ตลาดหลักทรัพย์ฯ เปิดสาขาให้บริการซื้อขายหุ้นออนไลน์เพิ่มในธนาคารและศูนย์การค้า

ตลาดหลักทรัพย์ฯ เผยกลยุทธ์ขยายฐานผู้ลงทุนปี 2551 เน้นเพิ่มช่องทางให้ผู้ลงทุนเข้าถึงการลงทุนได้สะดวกสบายมากขึ้น เร่งทำงานร่วมกับบล. และธนาคารพาณิชย์ เปิดสาขาย่อย และสาขาออนไลน์ ในธนาคาร และห้างสรรพสินค้า มากขึ้น หลังผลสำรวจพบผู้ลงทุนจะหันมาสนใจซื้อขายหุ้น หากบริษัทหลักทรัพย์ไปเปิดสาขาในสถานที่ที่สะดวก อาทิ ห้างสรรพสินค้าและธนาคาร ตั้งเป้ามีสาขาเพิ่ม 40 แห่งปี 2551

นายเก่งกล้า รักเผ่าพันธุ์ ผู้ช่วยผู้จัดการ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า ตลาดหลักทรัพย์ฯ ได้ร่วมกับสถาบันวิจัยเพื่อตลาดทุน จัดทำโครงการวิจัยนักลงทุน (Investor Research Program) และได้พบว่าการเข้าถึงแหล่งการให้บริการ เป็นปัจจัยสำคัญที่จะทำให้มีผู้สนใจซื้อขายหุ้นมากขึ้น

ผลการสำรวจพบว่า หากบริษัทหลักทรัพย์ไปเปิดให้บริการในสถานที่ที่สะดวก เช่น ห้างสรรพสินค้าและธนาคาร จะสนใจซื้อขายหุ้นมากขึ้น ทั้งนี้ ร้อยละ 30 เป็นผู้ที่ซื้อผลิตภัณฑ์ทางการเงินผ่านธนาคารเนื่องจากมีความเชื่อมั่นในธนาคาร และการมีพนักงานคอยแนะนำอย่างใกล้ชิด

“ในปี 2551 นี้ ตลาดหลักทรัพย์ฯ จึงจะเน้นการทำงานร่วมกับบริษัทหลักทรัพย์อย่างต่อเนื่อง โดยจะสนับสนุนให้บริษัทหลักทรัพย์ตั้งสาขาในธนาคาร และสาขาขนาดเล็กบนห้างสรรพสินค้า เพื่อเพิ่มช่องทางให้ผู้ลงทุนสามารถเข้าถึง การลงทุนได้สะดวกขึ้น นอกจากนี้ ยังช่วยให้บริษัทหลักทรัพย์สามารถเข้าถึงผู้ลงทุนได้ด้วยงบประมาณที่น้อยลง โดยการเปิดสาขาในลักษณะนี้ใช้งบประมาณเริ่มต้นประมาณ 4 แสนบาทเท่านั้น” นายเก่งกล้ากล่าว

สาขาขนาดเล็กให้บริการเปิดบัญชีซื้อขายหลักทรัพย์และการรับคำสั่งซื้อขาย โดยผู้ลงทุนสามารถส่งคำสั่งซื้อขายได้ด้วยตนเองผ่านระบบอินเทอร์เน็ตที่จัดไว้ให้บริการ รวมทั้งบางสาขาจะมีเจ้าหน้าที่ให้บริการและแนะนำด้านการลงทุนด้วย

ทั้งนี้ ณ วันที่ 7 ธันวาคม 2550 มีสาขาขนาดเล็กและสาขาออนไลน์ของบริษัทหลักทรัพย์ที่ตั้งอยู่ในธนาคารหรือศูนย์การค้าแล้วรวม 27 แห่งทั่วประเทศ แบ่งเป็นภาคเหนือ 4 แห่ง ภาคใต้ 8 แห่ง ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 4 แห่ง ภาคตะวันออก 1 แห่ง และภาคกลาง 10 แห่ง โดยมีธนาคารนครหลวงไทย ธนาคารกรุงไทย และธนาคารธนชาต เข้าร่วมโครงการในระยะแรกนี้