เดกซ์ เปิดตัวลิขสิทธิ์ มาสค์ไรเดอร์ เวอร์ชั่นล่าสุด “คาบูโตะ” ครั้งแรกในเมืองไทย

นายวิเชียร หวังวีรวงศ์ ผู้จัดการทั่วไป บริษัท ดรีม เอกซ์เพรส (เดกซ์) จำกัด หนึ่งในผู้นำด้านธุรกิจลิขสิทธิ์คาแรกเตอร์และการ์ตูนชั้นนำของเมืองไทย เปิดเผยว่า ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมากระแสตอบรับต่อมาสค์ไรเดอร์ทุกเวอร์ชั่นในเมืองไทย ประกอบด้วย “มาสค์ไรเดอร์ ริวคิ”, “มาสค์ไรเดอร์ ไฟส์ (555)”, “มาสค์ไรเดอร์ เบลด”, “มาสค์ไรเดอร์ ฮิบิกิ” และเวอร์ชั่นล่าสุดในปัจจุบัน “มาสค์ไรเดอร์ คาบูโตะ” นับได้ว่าประสบความสำเร็จอย่างต่อเนื่อง ผ่านการวางกลยุทธ์ทางการตลาดและประชาสัมพันธ์ที่ตรงจุดและดำเนินงานอย่างจริงจังตลอด 5 ปีที่ผ่านมา ส่งผลให้ ซีรี่ส์ “มาสค์ไรเดอร์” ครองความเป็นหนึ่งในดวงใจของกลุ่มเป้าหมายตลอดมา และด้วยความสำเร็จดังกล่าว ทำให้บริษัทผู้ผลิตและจำหน่ายสินค้าอุปโภคบริโภคต่างๆ ได้ติดต่อขอซื้อลิขสิทธิ์คาแรกเตอร์ “มาสค์ไรเดอร์” เพื่อเพิ่มยอดขายและสนับสนุนแผนการตลาดอย่างได้ผล อาทิ เสื้อผ้า เครื่องเขียน กระเป๋า รองเท้า ขนม สมุดระบายสี และอื่นๆ โดยมีกลุ่มเป้าหมายหลักๆ คือ เด็ก อายุระหว่าง 5-12 ปี ซึ่งถือเป็นลุ่มแฟนคลับ “มาสค์ไรเดอร์” อย่างเหนียวแน่น รวมถึงแฟนคลับ “มาสค์ไรเดอร์” รุ่นใหญ่ที่ชื่นชอบมาตั้งแต่ยุคไอ้มดแดงมาถึงยุคปัจจุบันรวม 35 ปี

“คาแรกเตอร์ มาสค์ไรเดอร์ ถือเป็นตัวหลักในการสร้างรายได้ให้แก่ เดกซ์ โดยสามารถสร้างรายได้เพิ่มขึ้นกว่า 13% ในแต่ละปี โดยในปีนี้ เดกซ์ ได้เปิดตัวคาแรกเตอร์ใหม่ล่าสุด “มาส์กไรเดอร์ คาบูโตะ” ซึ่งมั่นใจว่าจะสามารถดันรายได้จากการขายลิขสิทธิ์ดังกล่าวได้เพิ่มขึ้นไม่น้อยกว่า 15% อย่างแน่นอน” ผู้จัดการทั่วไป บริษัท ดรีม เอกซ์เพรส (เดกซ์) จำกัด กล่าวแสดงความเชื่อมั่น

ทั้งนี้ “มาสค์ไรเดอร์ คาบูโตะ” (Masked Rider Kabuto) มีแนวความคิดในการออกแบบคาแรกเตอร์โดยดัดแปลงมาจาก “ด้วงกว่าง หรือเรียกว่า คาบูโตะ (ในภาษาญี่ปุ่น)” นับเป็นเรื่องที่โด่งดังมากขณะที่ฉายในประเทศญี่ปุ่น ส่งผลให้คาแรกเตอร์และของเล่นได้รับความนิยมอย่างสูงสุดเป็นประวัติการณ์ ด้วยความโดดเด่นด้านเนื้อเรื่องที่เข้าใจง่าย มีการแทรกมุขตลกเข้าไปในเรื่องอย่าแนบเนียน ด้วยบุคลิกตัวละครที่แหวกแนวอย่างไม่เคยพบเห็นมาก่อน อีกทั้งเทคนิคในการนำเสนอหรือการต่อสู้เหล่าร้าย ก็ดูมีสีสัน สร้างความตื่นเต้นมากกว่าภาคอื่นๆ ที่ผ่านมา

“เรามั่นใจว่า “มาสค์ไรเดอร์ คาบูโตะ” จะได้รับความสำเร็จดังเช่นที่ผ่านมาในประเทศญี่ปุ่น ประเทศไทยนับเป็นประเทศแรกที่ได้ฉาย มาสค์ไรเดอร์ เวอร์ชั่นนี้ ผ่านทางสถานีโทรทัศน์ช่อง 9 ช่วง 7.30 น. ของวันสุดสัปดาห์ โดย “เด็กซ์ได้วางกลยุทธ์การตลาดเต็มรูปแบบ เพื่อสร้างกระแสในกลุ่มแฟนคลับอย่างต่อเนื่อง อาทิ การเปิดจำหน่ายวีซีดีลิขสิทธิ์แท้ที่ควรคู่แก่การสะสม การจัดกิจกรรมโรดโชว์ยังพื้นที่เป้าหมาย ทั้งนี้ “เดกซ์” วางแผนจัดกิจกรรม และมีแคมเปญต่อเนื่องสำหรับกลุ่มเป้าหมาย ตั้งแต่บัดนี้จนถึงปีหน้า” นายวิเชียร หวังวีรวงศ์ กล่าว

เกี่ยวกับมุมมองต่อการเติบโตของธุรกิจลิขสิทธิ์การ์ตูนและคาแรกเตอร์ในเมืองไทยอีก 1-2 ปีข้างหน้านั้น นายวิเชียร หวังวีรวงศ์ กล่าวแสดงความเห็นเพิ่มเติมว่า “จากการก้าวกระโดดของเทคโนโลยีด้านการผลิตสื่ออนิเมชั่น ทำให้มีบริษัททำอนิเมชั่นเกิดขึ้นมากทั่วโลกในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา โดยเฉพาะคาแรกเตอร์จากผู้ผลิตในประเทศที่พัฒนาดีขึ้นมากๆ จนมีคุณภาพทัดเทียมระดับโลก และความหลากหลายของลิขสิทธิ์คาแรกเตอร์จากต่างประเทศโดยเฉพาะประเทศญีปุ่น ทำให้ตลาดลิขสิทธิ์น่าจะเติบโตขึ้นอย่างรวดเร็ว แต่ทั้งนี้ ขึ้นอยู่กับการดูแลการละเมิดลิขสิทธิ์ในสื่อต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นดีวีดี การดาวน์โหลดผ่านทางอินเตอร์เนต และอื่นๆ จากภาครัฐที่เกี่ยวข้องด้วย หากยังปล่อยให้มีการทำผิดกฎหมายได้ง่าย เช่น การนำงานอนิเมชั่นไปให้ดาวน์โหลดฟรีหรือการไม่จับกุมสินค้าละเมิดลิขสิทธิ์ต่อไปก็จะส่งผลต่อผู้พัฒนาคาแรกเตอร์ในประเทศได้ จึงอยากจะวอนภาครัฐให้ช่วยบรรเทาปัญหาดังกล่าวด้วย โดย เดกซ์ พร้อมให้การสนับสนุนในเรื่องดังกล่าวอย่างเต็มที่”

เมื่อสอบถามถึงทิศทางการดำเนินธุรกิจของ “เดกซ์” ในอนาคต นายวิเชียร หวังวีรวงศ์ กล่าวถึงประเด็นดังกล่าวว่า “เดกซ์ มีแผนขยายฐานลูกค้าใหม่ๆ ในกลุ่มสินค้าอุโภคและบริโภคต่างๆ ให้มากขึ้น ตลอดจนการวางระบบฐานข้อมูลด้านธุรกิจลิขสิทธิ์ในระดับสากลอย่างมีศักยภาพ เพื่อเป็นพื้นฐานในการรองรับการนำลิขสิทธิ์ของไทยไปเผยในระดับโลกในอนาคตอันใกล้ ปัจจุบันทั้งลูกค้าประจำและลูกค้ารายใหม่ๆ ในกลุ่มสินค้าเดิมและสินค้าใหม่ได้ให้ความสนใจและติดต่อเพื่อใช้ลิขสิทธิ์ “มาส์กไรเดอร์ คาบูโตะ” อย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้รายได้ในปี 2551 สูงขึ้นกว่าปีที่ผ่านมาอย่างน้อย 15-20% ซึ่งถือเป็นความสำเร็จร่วมกันระหว่างเราและกลุ่มผู้ซื้อลิขสิทธิ์”