบัตร พร้อมส่วนลดพิเศษถึง 30 % ในการเลือกซื้อผลิตภัณฑ์ GNC ตอกย้ำกลยุทธ์การทำตลาดเชิงลึก ที่เน้นให้ความสัมพันธ์ของการจับจ่ายใช้สอยตามไลฟ์สไตล์ของกลุ่มลูกค้า และประสิทธิภาพการตอบสนองความต้องการของกลุ่มเป้าหมาย โดยตั้งเป้าการขยายฐานจำนวนสมาชิกใหม่สำหรับ GNC Platinum Card ไว้ที่ประมาณ 200 รายชื่อในไตรมาสสุดท้าย รวมถึงการกระตุ้นยอดขายเพิ่มขึ้นอีกประมาณ 10-15 %

นางสาวจันทร์สิริ กุลวราพร กรรมการบริหาร กลุ่มบริษัทเอสเอสยูพี และผู้บริหารศูนย์รวมผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร จีเอ็นซี( ประเทศไทย) เปิดเผยว่า การเปิดตัวบัตรสมาชิกใหม่ GNC Platinum Card ในครั้งนี้ เป็นการทำ ซีอาร์เอ็ม (CRM) ที่มีความเข้มข้นมากที่สุดเท่าที่ จีเอ็นซี (ประเทศไทย) เคยดำเนินการมา ไม่ว่าจะเป็นการนำข้อมูลเกี่ยวกับพฤติกรรมการเลือกซื้อสินค้าและ ไลฟ์สไตล์ของลูกค้ามาบริหารจัดการหรือ การทำ customize promotion สำหรับลูกค้าแต่ละกลุ่มเพื่อให้ผลตอบแทน สอดรับกับความต้องการของกลุ่มเป้าหมายแต่ละกลุ่มอย่างเหมาะสมและ สร้างความพึงพอใจสูงสุดหรือ การเพิ่มสิทธิประโยชน์ให้ทั้งกลุ่มสมาชิกที่มียอดซื้อรวมมากกว่า 1 แสนบาทต่อปี พร้อมยกระดับฐานะขึ้นเป็นบุคคลพิเศษที่ได้รับส่วนลดสูงสุดถึง 30% ในการเลือกซื้อผลิตภัณฑ์เสริมอาหารประเภทต่างๆ ของจีเอ็นซีที่มีมากกว่า 200 รายการและยังสามารถนำยอดการซื้อผลิตภัณฑ์เข้าร่วมเป็นคะแนนสะสมใน โครงการ Healthy Rewards Program เพื่อนำมาแลก รับรางวัลเป็นผลิตภัณฑ์ GNC ได้อย่างอิสระ รวมถึงโอกาสการเข้าร่วมกิจกรรมพิเศษกับ Platinum Club Event กิจกรรมดีๆ เพื่อสมาชิกบัตรและที่พิเศษสุด สำหรับผู้ถือบัตร GNC Platinum Card ในครั้งนี้ก็คือสิทธิพิเศษต่าง ๆ จากผู้ให้บริการด้านสุขภาพและ ความงามระดับเวิลด์คลาสชั้นนำของเมืองไทย ที่ได้รับการคัดสรรจาก จีเอ็นซี เข้ามาร่วมให้บริการกับสมาชิกบัตรถึง 9 แห่ง รวมมูลค่ากว่า 1 แสนบาทต่อ 1 บัตรสมาชิก อาทิ

1. S Medical Spa มอบส่วนลดสูงสุดถึง 50 % สำหรับโปรแกรมวิเคราะห์สุขภาพ (Total B.E.M.) ให้กับ GNC Platinum Card

2. Chirofit บริการให้คำปรึกษาจากแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านเวชศาสตร์ ฟื้นฟูกระดูกและโครงสร้าง (ไคโรแพรคติค) เพื่อการบำบัดอาการเจ็บปวดของร่างกายฟรี พร้อมรับส่วนลด 30% จากการเข้าใช้บริการในส่วนต่างๆ อีกมากมาย

3. TRIA (Integrative Wellness Center) ศูนย์บริการสุขภาพอย่างองค์รวมที่ครบวงจรจากโรงพยาบาลปิยะเวท มอบบริการในการให้คำปรึกษาจากแพทย์ผู้เชี่ยวชาญในการดูแลรักษาร่างกายแบบองค์รวม หรือแบบธรรมชาติบำบัดฟรี สำหรับสมาชิก GNC Platinum Card เท่านั้น

4. Holistic Medical Center (The HMC) ศูนย์บริการทางการแพทย์อย่างองค์รวม มอบส่วนลดสูงสุดถึง 50 % สำหรับโปรแกรมการตรวจสุขภาพ

5. Hydrohealth ผู้เชี่ยวชาญในการบำบัดลำไส้ด้วยน้ำ มอบส่วนลด 10-50 % สำหรับโปรแกรมล้างพิษและ โปรแกรมดูแลผิวพรรณ และความงาม

6. Potalai ศูนย์นวดบำบัดแผนไทยที่ใหญ่ที่สุดในประเทศ ในบรรยากาศอันเงียบสงบสไตล์รีสอร์ต มอบส่วนลด 20% ทุกรายการและ สิทธิพิเศษอื่นๆ อีกมากมาย

7. Britesmile ศูนย์สุขภาพฟัน เพื่อรอยยิ้มขาวเป็นประกาย ภายใน 1 ชั่วโมง ฟรี ค่าบริการเรื่องสุขภาพช่องปาก และฟัน พร้อมส่วนลดพิเศษสำหรับบริการอื่นๆ

8. The Bodhi ศูนย์ออกกำลังกายด้วยอุปกรณ์ล้ำสมัย เพื่อผลลัพท์ที่เร็วทันใจ (In Shape In Time) มอบส่วนลด 30 % พร้อมฟรีค่าบริการให้คำปรึกษาด้านการดูแลรูปร่างและ โปรแกรมการวิเคราะห์รูปร่างด้วยเครื่อง InBody 7201

9. Dulaya Spa ไทยสปาร่วมสมัย ใจกลางเมือง มอบส่วนลด 15% สำหรับทุกๆ Spa Package

ซึ่งการคัดสรรสถานบริการต่างๆ เข้ามาร่วมให้บริการกับสมาชิกบัตรของ GNC Platinum Card ในครั้งนี้ นอกจากจะคำนึงถึงไลฟ์สไตล์ ของกลุ่มเป้าหมายโดยรวม ซึ่งเป็นกลุ่มที่ให้ความสำคัญต่อการดูแลรักษาสุขภาพอย่างแท้จริง ตั้งแต่ภายในถึงภายนอกแล้ว เรายังให้ความสำคัญต่อการที่ลูกค้าจะสามารถนำไปใช้ได้จริงและได้ประโยชน์อย่างคุ้มค่า มากกว่าเน้นที่ปริมาณผู้ที่จะมาเข้าร่วมให้บริการเช่นบัตรสมาชิก นางสาวจันทร์สิริกล่าวและเพิ่มเติมว่า

นอกจากนี้ในด้านการดูแลสุขภาพจีเอ็นซี ยังได้นำข้อมูลแยกตามไลฟ์สไตล์ และความเหมาะสมตามช่วงอายุลูกค้าแต่ละกลุ่ม มาจัดหมวดหมู่การให้บริการใหม่ ในลักษณะ Health Solution เพื่อช่วยให้ลูกค้าเลือกซื้อผลิตภัณฑ์เสริมอาหารได้ตรงกับความต้องการ พร้อมกิจกรรมส่งเสริมการขายเป็นรายเฉพาะกลุ่ม อาทิ กลุ่มผลิตภัณฑ์เสริมอาหารสำหรับคนออกกำลังกาย กลุ่มควบคุมน้ำหนัก (weight management) และการดูแลความงาม หรือกลุ่มสมุนไพรล้างพิษ และวิตามินต่างๆ นอกเหนือนั้น GNC ยังมีการจัดเตรียมเภสัชกรประจำสาขาและ บุคลากรที่มีความรู้ และเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร เพื่อคอยให้คำแนะนำและให้ข้อมูลที่ถูกต้องกับลูกค้า รวมถึงการให้บริการ GNC Health line เพื่อให้บริการสอบถามเกี่ยวกับการดูแลสุขภาพทางโทรศัพท์ และทางอีเมล์ livewell@gnc.co.th ฉะนั้น GNCจึงมั่นใจว่า จะสามารถขยายฐานลูกค้าได้ครอบคลุมกลุ่มเป้าหมาย ได้ถึง 50,000 ราย ภายในปีหน้านี้ จากสมาชิกเดิมที่มีอยู่ 30,000 ราย

ซึ่งคาดว่า การปรับแผนการตลาด ทั้ง above the lineและ below the line ผ่านกระบวนการทาง Customer Relationship Management (CRM) ในครั้งนี้ นอกจากจะส่งผลทางด้านการตลาดให้เติบโตอย่างต่อเนื่อง แล้วยังส่งผลโดยตรงกับการสร้างการรับรู้และ ความแข็งแกร่งให้กับแบรนด์ GNC ในประเทศไทยได้เพิ่มมากขึ้น ในปีหน้าคาดว่า รายได้โดยรวมของ GNC น่าจะโตขึ้นอีกประมาณ 15-20 % โดยเฉพาะในกลุ่มผลิตภัณฑ์เสริมอาหารสำหรับกลุ่มที่ชอบออกกำลังกายและ กลุ่มควบคุมน้ำหนัก อีกประมาณ 25% และ 20%ตามลำดับ นางสาวจันทร์สิริกล่าวสรุป