MJD ไม่หวั่นวิกฤติการเงินสหรัฐฯ-ยุโรปลาม มั่นใจยอดขายโครงการเดินหน้าตามเป้า

ผู้บริหาร MJD ย้ำวิกฤติสถาบันการเงินสหรัฐฯและยุโรป ไม่กระเทือนธุรกิจ เชื่อความต้องการคอนโดมิเนียมระดับบนยังมีโอกาสเติบโตต่อเนื่อง หลังยอดจองยังเติบโต เผย “วอเตอร์มาร์ค เจ้าพระยาริเวอร์” เริ่มทยอยโอน มั่นใจรายได้ทั้งปีเป็นไปตามเป้า ขณะที่หุ้น MJD เริ่มมีสภาพคล่องมากขึ้น หลังจากโบรกเกอร์หลายค่าย ออกบทวิเคราะห์หุ้นพื้นฐานแข็งแกร่ง เชื่อผลประกอบการดี ปันผลสูง ด้านบทวิเคราะห์ บล.บัวหลวง ระบุ MJD เติบโตก้าวกระโดด ชี้ราคาเหมาะสม 4.50 บาท

นายสุริยน พูลวรลักษณ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เมเจอร์ ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) หรือ MJD ผู้ประกอบการธุรกิจพัฒนาโครงการที่อยู่อาศัยประเภทคอนโดมิเนียมระดับไฮเอนด์ เปิดเผยว่า ในช่วงที่ผ่านมา แม้จะเกิดเหตุการณ์ความผันผวนของภาวะวิกฤติการเงินสหรัฐฯ และยุโรป รวมทั้งภาวะเศรษฐกิจในประเทศที่ชะลอตัว และปัจจัยทางการเมืองที่ร้อนแรงขึ้น แต่ก็ไม่ได้ส่งผลกระทบกับการดำเนินงานของบริษัทฯ เพราะว่าโครงการของ MJD เป็นสินค้าระดับไฮเอนด์ ซึ่งมุ่งขายให้กับลูกค้าที่มีกำลังซื้อมาก ขณะที่ MJD ยังมีโครงการที่มีโอกาสเติบโตได้อีก และสามารถรักษายอดขายไว้ได้อย่างต่อเนื่อง

“สำหรับในปีนี้ โครงการวอเตอร์มาร์ค เจ้าพระยาริเวอร์ ถือเป็นโครงการไฮไลท์ของเรา เพราะมีมูลค่ามากถึง 5,700 ล้านบาท และเริ่มมีการโอนโครงการได้ภายในปีนี้ ซึ่งจะทำให้รายได้เป็นไปตามเป้าที่ตั้งไว้ ขณะเดียวกันในส่วนของโครงการอื่นๆ ที่เพิ่งเปิดตัว ก็มียอดจองซื้อเข้ามาตลอด มีลูกค้าทั้งในประเทศและต่างประเทศ โดยเฉพาะโครงการ มาราเกช หัวหิน เรสซิเดนเซส และ โครงการรีเฟล็คชัน จอมเทียนบีช พัทยา ที่เป็นโครงการบริเวณติดชายหาดที่ถือว่าเป็นผืนที่ดินแปลงงามที่สุด เหมาะสมเป็นอย่างยิ่งสำหรับนักท่องเที่ยวและนักลงทุน ในกลุ่มระดับ AAA+ (ทริปเปิลเอพลัส) อย่างแท้จริง ขณะที่โครงการ ร๊อยซ์ ไพรเวท เรซิเดนชิซ สุขุมวิท31 ก็มีความโดดเด่นด้วยทำเลย่านศูนย์กลางธุรกิจสำคัญ (Central Business District) ใจกลางกรุงเทพฯ ซึ่งเจาะกลุ่มลูกค้าระดับสุดยอดไฮเอนด์ขนานแท้” นายสุริยน กล่าว

ทั้งนี้ จากการสำรวจพบว่า ความต้องการคอนโดมิเนียมระดับเกรดเอ ที่มีราคาสูงกว่า 5 ล้านบาทขึ้นไป ยังมีความต้องการอยู่มาก เมื่อเทียบกับคอนโดมิเนียมระดับกลาง โดยเฉพาะในพื้นที่ที่เป็นศูนย์กลางธุรกิจ ซึ่งทุกโครงการของ MJD ตั้งอยู่ในทำเลที่มีความต้องการสูงทั้งสิ้นและใกล้เส้นทางรถไฟฟ้าทั้งบีทีเอสและรถไฟฟ้าใต้ดิน

“ถึงแม้ในปัจจุบันจะมีโครงการคอนโดมิเนียมในระดับไฮเอนด์มากมาย ในย่านธุรกิจใจกลางกรุงเทพฯ แต่ว่าโดยส่วนใหญ่แล้ว โครงการต่างๆ ยังไม่สามารถเติมเต็มความต้องการของลูกค้าได้อย่างร้อยเปอร์เซ็นต์ โดยเฉพาะอย่างในเรื่องของความเป็นส่วนตัวที่ควบคู่ไปกับความหรูหราท่ามกลางความวุ่นวายในเมืองใหญ่ เราจึงเห็นช่องว่างทางตลาดด้านอสังหาริมทรัพย์ในเรื่องของความเป็น luxury และความเป็นส่วนตัวอย่างแท้จริง ซึ่งเราเชื่อว่าเราสามารถนำเสนอจุดเด่นในเรื่องนี้ และตอบสนองความต้องการของลูกค้าระดับAAA+ ได้เป็นอย่างดี” นายสุริยน กล่าวเพิ่มเติม

ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร MJD ยังให้ความเห็นเกี่ยวกับซื้อขายหุ้น MJD ในตลาดหลักทรัพย์ฯ ว่า เริ่มมีนักลงทุนสนใจซื้อขายมากขึ้น ดูได้จากมูลค่าการซื้อขายที่เพิ่มขึ้นในแต่ละวัน โดยส่วนตัวคิดว่าน่าจะมีผลมาจากการที่มีบทวิเคราะห์จากหลายๆ ค่าย ได้ให้ความสนใจวิเคราะห์หุ้น MJD มากขึ้น โดยส่วนใหญ่มองว่าความต้องการคอนโดฯ หรูยังมีอีกมาก ทำให้ราคาขายคอนโดฯ ของ MJD มีโอกาสปรับขึ้นได้อีก

ทางด้านบริษัทหลักทรัพย์ (บล.) บัวหลวง จำกัด (มหาชน) ได้จัดทำและเผยแพร่บทวิเคราะห์หุ้น MJD โดยระบุว่า ในปีนี้ MJD จะมีกำไรเติบโตอย่างก้าวกระโดด และปี 52 จะเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยคาดว่ายังมียอดขายที่รอรับรู้รายได้ (Backlog) ประมาณ 5,541 ล้านบาท ซึ่งในปี 51 บริษัทคาดว่าจะรับรู้รายได้ราว 3,000 ล้านบาท ที่เหลือรับรู้ในปี 52 ในส่วนราคาหุ้น MJD ในปัจจุบัน ซื้อขายกันที่อัตราส่วนราคาต่อกำไรต่อหุ้น (P/E) เพียง 3.2 เท่า และ 2.8 เท่าของกำไรต่อหุ้น ในปี 51-52 ตามลำดับและที่ราคาต่อมูลค่าตามบัญชี (P/BV) ที่ 0.6 เท่า และ 0.7 เท่า ของ Book value ซึ่งเป็นจุดต่ำสุดใหม่ทั้ง P/E และ P/BV

ทั้งนี้ (บล.) บัวหลวง ได้วิเคราะห์จากปัจจัยทั้งยอดขายและผลประกอบการที่มีแนวโน้มเติบโตอย่างแข็งแกร่ง จึงประเมินราคาที่เหมาะสมของ MJD ที่ P/E 5 เท่า เพื่อสะท้อนถึงปัจจัยบวกข้างต้นของ MJD ซึ่งได้ราคาเหมาะสมในปี 52 ที่ 4.50 บาท คิดเป็น P/BV ที่ 1.2 เท่า และปันผลปี 51-52 ที่ 11-12% จึงแนะนำให้ “ซื้อ”

บริษัท เมเจอร์ ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) หรือ MJD เป็นบริษัทอสังหาริมทรัพย์ของคนไทยที่มุ่งเน้นพัฒนาที่ดินเพื่อการอยู่อาศัย ประเภทคอนโดมิเนียมระดับไฮเอนด์ โดยเน้นพัฒนาโครงการที่มีจุดขายที่แตกต่างและชัดเจน มุ่งเน้นการนำเสนอนวัตกรรมและแนวคิดใหม่ๆ ในการเพิ่มคุณค่าของโครงการ เพื่อประโยชน์สูงสุดกับผู้พักอาศัย และได้รับการตอบรับที่ดีจากกลุ่มลูกค้าระดับบนเสมอมา โดยยังคงเน้นที่คุณภาพระดับพรีเมี่ยมที่เป็นจุดเด่นและความเป็นมืออาชีพของเมเจอร์ ดีเวลลอปเม้นท์