‘พีเจ้น’ สวนกระแสตลาดซบ โชว์ยอดขายครึ่งปีแรกโตแล้วกว่า 10%

มุ่งพัฒนามาร์เก็ตติ้ง ฉลองความสำเร็จด้วยยอดขาย พีเจ้น ครึ่งปีแรกเติบโตแล้วกว่า 10% ก่อนโชว์กลยุทธ์ครึ่งปีหลัง ทุ่มงบอีก 30 ล้านบาท หวังสร้างแบรนด์ผ่านการสื่อสารแบบครบเครื่อง พร้อมเดินหน้าขยายพอร์ตสินค้านำเข้า-สินค้านวัตกรรมเสริมทัพ เพื่อตอกย้ำภาพความเป็นผู้นำตลาดผลิตภัณฑ์เครื่องใช้สำหรับแม่และเด็กอย่างต่อเนื่อง ตั้งเป้าสิ้นปีโต 12%

นายนิรามัย ลักษณานันท์ รองประธานบริหารฝ่ายการตลาดและการขาย บริษัท มุ่งพัฒนามาร์เก็ตติ้ง จำกัด เปิดเผยว่า แม้ว่าในช่วงครึ่งแรกของปี 2551 ที่ผ่านมา ผู้บริโภคจะชะลอการใช้จ่ายซื้อสินค้าอุปโภคบริโภคลดลง เนื่องจากจะได้รับผลกระทบจากภาวะค่าครองชีพที่เพิ่มสูงขึ้น อย่างไรก็ตาม ภาพรวมของธุรกิจผลิตภัณฑ์สำหรับแม่และเด็กในช่วงครึ่งปีแรกของปี 2551 กลับมีแนวโน้มการเติบโตไปในทิศทางตรงกันข้าม โดยเฉพาะสินค้าในกลุ่มพรีเมียมของบริษัทในครึ่งปีแรกเติบโต 20% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา ซึ่งมีการใช้จ่ายต่อทารกเพิ่มขึ้น เนื่องจากคุณแม่ต้องการความสะดวกในการเลี้ยงดูลูกน้อย ส่งผลให้สินค้าของ พีเจ้น ที่กลุ่มลูกค้าเป้าหมายหลักเป็นกลุ่มในระดับพรีเมียม และมีการนำเสนอนวัตกรรมใหม่ๆ เพื่อให้สามารถรองรับกับทุกความต้องการของผู้บริโภคจึงไม่ได้รับผลกระทบมากนัก

โดยในช่วงครึ่งปีแรกของปี 2551 ที่ผ่านมา บริษัท มุ่งพัฒนามาร์เก็ตติ้ง จำกัด มียอดขายในแต่ละกลุ่มสินค้าเป็นไปตามเป้าหมายที่บริษัทวางไว้ทุกเซ็กเมนต์ เติบโตขึ้น 13% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา โดยยอดขายหลักมาจากกลุ่มสินค้านำเข้า, ผ้าเช็ดทำความสะอาดผิว พีเจ้น เบบี้ไวพส์ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง พีเจ้น เบบี้ไวพส์ มียอดขายเติบโตสูงสุดกว่า 60% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีที่แล้ว

“จากผลการดำเนินงานในช่วงครึ่งแรกของปี 2551 นี้ พีเจ้น ประสบความสำเร็จทางด้านยอดขายดีมาโดยตลอด และมียอดขายเกินเป้าหมายที่ตั้งไว้ ถึงแม้ภาพรวมของเศรษฐกิจโดยรวมจะยังไม่มีสภาพคล่องมากนัก แต่ภาพรวมของผลิตภัณฑ์สำหรับแม่และเด็กยังคงมีแนวโน้มการเติบโตอย่างต่อเนื่อง และเชื่อว่าจะไม่มีผลกระทบต่อกลุ่มลูกค้าเป้าหมายของพีเจ้นที่เป็นกลุ่มลูกค้าในระดับพรีเมียม ซึ่งผู้บริโภคสามารถมั่นใจในคุณภาพของผลิตภัณฑ์อย่างแน่นอน โดยกลยุทธ์การตลาดของพีเจ้นในปีนี้ จะเน้นช่องทางไปที่ตลาดต่างจังหวัดมากขึ้น ซึ่งถือเป็นปีที่ 2 แล้วที่บริษัทได้บุกตลาดดังกล่าว เนื่องจากอัตราเด็กแรกเกิดจะสูงกว่ากรุงเทพฯ คิดเป็นสัดส่วนกว่า 80% ขณะที่ในกรุงเทพฯ จะมีอัตราเด็กแรกเกิดเพียง 20% เท่านั้น” นายนิรามัย กล่าวเสริม

นายเมธิน เลอสุมิตรกุล ผู้จัดการฝ่ายการตลาด บริษัท มุ่งพัฒนามาร์เก็ตติ้ง จำกัด กล่าวว่า จากแผนการดำเนินงานของบริษัทฯ ที่ต้องการขยายช่องทางจำหน่ายไปในตลาดต่างจังหวัดต่อเนื่องเป็นปีที่ 2 ประกอบกับที่ผ่านมา บริษัทฯ ได้ดำเนินการสร้างการรับรู้และตอกย้ำความเชื่อมั่นในแบรนด์ “พีเจ้น” ผ่านทางกิจกรรมการตลาดรูปแบบต่างๆ กับกลุ่มเป้าหมายอย่างต่อเนื่อง และเพื่อตอกย้ำภาพความเป็นผู้นำในตลาดผลิตภัณฑ์สำหรับแม่และเด็กให้เป็นที่รู้จักในวงกว้างมากยิ่งขึ้น ล่าสุด บริษัทฯ ได้วางแผนดำเนินกลยุทธ์ในเชิงรุกเพื่อสร้างกลุ่มลูกค้าใหม่ในต่างจังหวัด โดยจัดสรรงบประมาณเพื่อจัดกิจกรรมเดินสายควบคู่กับการจัดโปรโมชั่นพิเศษ ณ จุดขาย โดยมีจุดประสงค์เพื่อกระตุ้นให้ผู้บริโภคกลุ่มเป้าหมายที่เป็นกลุ่มคุณแม่ที่เพิ่งตั้งครรภ์ หรือมีลูกคนแรกได้เกิดการทดลองใช้ เพื่อสร้างประสบการณ์และความสัมพันธ์กับผู้บริโภคโดยตรง

“จากพฤติกรรมของคนในต่างจังหวัดจะมีความแตกต่างกับคนในกรุงเทพฯ ทำให้ต้องปรับกลวิธีในการนำเสนอสินค้าและการสื่อสารทางการตลาดรูปแบบใหม่ เพื่อให้สามารถสื่อสารไปยังกลุ่มลูกค้าเป้าหมายได้ง่ายขึ้น โดยบริษัทได้จัดเตรียมงบประมาณในการให้ความรู้ควบคู่ไปกับการสื่อสารกว่า 30 ล้านบาท แบ่งเป็นงบประมาณสำหรับการโฆษณาประชาสัมพันธ์ผ่านสื่อแมสมีเดียต่างๆ 60% และงบประมาณสำหรับการจัดกิจกรรมพิเศษอีก 40% โดยบริษัทเชื่อมั่นว่าจะได้รับการตอบรับจากตลาดเป็นอย่างดี นอกจากนี้ พีเจ้น ซึ่งมีจุดเด่นอยู่ที่เป็นผู้เชี่ยวชาญด้านพัฒนาการของเด็กและทารกมาโดยตลอด บริษัทได้วางแผนเพิ่มปริมาณสินค้านำเข้าจากประเทศญี่ปุ่นอีกกว่า 20 เอสเคยู โดยเน้นผลิตภัณฑ์ที่เป็นสินค้านวัตกรรมใหม่ๆ เพื่อให้สามารถรองรับกับทุกความต้องการของผู้บริโภคได้ครอบคลุมมากยิ่งขึ้น” นายเมธิน กล่าวในท้ายที่สุด