เสริมสุข แต่งตั้งสองผู้บริหารใหม่ เปิดเกมรุกย้ำผู้นำตลาดเครื่องดื่มขวัญใจคนรุ่นใหม่

จากภาพ : ฐิติวุฒิ์ บุลสุข (ซ้าย) และ ปริญญา เพิ่มพานิช (ขวา)

บริษัท เสริมสุข จำกัด (มหาชน) ประกาศแต่งตั้ง นายฐิติวุฒิ์ บุลสุข ดำรงตำแหน่งผู้จัดการทั่วไป โรงงานปทุมธานี พร้อมแต่งตั้ง นายปริญญา เพิ่มพานิช เป็นผู้อำนวยการฝ่ายการตลาดและฝ่ายปฏิบัติการขาย มีผลตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2551

ในตำแหน่งผู้จัดการทั่วไป โรงงานปทุมธานี นายฐิติวุฒิ์ บุลสุข จะดูแลรับผิดชอบการบริหารจัดการด้านการผลิต การขาย และระบบการกระจายสินค้าทั้งหมดของโรงงานปทุมธานี ซึ่งครอบคลุมพื้นที่กว่า 70% ของเสริมสุขทั่วประเทศ เพื่อตอกย้ำการเป็นบริษัทเครื่องดื่มชั้นนำของไทย โดยก่อนหน้านี้ นายฐิติวุฒิ์ มีประสบการณ์ทำงานหลากหลายมิติในธุรกิจน้ำอัดลมเป็นเวลากว่า 10 ปีกับบริษัท เป๊ปซี่-โคลา อินเตอร์เนชั่นแนล เริ่มตั้งแต่การบริหารงานฝึกอบรมด้านการขาย ระบบแฟรนไชส์ และการขาย ดูแลลูกค้าโมเดิร์นเทรด กลุ่มฟาสท์ฟู้ด และกลุ่มเทรดิชั่นนัลเทรด

หลังจากประสบความสำเร็จจากการทำงานร่วมกับเป๊ปซี่ นายฐิติวุฒิ์ ได้เข้าร่วมงานกับเสริมสุขอย่างเต็มตัวในตำแหน่งผู้อำนวยการฝ่ายการตลาด ดูแลรับผิดชอบกิจกรรมด้านการตลาดให้กับผลิตภัณฑ์เครื่องดื่มทุกแบรนด์ นายฐิติวุฒิ์ยังเป็นคีย์แมนในการขับเคลื่อนความสำเร็จอย่างสูงให้กับเสริมสุขให้เป็นผู้นำส่วนแบ่งการตลาดน้ำอัดลม ภายใต้ความสำเร็จของแบรนด์เป๊ปซี่ สร้างแบรนด์น้ำดื่มคริสตัลให้เติบโตอย่างก้าวกระโดดจนครองอันดับ 2 ในตลาด นอกจากนี้ ยังเป็นผู้บุกเบิกตลาดน้ำอัดลม 0 แคลอรี่ ด้วยการเปิดตัว เป๊ปซี่ แมกซ์ พร้อมด้วยนวัตกรรมทางการตลาดครบวงจร

ด้านนายปริญญา เพิ่มพานิช ซึ่งได้รับแต่งตั้งเป็นผู้อำนวยการฝ่ายการตลาดและฝ่ายปฏิบัติการขายนั้น เป็นผู้คร่ำหวอดในวงการเครื่องดื่มไทยและสั่งสมประสบการณ์การเรียนรู้ระบบการขายเป็นเวลาเกือบ 30 ปี โดยเป็นส่วนหนึ่งที่ผลักดันให้เสริมสุขประสบความสำเร็จเป็นผู้นำในตลาดเครื่องดื่ม ทั้งในตลาดเทรดิชั่นนัลเทรด และโมเดิร์นเทรด ตลอดจนมีประสบการณ์ในด้านการตลาด ดูแลตลาดน้ำสี โดยตำแหน่งล่าสุด ได้รับการแต่งตั้งเป็นผู้อำนวยการฝ่ายปฏิบัติการขาย ด้วยผลงานที่โดดเด่นทำให้ระบบการขายของเสริมสุขเป็นต้นแบบให้กับเป๊ปซี่ในตลาดเอเชีย และยังได้รับรางวัล “แหวนแห่งเกียรติยศ” Ring of Honor ในฐานะทำให้เสริมสุขเป็นผู้ผลิตและจำหน่ายผลิตภัณฑ์ของเป๊ปซี่ที่มียอดขายดีเด่นใน ปี 2543 อีกด้วย นอกจากนี้ ยังเป็นหัวเรือใหญ่ของกลุ่มผลิตภัณฑ์เครื่องดื่มชูกำลัง และทำให้คาราบาวแดงขึ้นเป็นเครื่องดื่มชูกำลังอันดับ 2 ในตลาดด้วยระยะเวลาเพียง 5 ปี

ด้วยประสบการณ์และความสำเร็จในการบริหารงานของทั้ง 2 ผู้บริหาร จะสามารถเป็นกำลังสำคัญผลักดันให้เสริมสุขสามารถรองรับการแข่งขันของตลาดและขยายตัวของบริษัทต่อไป