นายนพชัย วีระมาน กรรมการผู้จัดการ บริษัท มาสเตอร์คูล อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด ผู้นำด้านธุรกิจทำความเย็นภายนอกอาคารภายใต้แบรนด์ “มาสเตอร์คูล” ซึ่งเป็นที่ยอมรับไปทั่วโลก เปิดเผยถึงการดำเนินธุรกิจที่ผ่านมาว่า ตลอดระยะเวลา 5 ปี ที่มาสเตอร์คูลได้เข้าบุกเบิกตลาดสินค้าทำความเย็นภายนอกอาคาร เราประสบความสำเร็จตามเป้าที่ตั้งไว้อย่างต่อเนื่อง ล่าสุดในปี 2550 มาสเตอร์คูลสามารถสร้างยอดขายได้รวม 130 ล้านบาท ซึ่งเป็นไปตามเป้าหมาย และในปีนี้ มาสเตอร์คูลมุ่งเน้นที่จะสานต่อความสำเร็จในตลาดภายในประเทศ รวมทั้งขยายธุรกิจไปสู่ต่างประเทศในแถบตะวันออกกลางและยุโรปให้มากขึ้น โดยในปี 2551 ตั้งเป้ายอดขายไว้ที่ 180 ล้านบาท หรือเติบโตขึ้น 38%
เดินหน้าอัดกิจกรรมส่งเสริมการขายในพื้นที่ชุมชนตลอดปี
มาสเตอร์คูล เดินหน้าจัดแคมเปญส่งเสริมการขายอย่างหนักตลอดช่วงหน้าร้อนและเรื่อยไปจนถึงปลายปี โดยได้เข้าไปจัดพื้นที่ขายบริเวณด้านหน้าห้างสรรพสินค้าชั้นนำ อาทิ โรบินสัน แม็คโคร โฮมโปร และร้านฮาร์แวร์เฮ้าส์ต่างๆ ซึ่งผลตอบรับจากหน้าห้างมีมูลค่าสูงถึง 10 ล้านบาทต่อปี อีกทั้งยังสามารถสร้างแบรนด์มาสเตอร์คูล ให้เป็นที่รู้จักกว้างขวางยิ่งขึ้น เพราะลูกค้าสามารถสัมผัสกับไอหมอกได้จริงก่อนการตัดสินใจซื้อ
ภาวะโลกร้อน โอกาสในการเติบโตของสินค้าทำความเย็นภายนอกอาคาร
ปัจจุบันธุรกิจทำความเย็นภายนอกอาคารถือเป็นธุรกิจที่มีการเติบโตสูงมากมาโดยตลอด 5 ปีนับตั้งแต่ที่ มาสเตอร์คูล เริ่มบุกเบิกตลาดนี้ ผู้บริโภครู้จักและยอมรับสินค้าดังกล่าวอย่างแพร่หลาย และเป็นทางเลือกในการแก้ปัญหาอากาศร้อนมากขึ้น แนวโน้มอนาคตของธุรกิจนี้ คาดว่าจะมีอัตราการเติบโตที่สูงอย่างต่อเนื่อง ด้วยปัจจัยหลายประการ เช่น ปัญหาภาวะโลกร้อน อากาศร้อนขึ้นทุกปี เครื่องปรับอากาศมีส่วนในการสร้างมลภาวะมีการปล่อยสารเคมีที่สร้างปัญหากับชั้นบรรยากาศ และทำให้สภาพแวดล้อมภายนอกมีอุณหภูมิสูงขึ้น ค่าไฟฟ้าแพงขึ้นมาก ทำให้คนเริ่มมองหาทางเลือกที่ช่วยแก้ปัญหาอากาศร้อนได้โดยประหยัดพลังงาน และ ไม่สร้างปัญหาด้านมลภาวะกับสิ่งแวดล้อม
มาสเตอร์คูลกับแผนการรุกตลาดในปี 2551
การเติบโตอย่างมั่นคงในพื้นที่ส่วนกลาง คือ กรุงเทพฯ และปริมณฑล
มาสเตอร์คูล ประสบความสำเร็จอย่างมากกับการครองความเป็นเจ้าตลาดสินค้าทำความเย็นภายนอกอาคาร ในเขต กรุงเทพฯ และปริมณฑล โดยมีการวางกลยุทธ์ทางการตลาดที่ดีและเหมาะสม ส่งผลให้มียอดขายต่อเนื่องมากขึ้นทุกๆ ปี สูตรความสำเร็จคือ การสร้างทีมขายให้มีความแข็งแรง เข้าใจความต้องการลูกค้าที่มีต่อผลิตภัณฑ์ ด้านการรับรู้ก็เกิดขึ้นและมีการยอมรับสินค้าพัดลมไอน้ำจากผู้บริโภคมากขึ้น ด้านเศรฐกิจที่ชะลอตัวก็เป็นส่วนหนึ่งในการตัดสินใจของแผนการตลาดที่ไม่มุ่งเน้นกระตุ้นตลาดโดยโฆษณาเหมือนทุกๆ ครั้งแต่ใช้วิธีนำเสนอข้อมูลถึงยังลูกค้าโดยตรง ผ่านทางพนักงานขาย จุดติดตั้งสินค้า และ www.masterkool.com ตลอดจนกิจกรรมในห้างสรรพสินค้าขนาดใหญ่ เป็นต้น
มุ่งเน้นการสร้างความแข็งแกร่งให้กับตัวแทนจำหน่ายมาสเตอร์คูลในต่างจังหวัด
มาสเตอร์คูล มองเห็นศักยภาพของตัวแทนจำหน่ายที่มีผลต่อการขายดูได้จากตัวเลขที่เพิ่มขึ้นทุกๆ ปี ในปีนี้มาสเตอร์คูล มีนโยบายสนับสนุนตัวแทนจำหน่ายที่สร้างยอดขายอย่างต่อเนื่องในด้านต่างๆ เช่น ช่วยปรับปรุง ตกแต่งหน้าร้าน, ปรับระบบดูแลตัวแทนจำหน่ายเป็นภาค เพื่อความใกล้ชิดและชัดเจนในการตลาด รวมถึงเข้าไปช่วยวิเคราะห์กลุ่มลูกค้าในพื้นที่ อบรมพนักขาย และนำระบบขั้นตอนบริการจากส่วนกลางเข้ามาใช้ในมาตรฐานเดียวกัน การสนับสนุนสื่อต่างๆ ก็จะเป็นไปตามพื้นที่เช่นกัน แต่สิ่งที่ต้องการให้เกิดขึ้นคือการขยายจุดแสดงสินค้าให้มากที่สุด เพื่อกระตุ้นความต้องการของผู้ใช้เหมือนกับการทำการตลาดในกรุงเทพฯ ที่ประสบความสำเร็จมาอย่างต่อเนื่อง
แนวทางในการพัฒนาบริการหลังการขายของ มาสเตอร์คูล
นโยบายของ มาสเตอร์คูล สำหรับตัวแทนจำหน่ายคือ ตัวแทนต้องมีหน้าร้านเพื่อโชว์สินค้า, มีพนักงานขายสินค้ามาสเตอร์คูลโดยเฉพาะ และ มีทีมบริการหลังการขายทุกสาขา โดยปัจจุบันได้นำมาตรฐานการบริการ วิธีต่างๆ ไปเผยแพร่และฝึกอบรมช่างบริการให้ตัวแทนทุกที่ รวมไปถึงตัวแทนจำหน่ายในต่างประเทศด้วยโดยการส่งเจ้าหน้าที่ฝ่ายการตลาดต่างประเทศและผู้เชี่ยวชาญด้านเทคนิคเข้าพบกับตัวแทนจำหน่ายและทีมงานบริการ โดยนำระบบต่างๆ ที่ทำอยู่ในปัจจุบัน อธิบายและทำให้เห็นพร้อมกับให้รายละเอียดต่างๆ ในวิธีการแก้ไข และบำรุงรักษา
มาสเตอร์คูลเดินหน้าสร้างความแข็งแกร่งให้กับตัวแทนจำหน่ายต่างประเทศ
คาดการณ์ยอดขายถีบตัวจาก 45 ล้านบาทในปี 50 สู่ 70 ล้านบาทในปี 51
ล่าสุด มาสเตอร์คูล ได้ขยายการลงทุนสู่แถบประเทศตะวันออกกลาง โดยเปิดสาขาอย่างเป็นทางการ ณ ประเทศดูไบ ในปี พ.ศ. 2550 และนับเป็นความสำเร็จอีกก้าวเพราะเพียงปีแรก มาสเตอร์คูลสามารถสร้างยอดขายได้สูงถึง 18 ล้านบาท และในปีนี้ ตั้งเป้ารายได้ไว้ที่ 50 ล้านบาท “มาสเตอร์คูลได้รับการยอมรับอย่างกว้างขวางในสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ซึ่งถือเป็นประเทศที่มีกำลังซื้อประกอบกับมีความเคลื่อนไหวด้านการลงทุนโครงการระดับเมกกะโปรเจคที่สูงมากขึ้นอย่างต่อเนื่อง การแนะนำสินค้าเข้าสู่ตลาดของมาสเตอร์คูลในครั้งนี้ ถือว่าเหมาะสมมากทั้งด้านเวลาและคุณสมบัติของสินค้า โดยเราได้จัดตั้งสาขาจำหน่ายและคลังสินค้าไว้เพื่อรองรับการขายและเพิ่มศักยภาพในการให้บริการในแถบประเทศตะวันออกกลาง ประกอบด้วย ซาอุดิอาระเบีย, คูเวต, การ์ต้า และโอมาน”
ก้าวต่อไปกับการรุกตลาดต่างประเทศของ มาสเตอร์คูล
กับบทบาทการเป็นผู้นำตลาดในแถบตะวันออกกลางและแอฟริกา
ที่ผ่านมา มาสเตอร์คูล ประสบความสำเร็จอย่างมากในการสร้างแบรนด์ให้เป็นที่รู้จักและยอมรับในฐานะความเป็นผู้นำด้านธุรกิจทำความเย็นภายนอกอาคาร ผ่านตัวแทนจำหน่ายของเราในประเทศแถบตะวันออกกลางและยุโรป ภายใต้การสนับสนุนทั้งด้านเทคนิคโดยการส่งผู้เชี่ยวชาญเข้าฝึกอบรมเพื่อสร้างความรู้ความเข้าใจที่ถูกต้องแก่ตัวแทนจำหน่าย รวมถึงให้คำปรึกษาด้านกลยุทธ์ทางการตลาดและการขาย เพื่อให้ตัวแทนเข้าใจถึงตลาดทำความเย็นภายนอกอาคารอย่างแท้จริง เพื่อให้ทุกประเทศที่เราเข้าไปขยายตลาดประสบผลสำเร็จเต็มร้อย โดยในปีที่ผ่านมา เราได้สร้างทีมที่แข็งแกร่งในหลากหลายประเทศ อาทิ ซูดาน, สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์, คูเวต และ การ์ต้า และในปีนี้ เราตั้งเป้าที่จะสร้างความแข็งแกร่งเพิ่มขึ้นในอีก 5 ประเทศ เพื่อสร้างให้ตัวแทนจำหน่ายในแต่ละประเทศมีมาตรฐานการบริการที่ทัดเทียมและเป็นไปในแนวทางเดียวกัน เพื่อนำไปสู่ความสำเร็จอย่างที่มาสเตอร์คูลประเทศไทยได้รับการยอมรับในปัจจุบัน
