โฟร์พัฒนา ตีปีกรับมาตรการกระตุ้นอสังหาฯ ฟันธงบ้านราคาไม่เกิน 5 ล้านรับผลดีสุด

โฟร์พัฒนาฯ หนุนนโยบายกระตุ้นอสังหาฯ ชี้กำลังซื้อตลาดรับสร้างบ้านเพิ่มขึ้นแน่นอน โดยเฉพาะบ้านในกลุ่ม 1-3 ล้านบาท และ 3-5 ล้านบาท ที่กว่า 50% ใช้สินเชื่อกับสถาบันการเงิน คาดส่งผลผู้บริโภคตัดสินใจง่ายขึ้น เผยฐานลูกค้าบริษัทฯ กลุ่ม 4-5 ล้านบาทเพิ่มขึ้นจากเดิมแน่นอน มั่นใจ ไตรมาส 2 ตลาดรับสร้างบ้านคึกคัก

นายปราโมทย์ ธีรกุล กรรมการผู้จัดการ บริษัท โฟร์พัฒนา จำกัด เปิดเผยว่า จากมติคณะรัฐมนตรี ที่เห็นชอบตามที่ กระทรวงมหาดไทย และกระทรวงการคลังเสนอให้มีการลดค่าธรรมเนียมการโอน และจดจำนองอสังหาริมทรัพย์จาก 2% และ 1% ให้เหลือเพียง 0.01% สำหรับอสังหาริมทรัพย์ที่มีเนื้อที่ไม่เกิน 1 ไร่ และไม่ได้อยู่ภายใต้กฎหมายการจัดสรรที่ดิน โดยมาตรการดังกล่าวถือว่าส่งผลดีต่อบริษัทรับสร้างบ้านโดยตรง เนื่องจากมติดังกล่าวจะสามารถช่วยกระตุ้นกำลังซื้อในตลาดรับสร้างบ้านให้เพิ่มมากขึ้น โดยเฉพาะบ้านกลุ่มระดับราคาไม่เกิน 5 ล้านบาทที่ปัจจุบันส่วนใหญ่จะใช้สินเชื่อกับสถาบันการเงิน

ที่ผ่านมาจากตัวเลขของ สมาคมธุรกิจรับสร้างบ้าน ระบุว่า บ้านระดับราคา 1-3 ล้านบาท ถือเป็นกลุ่ม ที่มีตลาดใหญ่ที่สุดคือประมาณ 50% ของมูลค่ารวมตลาดรับสร้างบ้าน ขณะที่การขอสินเชื่อสูงสุดจะอยู่ในกลุ่มบ้านราคาต่ำกว่า 1 ล้านบาท 80% บ้าน 1-3 ล้านบาท 70% กลุ่ม 3-5 ล้านบาท 50% ขณะที่กลุ่มบ้านระดับราคา 5-10 ล้านบาท และ กลุ่ม10 ล้านบาทขึ้นไปจะมีการขอสินเชื่อในสัดส่วน 15 และ 10% ตามลำดับ ซึ่งการลดค่าธรรมเนียมการจดจำนองในครั้งนี้คาดว่าจะมีส่วนทำให้ผู้บริโภคกลุ่มต่างๆ ขอสินเชื่อกับสถาบันการเงินเพิ่มมากขึ้นโดยเฉพาะกลุ่มหลัก ๆ 1-3 กลุ่มแรกที่จะสามารถเป็นเจ้าของบ้านได้ง่ายขึ้น ขณะเดียวกันจะส่งผลให้การตัดสินใจของผู้บริโภคง่ายขึ้นด้วย

“ตลาดรับสร้างบ้านในปัจจุบันการขอสินเชื่อยังถือว่าไม่มาก เนื่องจากผู้บริโภคกลุ่มนี้มีเงินออมสูง อย่างบ้านราคา 5 –10 ล้านบาท และบ้านราคา10 ล้านบาทขึ้นไป การขอสินเชื่อจะน้อยมาก แต่หากค่าธรรมเนียมการจดจำนองลดลง คาดว่าพฤติกรรมผู้บริโภคน่าจะเปลี่ยนไป ขณะเดียวกัน บ้านในกลุ่มราคา 1-3 ล้านบาท และ 3-5 ล้านบาท จะเติบโตเพิ่มขึ้นอย่างแน่นอน” นายปราโมทย์ กล่าว

นายปราโมทย์ กล่าวต่อไปว่า สำหรับในส่วนของบริษัทโฟร์พัฒนาฯ ในปัจจุบันกลุ่มลูกค้าเป้าหมายจะเป็นบ้านราคา 5-10 ล้านบาทมากที่สุดคือประมาณ 61% โดยในส่วนของบ้านราคา 5-10 ล้านบาทนี้ มี 12% ที่เป็นบ้านราคา 4-5 ล้านบาท ซึ่งกลุ่มนี้น่าจะได้รับผลจากมาตรการของรัฐบาลมากที่สุด และคาดว่าจะมีสัดส่วนที่เพิ่มขึ้นอย่างแน่นอน ขณะเดียวกันในส่วนของบริษัทย่อยอย่าง บริษัท โฟร์ ดีเวลลอปเฮ้าส์ จำกัด ซึ่งรับสร้างบ้านระดับราคา 3-5 ล้านบาท ก็คาดว่าจะได้รับผลดีจากมาตรการดังกล่าวด้วยเช่นกัน เนื่องจากลูกค้ากลุ่มนี้มีสัดส่วนการขอสินเชื่อในอัตราที่สูงกว่ากลุ่มอื่น ๆ โดยมาตรการดังกล่าวคาดว่าจะทำให้ยอดขายของบริษัทฯ และบริษัทรับสร้างบ้านอื่น ๆ เติบโตขึ้นตั้งแต่ในช่วงไตรมาสที่ 2 ของปี 2551 เป็นต้นไป และยังจะส่งผลดีต่อภาพรวมของธุรกิจรับสร้างบ้าน ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ และเศรษฐกิจของประเทศด้วย เนื่องจากสถาบันการเงินจะสามารถปล่อยสินเชื่อได้เพิ่มขี้น ขณะที่กลุ่มผู้ผลิตวัสดุก่อสร้าง ก็น่าจะสามารถทำยอดขายได้เพิ่มขึ้นด้วยเช่นกัน