DRT มั่นใจรายได้ปีนี้โตอีก 10% หลังปี 50 กำไรกว่า 393 ล้านบาท

“กระเบื้องหลังคาตราเพชร” เผยกำไรปี 50 กว่า 393 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีก่อน 25% พร้อมประกาศจ่ายปันผลครั้งที่ 2 ในรอบปีอีก 0.18 บาท/หุ้น รวมทั้งปีจ่าย 0.30 บาท/หุ้น จากปี 2549 ที่จ่ายเงินปันผล 0.22 บาท/หุ้น ผู้บริหารระบุพอใจผลงาน ตั้งเป้ารายได้ปีโตอีก 10% มั่นใจการส่งออกโตไม่ต่ำกว่า 10% พร้อมเดินหน้าตลาดเชิงรุก เน้นตลาดบ้านโครงการมากขึ้น หลังประเมินสถานการณ์การเมืองมีความชัดเจน ส่งผลให้ธุรกิจอสังหาฯ กลับมาฟื้นตัว

นายอัศนี ชันทอง กรรมการผู้จัดการ บริษัท กระเบื้องหลังคาตราเพชร จำกัด (มหาชน) หรือ “DRT” ผู้ผลิตและจำหน่าย ผลิตภัณฑ์หลังคารุ่นเจียระไน รุ่นอดามัส และ รุ่น CT เพชร ผลิตภัณฑ์ไม้ฝาและไม้สังเคราะห์ ผลิตภัณฑ์แผ่นบอร์ด รวมถึงอุปกรณ์ประกอบหลังคา และบริการหลังการขาย ภายใต้ตราสินค้า “ตราเพชร” เปิดเผยถึงผลการดำเนินงานปี 2550 ว่า บริษัทฯ มีกำไรสุทธิ 393 ล้านบาท คิดเป็นกำไรต่อหุ้น 0.39 บาท ซึ่งถือว่าเป็นอัตรากำไรที่น่าพอใจ แม้ว่าจะมีผลกระทบหลายด้านไม่ว่าจะเป็นเรื่องของราคาน้ำมันที่ปรับตัวสูงมาอย่างต่อเนื่อง รวมถึงความไม่แน่นอนด้านการเมือง แต่บริษัทฯ ก็ยังรักษาการเติบโตเป็นไปตามเป้า โดยกำไรที่เพิ่มมากขึ้นมาจากการที่บริษัทฯ ได้ขยายฐานลูกค้าในตลาดต่างประเทศ และตลาดโครงการตามแผนงานที่วางไว้
ทั้งนี้ ในด้านของรายได้จากการขายปี 2550 สามารถทำได้ 2,591 ล้านบาท ซึ่งสูงกว่าปี 2549 ที่ทำได้ 2,409 ล้านบาท คิดเป็นเพิ่มขึ้น 182 ล้านบาท หรือ 8% ส่งผลให้บริษัทฯ มีผลกำไรสุทธิ 393 ล้านบาท หรือคิดเป็นกำไรสุทธิต่อหุ้น 0.39 บาท
“จากกำไรสุทธิต่อหุ้น 0.39 บาท เมื่อเทียบกับราคาหุ้นในตลาดปัจจุบัน (ราคาตลาด ณ วันที่ 22 กุมภาพันธ์ 2551 เท่ากับ 2.90 บาท) จะมีค่า P/E เท่ากับ 7.44 เท่า ขณะที่หนี้สินต่อส่วนของผู้ถือหุ้นอยู่ที่ระดับเพียง 0.25 เท่า ซึ่งเกือบทั้งหมดเป็นหนี้สินหมุนเวียน และมีสินทรัพย์หมุนเวียนสูงกว่าหนี้สินหมุนเวียนถึง 2.16 เท่า ซึ่งแสดงถึงสภาพคล่องของบริษัทฯ ที่สูงมาก” นายอัศนีกล่าว
กรรมการผู้จัดการ DRT ยังกล่าวด้วยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัท เมื่อวันที่ 25 กุมภาพันธ์ 2551 ยังได้มีมติในการจ่ายเงินปันผลระหว่างกาลงวดครึ่งปีหลังในอัตราหุ้นละ 0.18 บาท โดยจะปิดทะเบียนพักการโอนหุ้นเพื่อกำหนดสิทธิการรับเงินปันผลในวันที่ 19 มีนาคม 2551 ทั้งนี้ จะนำเสนอต่อที่ประชุมสามัญผู้ถือหุ้นเพื่อขออนุมัติต่อไป

“ในช่วงครึ่งปีแรกบริษัทฯ ได้จ่ายเงินปันผลระหว่างกาลไปแล้ว 0.12 บาทต่อหุ้น ครึ่งปีหลังจ่ายอีก 0.18 บาทต่อหุ้น รวมเป็นการจ่ายปันผลในอัตรา 0.30 บาทต่อหุ้นในรอบปีที่ผ่านมา ถ้าเปรียบเทียบกับราคาหุ้นในปัจจุบันคิดเป็นอัตราผลตอบแทนสูงถึงกว่า 10.3% ซึ่งถือเป็นการตอบแทนผู้ถือหุ้นของบริษัทฯ”นายอัศนี กล่าว

สำหรับแผนงานในปีนี้ของ DRT จะแบ่งออกเป็น 4 ส่วนหลักๆได้แก่ 1.เตรียมที่จะขยายตลาดต่างประเทศเพิ่มขึ้น โดยมีเป้าหมายเพิ่มสัดส่วนการส่งออกเป็น 15% 2. รุกตลาดโครงการมากขึ้น ซึ่งบริษัทฯ มีผลิตภัณฑ์ในกลุ่มเจียระไน ที่จะตอบสนองความต้องการของกลุ่มดังกล่าวได้เป็นอย่างดี 3. เปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ และเสริมบริการพิเศษ เพื่อเป็นทางเลือกของลูกค้าด้วย โดยเฉพาะสินค้าในกลุ่มเจียระไน และในกลุ่มแผ่นไฟเบอร์ซีเมนต์ และ 4. ทำกิจกรรมคืนกำไรให้สังคม โดยจะเน้นเรื่องของการประกวดออกแบบผลงานความคิดสร้างสรรค์

กรรมการผู้จัดการ DRT กล่าวเพิ่มเติมว่า ในปีนี้ บริษัทฯ ตั้งเป้ารายได้โต 10% โดยรายได้จะมาจากการขายกระเบื้องคอนกรีต เนื่องจากในปีนี้ DRT จะรุกตลาดบ้านโครงการมากขึ้น เพราะรัฐบาลมีนโยบายที่ชัดเจนในโครงการเมกะโปรเจคท์ โดยเฉพาะการก่อสร้างรถไฟฟ้าทั้ง 9 เส้นทาง ทำให้ผู้ประกอบการอสังหาริมทรัพย์ ที่มีที่ดินตามแนวรถไฟฟ้า จะเริ่มกลับมาลงทุนก่อสร้างทันที นับเป็นจังหวะที่ดีที่ DRT จะเข้าไปทำตลาด เพราะบริษัทฯ ก็มีผลิตภัณฑ์รองรับตลาดนี้อยู่แล้ว

ทั้งนี้ สินค้าและบริการของ DRT แบ่งออกเป็น 5 ประเภทหลัก ประกอบด้วย กระเบื้องไฟเบอร์ซีเมนต์ (Fiber Cement Tile), กระเบื้องคอนกรีต (Concrete Tile), ไม้ฝาและไม้สังเคราะห์ (Siding Board), อุปกรณ์ประกอบหลังคา (Accessories), และบริการหลังการขาย (Technical Service)

ด้านนายสาธิต สุดบรรทัด รองกรรมการผู้จัดการสายการขายและการตลาด DRT กล่าวว่า บริษัทฯ มุ่งเน้นที่จะผลักดันกระเบื้องคอนกรีต ตราอดามัส และตราเพชร รวมทั้งผลิตภัณฑ์ในกลุ่มเจียระไนทั้งหมด ให้เป็นที่รู้จักมากขึ้น นอกจากการจำหน่ายสินค้าผ่านตัวแทนจำหน่ายกว่า 600 รายทั่วประเทศแล้ว ยังมีแผนที่จะผลักดันสินค้าเข้าสู่กลุ่มงานโครงการต่างๆ รวมถึงภาคการส่งออกที่จะขยายตัวขึ้นอย่างต่อเนื่อง ถือเป็นการการันตีคุณภาพสินค้าของบริษัทฯ สร้างความมั่นใจให้กับผู้บริโภคอีกทางหนึ่ง

“บริษัทฯ ตั้งเป้าที่จะขยายตลาดโครงการเพิ่มขึ้นกว่า 50% ซึ่งคิดเป็น 8% ต่อสัดส่วนรายได้เป้าหมายในปี 2551 โดยเพิ่มขึ้นจาก 5.5% ในปี 2550 ซึ่งเชื่อว่าในปีนี้ตลาดโครงการจะโตเท่าตัว และเพิ่มยอดขายได้อีกประมาณ 100 ล้านบาท ซึ่งที่ผ่านมาเราก็ได้รับความไว้วางใจในการใช้ผลิตภัณฑ์ของบริษัทฯ ในโครงการต่างๆมากมาย เช่นโครงการคาซ่าวิลล์ ในเครือ บมจ. ควอลิตี้ เฮ้าส์ จำนวนทั้งสิ้น 1,400 – 1,500 หลัง คิดเป็นมูลค่าโครงการรวมทั้งสิ้นประมาณ 40 – 50 ล้านบาท นอกจากนี้ยังมีโครงการบ้านพฤกษา,โครงการบ้านศุภาลัย รวมทั้งโครงการบ้านเอื้ออาทร อีกด้วย” นายสาธิต กล่าว

ปัจจุบันบริษัทฯ ใช้กำลังการผลิตที่มีอยู่เกือบ 100% ของทุกสายการผลิต โดยได้ดำเนินการผลิตกระเบื้องไฟเบอร์ซีเมนต์ 3 แสนตันต่อปี กระเบื้องคอนกรีต 2 แสนตันต่อปี และล่าสุดการลงทุนเพิ่มสายการผลิตที่ 9 เพื่อผลิตไม้ฝาโดยใช้เทคโนโลยีใหม่ ที่ปราศจากใยหิน ซึ่งหากก่อสร้างแล้วเสร็จ จะสามารถเพิ่มกำลังการผลิตได้อีก 6 หมื่นตันต่อปี ทั้งนี้ สัดส่วนรายได้ ของ DRT นั้น รายได้หลักยังคงเป็นกระเบื้องไฟเบอร์ซีเมนต์ ที่มีสัดส่วนรายได้ประมาณ 65 % กระเบื้องคอนกรีต 10 % ไม้ฝา 15 % ผลิตภัณฑ์ในกลุ่มเจียระไน 5% และอุปกรณ์ประกอบหลังคา 5%

“ในปี 2551 บริษัทฯ มุ่งเน้นการทำงานเป็นทีม รวมทั้งการพัฒนาด้านกระบวนการผลิตให้มีต้นทุนที่ต่ำ สามารถแข่งขันได้ และยังมีเป้าหมายไปในทิศทางเดิมและให้ความสำคัญกับการหาช่องทางจัดจำหน่ายใหม่ๆ ทั้งในและต่างประเทศเพื่อเป็นพันธมิตรทางธุรกิจ และก้าวไปสู่ความสำเร็จด้วยกัน” นายสาธิต กล่าวทิ้งท้าย

บริษัทกระเบื้องหลังคาตราเพชร จำกัด (มหาชน )หรือ DRT ผู้ผลิตและจำหน่ายกระเบื้องหลังคา ไม้ฝา ไม้สังเคราะห์ แผ่นบอร์ด รวมถึงอุปกรณ์ประกอบหลังคา ภายใต้เครื่องหมายการค้าตราเพชร รุ่นเจียระไน รุ่นอดามัส และ รุ่น CT เพชร มีประสบการณ์ยาวนานในธุรกิจกว่า 20 ปี มีเทคโนโลยีการผลิตที่ทันสมัย ที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม และได้รับการรับรองระบบคุณภาพมาตรฐาน ISO 9001:2000 รวมถึงได้รับเครื่องหมายมาตรฐานอุตสาหกรรม (มอก.) จากสำนักงานมาตรฐานอุตสาหกรรม กระทรวงอุตสาหกรรม ตลอดจนได้รับตราสัญลักษณ์ Thailand’s Brand จากกรมส่งเสริมการส่งออก ซึ่งเป็นเครื่องยืนยันถึงคุณภาพสินค้า ตลอดจนมีการบริหารจัดการภายในโรงงานที่มีประสิทธิภาพ ภายใต้วิสัยทัศน์องค์กรที่ว่า “เป็นทางเลือกที่ดีกว่าของลูกค้า”