เซิร์ฟเวอร์เบลด 2-in-1 จากเอชพีประกาศศักดาครั้งแรกของโลก เสริมพลังอันไร้ขีดกำจัดสำหรับการประมวลผลข้อมูลขนาดใหญ่

เอชพีประกาศเปิดตัวเซิร์ฟเวอร์เบลดแบบ 2-in-1 ตัวแรกของโลก ซึ่งสามารถเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของศูนย์ข้อมูล ในขณะที่ใช้พื้นที่และพลังงานน้อยลง สำหรับลูกค้าที่มีสภาพแวดล้อมการทำงานที่ต้องใช้การประมวลผลข้อมูลขนาดใหญ่

ธุรกิจที่ใช้ระบบการประมวลผลแบบคลาวด์คอมพิวติ้ง (Cloud Computing), เว็ป 2.0 และการประมวลผลทางคอมพิวเตอร์ชั้นสูง หรือ High Performance Computing (HPC) จะมีศูนย์ข้อมูลขนาดใหญ่ที่ประกอบไปด้วยเครื่องเซิร์ฟเวอร์จำนวนหลายร้อยถึงหลายพันเครื่อง ใช้สตอเรจที่มีความจุขนาดหลายเพทาไบต์(1) และต้องการประสิทธิภาพการทำงานสูงสุด สภาพแวดล้อมการประมวลผลข้อมูลขนาดใหญ่แบบสเกลเอาท์ (scale-out) เหล่านี้ต้องการประสิทธิภาพการทำงานที่เพิ่มมากขึ้น การลดการใช้พลังงาน ระบบระบายความร้อนที่ทำงานได้ดีขึ้น และต้องการใช้พื้นที่ของศูนย์ข้อมูลให้เกิดประโยชน์สูงสุด

เพื่อตอบสนองความต้องการดังกล่าว เซิร์ฟเวอร์ HP ProLiant BL2x220c G5 รวมเอาเซิร์ฟเวอร์จำนวน 2 ตัว เข้าไว้ในเบลดเพียงตัวเดียว ซึ่งจะช่วยทำให้ลูกค้าเพิ่มความสามารถในการประมวลผลได้เป็น 2 เท่า และกินพื้นที่น้อยลงมาก เซิร์ฟเวอร์รุ่นนี้จะให้ประสิทธิภาพการทำงานต่อวัตต์ที่สูงกว่าคอนฟิกกูเรชั่นที่คล้ายคลึงกันที่มีอยู่ในตลาดถึงร้อยละ 60(2) และช่วยลดค่าใช้จ่ายด้านพลังงานและระบบระบายความร้อน

เอชพีได้สร้างหน่วยธุรกิจที่เรียกว่า Scalable Computing and Infrastructure ขึ้นมา โดยมีทรัพยากร ความเชี่ยวชาญ และความสามารถในการพัฒนาผลิตภัณฑ์ เพื่อสร้างโซลูชั่นที่ออกแบบสำหรับลูกค้าที่ใช้สภาพแวดล้อมการประมวลผลข้อมูลขนาดใหญ่แบบสเกลเอาท์ (scale-out) โดยเฉพาะ เซิร์ฟเวอร์ HP ProLiant BL2x220c พร้อมกับผลิตภัณฑ์ HP StorageWorks 9100 Extreme Data Storage System (ExDS9100) ที่เพิ่งได้รับการเปิดตัวไปไม่นาน จะช่วยตอบสนองความต้องการของตลาดการประมวลผลแบบสเกลเอาท์ (scale-out) นี้ได้เป็นอย่างดี ผลิตภัณฑ์ ExDS9100 เป็นระบบสตอเรจที่สามารถปรับขยายการทำงานได้สูงมาก และถูกออกแบบมาเพื่อช่วยให้การจัดการข้อมูลขนาดหลายเพทาไบต์ทำได้ง่ายดายยิ่งขึ้น โดยอยู่ในระดับราคาที่สมเหตุสมผล จึงทำให้สตอเรจรุ่นใหม่นี้เป็นคำตอบที่สมบูรณ์แบบของธุรกิจสื่อแบบออนไลน์และดิจิตอล

มร.แอนโทนี่ แมคมาฮอน รองประธาน กลุ่มธุรกิจ Enterprise Servers and Storage ของเอชพี ประจำภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกและญี่ปุ่น กล่าวว่า “เอชพีเดินหน้าเพื่อช่วยให้ลูกค้าธุรกิจทุกขนาดสามารถจัดการและแปลงสภาพแวดล้อมทางเทคโนโลยีได้อย่างดีที่สุด ทั้งนี้เพื่อให้เกิดผลลัพธ์ทางธุรกิจที่ดีขึ้น ลูกค้าจากหลายๆ ภาคส่วนของธุรกิจที่ใช้เว็ป 2.0, การประมวลผลทางคอมพิวเตอร์ชั้นสูง หรือ High Performance Computing และระบบการประมวลผลแบบคลาวด์คอมพิวติ้ง (Cloud Computing) ที่กำลังเป็นที่นิยม กำลังมองหาข้อได้เปรียบทางการแข่งขันที่ระบบการประมวลผลแบบสเกลเอาท์ (scale-out) สามารถมอบให้ได้ เอชพีมีความมุ่งมั่นที่จะเป็นผู้เสริมพลังและประสิทธิภาพให้กับโครงสร้างพื้นฐานสำหรับการประมวลผลขนาดใหญ่นี้ ผ่านทางการสร้างสรรค์นวัตกรรมต่างๆ ทางด้านการเพิ่มความหนาแน่นของเซิร์ฟเวอร์ การประหยัดพลังงาน การจัดการระบบสตอเรจ และบริการต่างๆ สำหรับศูนย์ข้อมูล”

เอชพีมอบความเชี่ยวชาญหลักให้แก่ลูกค้าที่ใช้สภาพแวดล้อมการประมวลผลข้อมูลขนาดใหญ่แบบสเกลเอาท์ (scale-out) ซึ่งเป็นผลมาจากการออกแบบและการปรับปรุงศูนย์ข้อมูลที่มีขนาดพื้นที่มากกว่า 30 ล้านตารางฟุต และเพิ่มความสามารถด้วยการติดตั้งซูปเปอร์คอมพิวเตอร์จำนวน 166 ตัวจากจำนวนสูงสุด 500 ตัว ผลิตภัณฑ์ HP ProLiant BL2x220c ตัวใหม่นี้ช่วยขยายฟอร์ทโฟลิโอที่ได้รับการพิสูจน์แล้วของเอชพีทั้งในด้านฮาร์ดแวร์ ซอฟต์แวร์ และการบริการสำหรับตลาดการประมวลผลแบบสเกลเอาท์ (scale-out)

มร.เอียน เฮอร์ล๊อค-โจนส์ ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายข้อมูล ของบริษัท ฟ็อกซ์ อินเตอร์แอคทีฟ มีเดีย กล่าวว่า “ในฐานะแหล่งรวบรวมเว็บไซต์ชั้นนำของโลกเพื่อเชื่อมต่อเครือข่ายสังคมออนไลน์ เกมส์ ภาพการแข่งขันกีฬา และอื่นๆ อีกมากมาย บริษัท ฟ็อกซ์ อินเตอร์แอคทีฟ มีเดีย ทำให้ผู้คนนับล้านๆ คนทั่วโลกสามารถเข้าถึงข้อมูลและสามารถติดต่อผ่านสื่ออินเทอร์เน็ตได้ตลอด 24 ชั่วโมงต่อวันและเป็นเวลา 7 วันต่อสัปดาห์ ในแต่ละเดือนมีการเปิดเข้าชมเว็บไซต์หลายพันล้านหน้า มีภาพและวิดีโอจำนวนมากกว่าร้อยล้านชิ้นถูกบรรจุขึ้นแสดงบนเว็บไซต์และมีการเปิดชม ซึ่งตัวเลขดังกล่าวมีการเติบโตขึ้นเรื่อยๆ จึงเป็นการผลักดันขอบเขตโครงสร้างพื้นฐานของเราให้ขยายออกอย่างต่อเนื่อง สำหรับการที่จะสามารถตอบสนองความต้องการที่เติบโตขึ้นเหล่านี้ เราจำเป็นจะต้องมีแพลทฟอร์มที่มีประสิทธิภาพสูงซึ่งใช้พลังงานน้อยที่สุด รวมถึงมีความหนาแน่นและความจุสูง โดยทีมประมวลผลของเอชพีมีความเข้าใจในข้อกำหนดที่ไม่เหมือนใครของเราเป็นอย่างดี จึงได้นำเสนอแนวทางการใช้ระบบประมวลผลแบบคลาวด์คอมพิวติ้ง (Cloud Computing) ในลักษณะ end-to-end พร้อมด้วยโซลูชั่นส์การจัดเก็บข้อมูล ซึ่งเอื้อต่อการขยายระบบเพิ่มโดยไม่ยุ่งยากเมื่อธุรกิจของเราเติบโตขึ้น”

ผลิตภัณฑ์ HP ProLiant BL2x220c เป็นเบลดเซิร์ฟเวอร์เครื่องแรกของวงการไอทีที่เพิ่มความหนาแน่นมากขึ้นกว่า 3 เท่าของเซิร์ฟเวอร์ขนาดปกติ (1U) ด้วยนวัตกรรมใหม่ในด้านการออกแบบของเซิร์ฟเวอร์ตัวนี้ทำให้สามารถตอบสนองต่อข้อมูลที่เพิ่มขึ้นอย่างมหาศาลโดยเฉพาะ ซึ่งเป็นปัญหาที่บริษัทต่างๆ ที่ใช้ระบบประมวลผลแบบคลาวด์คอมพิวติ้ง (Cloud Computing), เว็ป 2.0 และการประมวลผลทางคอมพิวเตอร์ชั้นสูง (HPC) กำลังเผชิญอยู่ นอกจากนี้ ผลิตภัณฑ์เบลดเซิร์ฟเวอร์ใหม่ล่าสุดนี้ยังใช้เครื่องมือในการตั้งค่าระบบสำหรับการติดตั้งและการจัดการที่ได้รับรางวัลรับรองคุณภาพ ซึ่งช่วยลดค่าใช้จ่ายรวมถึงความเสี่ยงลงด้วย

มส. มิเชล ไบลีย์ รองประธานฝ่ายวิจัย ดาต้าเซ็นเตอร์ เทรนด์ โปรแกรม ของไอดีซี เปิดเผยว่า “อุตสาหกรรมไอทีกำลังมาถึงจุดเปลี่ยนเมื่อบริษัทต่างๆ มีความต้องการเทคโนโลยีการขยายระบบแบบสเกลเอาท์ (scale-out) ที่สามารถใช้ประโยชน์สูงสุดและมีประสิทธิภาพสูงขึ้น ซึ่งสามารถปรับปรุงรูปแบบการทำงานที่คุ้มค่าเพื่อศูนย์ข้อมูลของพวกเขาได้ การเติบโตของข้อมูลดิจิตอลกำลังเปลี่ยนแนวทางการปฏิบัติของศูนย์ข้อมูล โดยผลักดันให้องค์กรต่างๆ ขยายโครงสร้างพื้นฐานอย่างรวดเร็วเพื่อให้ทันกับความต้องการของผู้ใช้ ดังนั้น เพื่อให้สามารถตอบสนองต่อความท้าทายนี้ ลูกค้าต่างเลือกแนวทางที่ครบวงจรสำหรับการบริหารศูนย์ข้อมูลมากกว่าเมื่อก่อน คือต้องเปลี่ยนความคิดใหม่ทั้งหมดนับตั้งแต่ฮาร์ดแวร์ การบริการ และซอฟต์แวร์บริหารจัดการ ไปจนกระทั่งอุปกรณ์ใช้งานอื่นๆ รวมถึงข้อกำหนดเกี่ยวกับการระบายความร้อนและระบบพลังงาน การเปลี่ยนแปลงตั้งแต่พื้นฐานนี้แสดงให้เห็นถึงโอกาสที่ยิ่งใหญ่สำหรับบริษัทไอทีต่างๆ เช่น เอชพี ในการมอบโซลูชั่นต่างๆ ในการบริหารจัดการศูนย์ข้อมูลโดยรวม”

ข้อมูลเพิ่มเติม สามารถดูได้จาก www.hp.com/go/hpmassivescaleoutcomputing

ข้อมูลเกี่ยวกับเอชพี
เอชพีมุ่งมั่นสร้างสรรค์เทคโนโลยีที่ใช้งานง่าย สำหรับลูกค้าในทุกระดับ นับตั้งแต่ผู้บริโภคระดับคอนซูเมอร์ไปจนถึงองค์กรธุรกิจขนาดใหญ่ ด้วยสายผลิตภัณฑ์ซึ่งครอบคลุมถึงด้านโซลูชั่นภาพและการพิมพ์ คอมพิวเตอร์ส่วนบุคคล ซอฟต์แวร์ บริการ และโครงสร้างพื้นฐานด้านไอที ทำให้เอชพีเป็นหนึ่งในบริษัทด้านไอทีที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลก ณ วันที่ 30 เมษายน 2551 เอชพีมีรายได้รวมนับจาก 4 ไตรมาสทั้งสิ้น 110.4 พันล้านเหรียญสหรัฐ สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับเอชพี (NYSE, Nasdaq: HPQ) สามารถเข้าชมได้ที่ http://www.hp.com