เอมิเรตส์ สกายคาร์โก้ เพิ่มพื้นที่ขนส่งสินค้า และเครือข่ายการให้บริการครอบคลุมทั่วโลก

เอมิเรตส์ สกายคาร์โก้ ฝ่ายขนส่งสินค้าทางอากาศ ของสายการบิน เอมิเรตส์ที่ได้รับรางวัลต่าง ๆ มากมาย ประกาศเพิ่มบริการไปยังเส้นทางต่าง ๆ ทั่วโลก พร้อมทั้งเพิ่มพื้นที่การขนส่งในปี 2551 เพื่อตอบสนองความต้องการทางการขนส่งทางอากาศที่เพิ่มมากขึ้นในประเทศไทย

หลังจากการเปิดให้บริการเส้นทางใหม่สู่เมือง เคปทาวน์ ที่ได้รับผลตอบรับเป็นอย่างดี เอมิเรตส์ สกายคาร์โก้ วางแผนที่จะเปิดให้บริการเส้นทางขนส่งสินค้าเพิ่มขึ้นไปยังเมืองกวางโจว ประเทศจีน และเมืองคาลิคัต ประเทศอินเดีย ในวันที่ 1 กรกฎาคมนี้ เมืองลอสแองเจลิสวันที่ 1 กันยายนนี้ เมือง ซานฟรานซิสโกวันที่ 26 ตุลาคมนี้ และเมืองเดอร์บันในแอฟริกาใต้ในวันที่ 1 ธันวาคมนี้
การเปิดเส้นทางใหม่จะช่วยเพิ่มโอกาสทางธุรกิจให้แก่บริษัทในไทย อีกทั้งยังคาดว่าจะช่วยเพิ่มปริมาณสินค้าส่งออกให้สูงขึ้น เส้นทางใหม่ดังกล่าวยังเพิ่มโอกาสในการเป็นแหล่งใหม่ที่ลูกค้าในประเทศไทยสามารถสั่งนำเข้าสินค้ามาภายในประเทศ

นอกจากการขยายเส้นทางการให้บริการแล้ว เอมิเรตส์ สกายคาร์โก้ ยังเพิ่มพื้นที่ในการขนส่งสำหรับเส้นทางที่ให้บริการในปัจจุบันอีกด้วย ทั้งนี้เพื่อตอบสนองความต้องการด้านการส่งออกที่เพิ่มสูงขึ้น โดยเพิ่มพื้นที่สำหรับการขนส่งอีก 30 ตันต่อสัปดาห์ในเส้นทางกรุงเทพฯ-ดูไบ ซึ่งให้บริการด้วยเครื่องบิน โบอิ้ง 777-300ER

ในวันที่ 1 กรกฎาคมนี้ เอมิเรตส์ สกายคาร์โก้จะเพิ่มความสะดวกให้แก่ลูกค้าด้วยเที่ยวบินที่ลดจำนวนจุดแวะพักลงจากประเทศไทยไปยังเมืองมิลาน และโรม โดยแวะพักที่ดูไบเท่านั้น ซึ่งการปรับเปลี่ยนดังกล่าวช่วยเพิ่มพื้นที่ในการขนส่งใต้ท้องเครื่องได้มากขึ้น สำหรับสินค้าจากเมืองไทยไปยังเมืองมิลาน และโรม อีกทั้งยังลดปริมาณการแบ่งปันพื้นที่ในการขนส่งร่วมกับเส้นทางอื่น

พื้นที่ขนส่งที่เพิ่มขึ้น จะช่วยสนับสนุนการขยายตัวของการส่งออก จากประเทศไทยไปยังประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์และประเทศอิตาลี จากสถิติของกรมการขนส่งทางอากาศ ในปี 2550 การขนส่งทางอากาศจากประเทศไทยไปยังประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์มีปริมาณ 8,860,732 กิโลกรัม เพิ่มขึ้นร้อยละ 36 จากปริมาณ 6,496,120 ในปีก่อนหน้า การขนส่งจากประเทศไทยไปประเทศอิตาลีก็เพิ่มปริมาณขึ้นเช่นกันในปี 2550 โดยเพิ่มขึ้นเป็น 6,659,191 กิโลกรัม หรือเพิ่มขึ้นร้อยละ 6 จากปีก่อนหน้า

สินค้าส่งออกจากประเทศไทยส่วนใหญ่ ประกอบด้วย ชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ ชิ้นส่วนคอมพิวเตอร์ อะไหล่รถยนต์ อาหารสด พืชผัก ผลไม้ และเครื่องนุ่งห่ม ในขณะที่สินค้านำเข้าสำคัญ ได้แก่ อะไหล่รถยนต์ ชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ วัตถุดิบ สิ่งทอ หินสังเคราะห์ ของใช้ส่วนบุคคล และอาหารทะเล

อนิรุทธิ์ ทรงสัตย์ ผู้จัดการฝ่ายขนส่งสินค้า ประจำประเทศไทย และอินโดจีน สายการบินเอมิเรตส์ เปิดเผยว่า “การเปิดเส้นทางใหม่ทั่วโลกนี้จะช่วยเอื้อหนุนให้ลูกค้าของเรามีโอกาสในการขยายธุรกิจไปยังภูมิภาคต่าง ๆ ทั่วโลก ในขณะเดียวกัน พื้นที่การขนส่งที่เพิ่มขึ้นในเส้นทางที่ได้รับความนิยมสูงอย่างดูไบและอิตาลี ก็ช่วยเพิ่มปริมาณสินค้าส่งออกให้ลูกค้าของเราด้วย”

อนิรุทธิ์ กล่าวเสริมว่า “การพัฒนาบริการดังกล่าวตอกย้ำอย่างเด่นชัดถึงความมุ่งมั่นของเราในการนำเสนอบริการที่ให้ความคุ้มค่า และคุณภาพสูง พร้อมทั้งความเป็นผู้นำด้านเทคโนโลยี ให้แก่ลูกค้าของเราในประเทศไทย”

เมื่อไม่นานมานี้ เอมิเรตส์ สกายคาร์โก้ ได้รับการคัดเลือกให้เป็น สายการบินที่ให้บริการการขนส่งทางอากาศยอดเยี่ยมแห่งภูมิภาคตะวันออกกลาง (Best Middle East Cargo Airline) ติดต่อกันเป็นปีที่ 20 จากนิตยสาร Air Cargo News

จากผลสำรวจด้านฝ่ายขนส่งทางอากาศของสายการบินยอดเยี่ยม (Air Cargo Excellence) ของ Air Cargo World เอมิเรตส์ สกายคาร์โก้ ได้รับการจัดอันดับให้เป็นหนึ่งในสามของฝ่ายขนส่งทางอากาศของสายการบินที่ดีที่สุด โดยได้คะแนนด้านความคุ้มค่าของบริการสูงสุด และคะแนนที่โดดเด่นด้านไอทีและประสิทธิภาพ

ในปีงบประมาณ 2550-2551 เอมิเรตส์ สกายคาร์โก้ ได้ขนส่งสินค้าจำนวน 1.3 ล้านตัน โดยเพิ่มขึ้นร้อยละ 10.9 จากปริมาณการขนส่ง 1.2 ล้านตันในปีก่อนหน้า คิดเป็นรายได้เพิ่มขึ้นร้อยละ 20 หรือรายได้รวมประมาณ 57,000,000,000 หมื่นล้านบาท (1.8 พันล้านเหรียญสหรัฐ) เพิ่มขึ้นจากรายได้ประมาณ 48,000,000,000 หมื่นล้านบาท (1.5 พันล้านเหรียญสหรัฐ) ในปี 2549-2550

ปัจจุบัน เอมิเรตส์ สกายคาร์โก้ ให้บริการในเครือข่ายทั่วโลกครอบคลุม 99 จุดหมายใน 62 ประเทศจาก 5 ทวีปทั่วโลก โดยให้บริการขนส่งสินค้าเพียงอย่างเดียวใน 10 จุดหมายปลายทาง เช่น ลิลองเว (มาลาวี) ,โกเตนท์เบิร์ก, อัมสเตอร์ดัม, บาร์เซโลนา, ไทเป, ดีบูติ, โตเลโด, ฮาน ซาลาโกซ่า และเอลโดเรต ฝูงบิน 116 ลำของเอมิเรตส์ประกอบไปด้วย เครื่องบินพาณิชย์ลำตัวกว้างจำนวน 10 ลำ และเครื่องบินขนส่งสินค้าจำนวน 10 ลำ (เครื่องบิน แอร์บัส 310-300F จำนวน 3 ลำ เครื่องบิน โบอิ้ง 747-400F จำนวน 4 ลำ และเครื่องบิน โบอิ้ง 747-400ERF จำนวน 3 ลำ)

จากประเทศไทย สายการบินเอมิเรตส์มีบริการเที่ยวบินสู่ดูไบ 19 เที่ยวบินต่อสัปดาห์ สู่ฮ่องกง 10 เที่ยวบินต่อสัปดาห์ สู่ซิดนีย์และโอ๊คแลนด์ 7 เที่ยวบินต่อสัปดาห์ ด้วยเครื่องบิน Boeing 777-300ER และ 777-300 ซึ่งสามารถบรรทุกสินค้าได้ระหว่าง 16.5 ถึง 23 ตัน