สตาร์บัคส์ เตรียมเปิด “ศูนย์ส่งเสริมและสนับสนุนเกษตรกร” ในรวันดา

คีกาลี, รวันดา และ ซีแอทเทิล–(บิสิเนสไวร์)–1 ธ.ค. 2550

บริษัทยังคงมุ่งมั่นเดินหน้าขยายชุมชนกาแฟในแอฟริกาตะวันออก

นายโฮเวิร์ด ชูลท์ซ ประธานบริษัท สตาร์บัคส์ (Starbucks) (Nasdaq: SBUX) ประกาศว่า ทางบริษัทจะทำการเปิดศูนย์ส่งเสริมและสนับสนุนเกษตรกรของสตาร์บัคส์ในรวันดา โดยศูนย์แห่งใหม่จะช่วยให้สตาร์บัคส์สามารถทำงานร่วมกับเกษตรกรในรวันดาและประเทศอื่นในแอฟริกาตะวันออกได้อย่างมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น นอกจากนั้นยังแสดงถึงความตั้งมั่นของบริษัทในการสนับสนุนความพยายามของเกษตรกรที่ต้องการแผยแพร่กาแฟชนิดพิเศษคุณภาพสูงของตนให้เป็นที่รู้จักไปทั่วโลก

“เรารู้สึกตื่นเต้นมากที่สตาร์บัคส์จะมาเปิดศูนย์ส่งเสริมและสนับสนุนเกษตรกรของสตาร์บัคส์ในรวันดา เราจะร่วมมือกับสตาร์บัคส์เพื่อให้ความช่วยเหลือเพิ่มเติมกับชุนชนเกษตรกรผู้ปลูกกาแฟในรวันดาและประเทศเพื่อนบ้าน” พอล คากาเม่ ประธานาธิบดีสาธารณรัฐรวันดา กล่าว “ศูนย์แห่งนี้จะช่วยให้เราสามารถพัฒนาวิธีการผลิตจนได้กาแฟชนิดพิเศษคุณภาพสูงในปริมาณที่มากกว่าเดิม”

ศูนย์ของสตาร์บัคส์ในรวันดาจะมีนักวิทยาศาสตร์ด้านเกษตรกรรมและเจ้าหน้าที่ประจำการอยู่ เช่นเดียวกับศูนย์ส่งเสริมและสนับสนุนเกษตรกรในเอธิโอเปียซึ่งเพิ่งเปิดตัวไปก่อนหน้านี้ และศูนย์ในคอสตาริก้าซึ่งเปิดทำการเมื่อปี พ.ศ.2547 โดยเจ้าหน้าที่จะร่วมงานกับชุมชนกาแฟในแอฟริกาตะวันออกเพื่อพัฒนาคุณภาพและการผลิตกาแฟให้ดียิ่งขึ้น รวมถึงเพิ่มจำนวนเกษตรกรที่มีส่วนร่วมในหลักปฏิบัติ Coffee and Farmer Equity (C.A.F.E.) Practices ของสตาร์บัคส์ ทั้งนี้ ตั้งแต่มีการก่อตั้งศูนย์ส่งเสริมและสนับสนุนเกษตรกรในลาตินอเมริกา คะแนนการประเมินคุณภาพการผลิตกาแฟก็เพิ่มขึ้นอย่างมาก โดยผลผลิตกาแฟต่อเฮคเตอร์เพิ่มขึ้น 20%, การใช้ยากำจัดวัชพืชลดลงถึง 80% และมีซัพพลายเออร์ที่มีส่วนร่วมในหลักปฏิบัติ C.A.F.E. Practices เพิ่มขึ้น 5%

นอกจากนายชูลท์ซแล้ว ยังมีผู้บริหารระดับสูงอีกหลายคนที่มีส่วนร่วมในโครงการนี้ ได้แก่ คลิฟฟ์ เบอร์โรวส์ ประธาสตาร์บัคส์ประจำภูมิภาคยุโรป ตะวันออกกลาง และแอฟริกา, ดั๊บ เฮย์ รองประธานอาวุโสฝ่ายจัดซื้อ และ ซานดรา เทย์เลอร์ รองประธานอาวุโสฝ่ายรับผิดชอบสังคมประจำองค์กร โดยระหว่างการเยือนรวันดา นายชูลท์ซจะเข้าพบกับประธานาธิบดีคากาเม่และเยี่ยมเยือนฟาร์มปลูกกาแฟในท้องถิ่นด้วย

“เรารู้สึกเป็นเกียรติอย่างยิ่งที่ได้มีโอกาสร่วมมือกับทางการรวันดาในการพัฒนาการปลูกกาแฟในรวันดาและประเทศอื่นๆ แอฟริกาตะวันออก เนื่องจากกาแฟของที่นี่เป็นที่ชื่นชอบของผู้คนทั่วโลก สตาร์บัคส์จึงมีความยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้สนับสนุนชุมชนผู้ปลูกกาแฟและได้เผยแพร่กาแฟชั้นเลิศให้ผู้คนได้ลิ้มรสผ่านร้านกาแฟของสตาร์บัคส์กว่า 15,000 สาขาทั่วโลก” นายชูลท์ซกล่าว

สตาร์บัคส์ได้ขยายการดำเนินงานในแอฟริกาตะวันออกโดยให้ความสำคัญกับการริเริ่มโครงการพัฒนาเทคนิคและความสามารถของชุมชน เช่น การเปิดศูนย์ส่งเสริมและสนับสนุนเกษตรกรเพื่อช่วยให้เกษตรกรผลิตกาแฟคุณภาพสูงสำหรับป้อนให้ผู้ซื้อกาแฟรายใหญ่อย่างสตาร์บัคส์ ทั้งนี้ ศูนย์แห่งใหม่จะสร้างขึ้นตามหลักปฏิบัติที่สตาร์บัคส์ทำตามมาตลอดระยะเวลา 5 ปีที่ผ่าน ซึ่งประกอบด้วย

— การตั้งเป้าเพิ่มยอดขายกาแฟในแอฟริกาตะวันออกให้ได้ 2 เท่าของปีที่แล้ว ภายในปี พ.ศ.2552

— การทุ่มเงินสนับสนุนกว่า 4 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เพื่อช่วยพัฒนาชุมชนเกษตรกรผู้ปลูกกาแฟในแอฟริกาตะวันออกผ่านการสร้างโรงเรียนและสะพาน

— การริเริ่มโครงการร่วมกับองค์กรไม่หวังผลกำไรอย่างองค์กร CARE และ WaterAid เพื่อการพัฒนาชนบท

— การมอบเงินสนับสนุนเพิ่มเติมอีก 1 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ในโครงการเงินกู้ดอกเบี้ยต่ำสำหรับเกษตรกรผู้ปลูกกาแฟ ภายใต้การดูแลขององค์กรไม่หวังผลกำไร Root Capital โดยมีเงินกู้รวมทั้งหมด 10 ล้านดอลลาร์สหรัฐ สำหรับเกษตรกรผู้ปลูกกาแฟทั่วโลก

เกี่ยวกับ สตาร์บัคส์
สตาร์บัคส์ คอฟฟี่ คอมพานี พร้อมมอบประสบการณ์พิเศษสุดในช่วงเวลาพิเศษของทุกคนด้วยกาแฟแก้วพิเศษ มาร่วมแบ่งปันประสบการณ์กับเราได้ที่ www.starbucks.com

ติดต่อ: บริษัท สตาร์บัคส์ คอฟฟี่ ภาคพื้นยุโรป ตะวันออกกลาง และแอฟริกา
ฮันส์ วอน โบโชเว (สำหรับภูมิภาคยุโรป ตะวันออกกลาง และแอฟริกา)
โทร: +31 (0) 6 2111 3174
อีเมล์: hvanboch@starbucks.com
หรือ
สตาร์บัคส์ คอฟฟี่ คอมพานี (สำหรับทุกภูมิภาคยกเว้นยุโรป ตะวันออกกลาง และแอฟริกา)
สเตซี่ย์ ครัม หรือ มาร์ค แลมบ์
โทร: +01 206-318-7100
อีเมล์: press@starbucks.com
เว็บไซต์: http://www.businesswire.com/cnn/sbux.shtml