“เบบี้มายด์” ทุ่ม 50 ล้านบาท ส่งสูตร “รอยัลซอฟท์” รุกตลาดสิ้นปี 2007

“เบบี้มายด์” ทุ่มงบกว่า 50 ล้านบาท รุกตลาดโค้งสุดท้ายปี 2007 ส่งครีมอาบน้ำ “เบบี้มายด์ รอยัลซอฟท์” ด้วยส่วนผสมของนมผึ้งและน้ำนมข้าว ขยายฐานสู่ผู้หญิงวัยทำงาน 25 ปีขึ้นไป หลังสำรวจพบผู้บริโภคมีพฤติกรรมเลือกใช้สินค้าเด็กเพิ่มเป็น 20 % และสัดส่วนการใช้ครีมอาบน้ำเพิ่มขึ้นเป็น 40 % พร้อมประกาศชัดหวังขึ้นเป็นเบอร์ 1 ในตลาดด้วยแชร์ไม่ต่ำกว่า 40 % ในปี 2551

นายวิเชียร สันติมหกุลเลิศ ผู้อำนวยการการตลาด บริษัท โอสถสภา จำกัด ผู้จัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์เด็กแบรนด์ “เบบี้มายด์” เปิดเผยว่า ในช่วงท้ายปี 2007 นี้ บริษัทได้เปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ ครีมน้ำนมอาบน้ำ “เบบี้มายด์ รอยัลซอฟท์” ที่ผสาน 2 คุณค่าของนมผึ้งและน้ำนมข้าว ช่วยชะลอการเสื่อมสภาพของเซลล์ผิว และเก็บกักความชุ่มชื่นของผิวสาวให้คงอยู่ยาวนาน เพื่อเป็นการตอบสนองกลุ่มลูกค้าที่มีไลฟ์สไตล์ ในการใส่ใจเรื่องการบำรุงรักษาผิวพรรณให้เนียนนุ่มชุ่มชื่น คงความอ่อนเยาว์ให้กับผิว

“เบบี้มายด์ รอยัลซอฟท์” มีส่วนผสมที่คัดสรรเป็นพิเศษจากธรรมชาติ สกัดจากนมผึ้ง (Royal Jelly) ที่เป็นอาหารสำหรับตัวอ่อนของผึ้งงาน ซึ่งผลิตจากต่อมพิเศษข้างศีรษะของผึ้งงานที่มีอายุ 5-15 วัน ซึ่งอุดมไปด้วยโปรตีน และวิตามินบี ที่จะช่วยให้คอลลาเจนทำงานอย่างมีประสิทธิภาพชะลอการเสื่อมสภาพของผิว และน้ำนมข้าว (Rice Milk) ที่อุดมไปด้วยวิตามิน บี1 บี 2 และบี3 ที่ช่วยดูดซับ เก็บกัก และเพิ่มความชุ่มชื่นให้กับผิว มีขนาดให้เลือก 3 ขนาด คือ 200, 400 และ 600 มิลลิลิตร

“จากผลการสำรวจพบว่าปัจจุบันพฤติกรรมของผู้บริโภคที่เป็นผู้ใหญ่หันมาใช้สินค้าเด็กมากขึ้นจาก 5 % เป็น 20 % เนื่องจากมีการแพ้สินค้าที่มีสารทำให้ระคายเคืองกับผิว และเพื่อเป็นการชะลอไม่ให้ผิวมีความยาบกระด้าง การใช้สินค้าที่มีส่วนผสมที่มาจากธรรมชาติจะทำให้ผิวคงความนุ่ม ชุ่มชื่นดุจผิวทารก อีกทั้งเพื่อเป็นการขยายตลาดให้กว้างขึ้น โดยเฉพาะในตลาดครีมอาบน้ำสำหรับผู้ใหญ่ จึงได้กระโดดลงมาเพื่อแบ่งแชร์ตลาดครีมอาบน้ำผู้ใหญ่ที่มีลูกค้า 1,900 ล้านบาท โดยส่งผลิตภัณฑ์ครีมอาบน้ำ เบบี้มายด์ สูตร รอยัล ซอฟท์ ออกมาเพื่อตอบสนองความต้องการของหญิงสาวในกลุ่มอายุ 25 ปีขึ้นไป ที่เน้นความเป็นบิวตี้มากยิ่งขึ้น แต่ยังคงตอกย้ำความเป็นผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของธรรมชาติ เพื่อสุขภาพผิวที่ดี ยังคงผิวอ่อนวัยอยู่เสมอ ดังคำว่า “เบบี้มายด์ ธรรมชาติ เพื่อทารก” นายวิเชียร กล่าว…

ด้วยภาพตลาดครีมอาบน้ำรวมมูลค่า 1,900 ล้านบาท ที่มีการเติบโตกว่า 7 % ในปีที่ผ่านมา นับเป็นการเติบโตที่สูงมากเมื่อเทียบกับตลาดสบู่ก้อน มูลค่า 3,400 ล้านบาท ที่มีการเติบโตเพียง 4 % เนื่องจากมีการบริโภคแล้ว 100 % อีกทั้งพฤติกรรมการใช้สบู่ พบว่า ผู้บริโภคที่ใช้ครีมอาบน้ำมีสัดส่วนเพิ่มขึ้นเป็น 40 % ขณะที่การใช้ทั้งครีมอาบน้ำ และสบู่ก้อนมีประมาณ 10-15 % ส่งผลให้ทิศทางตลาดเบนความสนใจไปที่ตลาดครีมอาบน้ำ

สำหรับการทำตลาด “เบบี้มายด์ รอยัลซอฟท์” ในครั้งนี้ บริษัทฯ ได้ทุ่มงบประมาณกว่า 50 ล้าน ทั้งการโฆษณา และประชาสัมพันธ์ โดยออกหนังโฆษณาในแนวคิด “เพราะ..ผู้ชายบนโลกนี้ ศึกษาได้ไม่รู้จบ” หญิงสาวทั้งหลายจึงปรารถนาที่จะมีผิวที่งดงามเป็นที่หลงใหลของเหล่าชายในฝันได้นานแสนนาน…เบบี้มายด์จึงช่วยดูแลผิวสาว ให้เป็นอมตะ ด้วยครีมอาบน้ำสูตรใหม่ “รอยัล ซอฟท์” ที่ช่วยชะลอการเสื่อมสภาพของเซลล์ผิว ด้วยคุณค่านมผึ้ง และน้ำนมข้าวและแล้ว..เวลาของผู้หญิงอย่างเรา..ก็มีมากมายอย่างเหลือเฟือ

“ในตลาดครีมอาบน้ำที่กำลังเติบโตอย่างต่อเนื่อง เบบี้มายด์ ถือได้ว่าเป็นผู้นำตลาดครีมอาบน้ำอันดับที่สองในกลุ่มครีมอาบน้ำเด็ก ที่มีมูลค่าตลาดรวมอยู่ที่ 390 ล้านบาท ทีมีอัตราการเติบโตอยู่ที่ 14 % โดยเบบี้มายด์มีส่วนแบ่งตลาดอยู่ที่ 32 % ซึ่งเป็นอันดับที่สองรองจากจอห์นสัน แอนด์ จอห์นสัน ที่มีแชร์อยู่ที่ 39 % และอันดับที่ 3 คือ โคโดโม อยู่ที่ 11 %และคาดว่าในปี 2551 เบบี้มายด์ จะขึ้นมาเป็นผู้นำตลาดด้วยแชร์ 40 % ได้อย่างแน่นอนภายหลังออกเบบี้มายด์ รอยัลซอฟท์ ” นายวิเชียร กล่าวปิดท้าย…..