ทีเอ็นทีสร้างทัพขนส่งสีเขียวทั่วโลก

ทีเอ็นที มีความพยายามมากขึ้นในการพัฒนาขบวนรถบรรทุกเพื่อการขนส่งรุ่นใหม่จำนวนกว่า 100 คัน ที่พร้อมเปิดให้บริการในประเทศอังกฤษ จีน และออสเตรเลีย เพื่อช่วยลดปริมาณการปล่อยสารคาร์บอนไดออกไซด์ออกสู่บรรยากาศโลก

ทีเอ็นที เอ็กซเพรส และบริษัทรถยนต์พลังงานไฟฟ้าที่มีชื่อว่าสมิธ (Smith Electric Vehicles) ร่วมเปิดตัวขบวนรถบรรทุกเพื่อการขนส่งพลังงานไฟฟ้าปลอดมลพิษขบวนใหญ่ที่สุดในโลก โดยขบวนรถบรรทุกขนส่งจำนวน 100 คันของทีเอ็นทีมีชื่อเรียกว่า ‘นิวตัน’ และจะขับเคลื่อนด้วยพลังงานจากแบตเตอรี่ โดยขบวนรถดังกล่าวจะเริ่มเปิดใช้บริการแทนที่รถบรรทุกดีเซลภายในระยะเวลา 18 เดือน ทั้งนี้ รถบรรทุกขนส่งขนาด 7.5 ตัน ของทีเอ็นที จะช่วยลดปริมาณการปล่อยสารคาร์บอนไดออกไซด์ออกสู่บรรยากาศในเมืองต่างๆ ทั่วประเทศอังกฤษได้มากถึง 1,299,000 กิโลกรัมต่อปี โดยรถบรรทุกจำนวน 50 คันแรก จะเปิดให้บริการขนส่งจากที่ตั้งของทีเอ็นทีในกรุงลอนดอน เบซิลดอน เบอร์มิงแฮม แบรดฟอร์ด บริสตอล เดอร์แฮม เอดินเบิร์ก เอ็นฟิลด์ กลาสโกว์ ลีดส์ เลสเตอร์ ลูตัน นอร์ธแฮมป์ตัน ออกฟอร์ด เพสลี เพรสตัน และวูลฟ์แฮมป์ตัน การร่วมมือกับบริษัท Smith Electric Vehicles ซึ่งเป็นผู้ผลิตรถยนต์ไฟฟ้าเชิงพาณิชย์ รายใหญ่ที่สุดของโลก จึงนับว่าเป็นการทดสอบประสิทธิภาพของขบวนรถรุ่นใหม่ในระยะเวลา 18 เดือน ในกรุงลอนดอน นอกจากนั้น ทีเอ็นทียังทำการศึกษาเพื่อที่จะใช้รถพลังงานไฟฟ้าในเมืองใหญ่ทุกเมืองทั่วทวีปยุโรปด้วยเช่นกัน

สำหรับในประเทศจีน ทีเอ็นทีได้ร่วมกับบริษัทดงเฟงมอเตอร์ (Dong Feng Motor) ซึ่งเป็นผู้ผลิตรถยนต์รายใหญ่ที่สุดในประเทศจีน รวมทั้งเป็นผู้ผลิตรถยนตร์พลังงานไฟฟ้า ได้เริ่มทดลองใช้รถตู้พลังงานไฟฟ้าจากแบตเตอรี่จำนวนสองคันสำหรับการขนส่งสินค้าในเมืองวูฮาน เมืองหลวงของมณฑลหูเป่ย ประเทศจีน การทดลองได้ใช้รถตู้พลังงานไฟฟ้าที่มีน้ำหนักเบาจำนวนสองคันซึ่งได้รับการออกแบบ ผลิต และประกอบในเมืองวูฮานโดยบริษัทดงเฟงมอเตอร์ นับเป็นการทดลองรถปลอดมลพิษครั้งแรกนอกทวีปยุโรปของทีเอ็นที โดยรถตู้สามารถวิ่งได้ที่ความเร็วสูงสุด 80 กิโลเมตรต่อชั่วโมง (50 ไมล์ต่อชั่วโมง) และวิ่งได้เป็นระยะทาง 160-200 กิโลเมตร (100-124 ไมล์) และสามารถบรรทุกน้ำหนักได้หนึ่งตัน

นอกจากนั้น ทีเอ็นที เอ็กซเพรส ในประเทศออสเตรเลีย ยังได้เริ่มใช้งานรถบรรทุกไฮบริดฮีโนจำนวน 10 คัน ซึ่งนับเป็นธุรกิจแรกในประเทศออสเตรเลียที่เริ่มใช้งานฝูงรถบรรทุกไฟฟ้า-ดีเซลไฮบริด แทนที่รถพลังงานน้ำมันทั่วไป ทั้งนี้ รถบรรทุกรุ่นใหม่ของทีเอ็นทีจะช่วยลดสภาวะเรือนกระจกของทีเอ็นทีโดยลดปริมาณการปล่อยสารคาร์บอนไดออกไซด์ลงเฉลี่ยประมาณ 1,600 กิโลกรัมต่อปี สำหรับรถหนึ่งคัน ซึ่งสามารถลดการปล่อยสารคาร์บอนไดออกไซด์ลงได้ถึงร้อยละ 14 และลดสารไนตรัสออกไซด์ลงได้ร้อยละ 50 เมื่อเปรียบเทียบกับรถบรรทุกดีเซลทั่วไปที่มีขนาดเท่ากัน

มร. ปีเตอร์ บาร์คเกอร์ ซีอีโอ บริษัท ทีเอ็นที กล่าวว่า “ทัพขนส่งสีเขียวนับว่าเป็นสิ่งที่สำคัญและจำเป็นอย่างยิ่ง เพื่อที่จะทำให้ทีเอ็นทีสามารถบรรลุเป้าหมายที่จะก้าวไปสู่การเป็นบริษัทจัดส่งพัสดุและไปรษณีย์รายแรกที่ไม่มีการปล่อยมลพิษ ในปัจจุบัน ทีเอ็นทีกำลังทำการปฏิรูปการดำเนินงานของบริษัทฯ เพื่อลดการเกิดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม อาทิเช่น สำนักงานและศูนย์กระจายสินค้า รวมถึงระบบการคัดแยกสินค้าและยานพาหนะสีเขียวที่จะช่วยลดปัญหาสิ่งแวดล้อม”

ข้อมูลเพิ่มเติม
รถบรรทุกพลังงานไฟฟ้าที่นำมาใช้ในประเทศอังกฤษ มีสมรรถนะที่เท่าเทียมกับรถดีเซล ขณะที่สามารถลดมลพิษการปล่อยคาร์บอนไดออกไซด์และมลพิษจากไอเสียรถยนต์ได้ 100% ณ จุดใช้รถยนต์ ด้วยต้นทุนเพียง 9 ยูโรเซนต์ต่อไมล์สำหรับค่าไฟฟ้า รถไฟฟ้าจึงช่วยประหยัดพลังงานได้เป็นอย่างมาก รถบรรทุกขนาด 7.5 ตันสามารถทำความเร็วสูงสุดได้ 80 กิโลเมตรต่อชั่วโมง และสามารถวิ่งได้ 210 กิโลเมตรต่อการชาร์จแบตเตอรีแต่ละครั้ง เป้าหมายหลักคือการแทนที่การใช้รถบรรทุกดีเซลที่วิ่งขนส่งโดยเฉพาะในเขตเมือง ซึ่งจะช่วยให้คุณภาพอากาศในเมืองดีขึ้นและช่วยลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก โดยเฉลี่ยต้นทุนการใช้งานรถปลอดมลพิษอยู่ที่ 50 ยูโรต่อสัปดาห์ ขณะที่รถดีเซลต้องเสียค่าน้ำมัน 300 ยูโรต่อสัปดาห์ รถไฟฟ้ายังได้รับการยกเว้นค่าธรรมเนียมการใช้รถยนต์ในที่จราจรคับคั่งในกรุงลอนดอนคิดเป็นประมาณ 2,225 ยูโรต่อปี และยังได้รับยกเว้นภาษีการใช้ถนนในประเทศอังกฤษ

ขับเคลื่อนโดยแบตเตอรีโซเดียมนิคเกิลคลอไรด์ขนาด 278 โวลต์สี่ตัวที่ติดตั้งอยู่ใต้ท้องรถ รถไฟฟ้านิวตันแต่ละคันจะใช้เวลาในการชาร์จตั้งแต่แบตเตอรี่เปล่าจนเต็มเป็นเวลาแปดชั่วโมง โดยใช้ไฟฟ้ามาตรฐานอุตสาหกรรมแบบสามเฟสที่ใช้สำหรับสถานประกอบธุรกิจโดยทั่วไป นอกจากนั้น นิวตันยังมีคุณสมบัติเสริมที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม อาทิเช่น ชิ้นส่วนตัวถังรถยนต์ที่มีน้ำหนักเบาเป็นพิเศษและรีไซเคิลได้ทั้งหมดที่ผลิตโดยออมเนียซึ่งช่วยลดน้ำหนักรถลงและเพิ่มความสามารถในการบรรทุกขึ้นเป็น 4,000 กิโลกรัม

นวัตกรรมใหม่นี้ช่วยเสริมสร้างความแข็งแกร่งของทีเอ็นทีมากยิ่งขึ้นในตำแหน่งผู้นำของ ‘Green League’ ลีกสีเขียวของวงการการขนส่ง ในปี 2007 นอกจากนั้น ทีเอ็นทีเป็นผู้นำของดัชนีความยั่งยืนของดาวโจนส์ (Dow Jones Sustainability Index) ด้วยคะแนน 91 จากคะแนนเต็ม 100 ซึ่งเป็นคะแนนสูงสุดที่บริษัทในตลาดหลักทรัพย์ดาวโจนส์เคยทำได้ และทีเอ็นทียังได้ทดลองรถยนต์ที่ใช้พลังงานหมุนเวียนเชื้อเพลิงชีวภาพไบโอแก๊ส หรือไฮโดรเจนในหลายประเทศ เช่นอินเดีย เนเธอร์แลนด์ และเยอรมนี

ในปีที่ผ่านมา ทีเอ็นทีได้เปิดตัวโครงการสิ่งแวดล้อมโลก ‘Planet me’ โดยได้พยายามที่จะแสดงให้เห็นถึงข้อมูลการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ของบริษัทฯ การลดการปล่อยคาร์บอนไดออกไซด์จากการปฏิบัติงาน และร่วมกับพนักงานของบริษัทจำนวน 161,500 คน รวมทั้งครอบครัวและเพื่อนของพนักงาน ผู้รับเหมาและผู้จัดหาสินค้าในการลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ทั้งในที่ทำงานและที่บ้าน

ข้อมูลเกี่ยวกับทีเอ็นที

ทีเอ็นที เป็นผู้ให้บริการด้านการจัดส่งไปรษณีย์และพัสดุด่วนให้แก่กลุ่มลูกค้าธุรกิจ และลูกค้าทั่วไปชั้นนำระดับโลก โดยมีสำนักงานใหญ่ตั้งอยู่ในประเทศเนเธอร์แลนด์ นอกจากนี้ ทีเอ็นทียังมีเครือข่ายโครงสร้างพื้นฐานที่มีประสิทธิภาพในยุโรป และเอเชีย และกำลังขยายการปฏิบัติงานไปยังทั่วโลกเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพของเครือข่ายต่างๆ ทีเอ็นที เปิดให้บริการอยู่ในกว่า 200 ประเทศทั่วโลก และมีพนักงานกว่า 161,500 คนปฏิบัติงานอยู่ทั่วโลก ในปี 2550 ทีเอ็นที รายงานยอดรายรับที่ 1.1 พันล้านยูโร และเงินรายรับจากปฏิบัติการที่ 1,192 ล้านยูโร ทีเอ็นที เอ็น วี จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ของอัมสเตอร์ดัมส์ นอกจากนั้น ทีเอ็นทียังเป็นองค์กรที่ให้ความสำคัญกับโครงการเพื่อสังคมต่างๆ โดยได้เข้าร่วมเป็นพันธมิตรกับโครงการอาหารโลก และโครงการเพื่อสิ่งแวดล้อมแห่งสหประชาชาติ เพื่อต่อต้านความหิวโหยของผู้ยากไร้และมลพิษต่างๆ ที่เกิดขึ้นในโลก

เยี่ยมชมเว็ปไซต์สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ http://group.tnt.com