เอชพีเปิดมุมมองใหม่ทางธุรกิจให้แก่ซีอีโอเกี่ยวกับเวอร์ช่วลไลเซชั่น

เอชพีประกาศเปิดตัวผลิตภัณฑ์ บริการ และโซลูชั่นที่ออกแบบมาเป็นพิเศษเพื่อการแปลงสภาพสู่ระบบเวอร์ช่วลไลเซชั่น ซึ่งจะช่วยเพิ่มผลลัพธ์ทางธุรกิจให้ดียิ่งขึ้น

จากผลสำรวจล่าสุดที่จัดทำขึ้นทั่วโลกในนามของเอชพี เปิดเผยว่าในขณะที่ร้อยละ 86 ของผู้มีอำนาจตัดสินใจด้านเทคโนโลยีได้เริ่มดำเนินการโครงการเวอร์ช่วลไลเซชั่นแล้ว แต่ผู้ตอบแบบสอบถามส่วนใหญ่คาดว่า ภายในปี 2553 สภาพแวดล้อมทางเทคโนโลยีของพวกเขาจะมีการทำเวอร์ช่วลไลเซชั่นเพียงร้อยละ 25 เท่านั้น

ในขณะที่ผู้ตอบแบบสอบถามจำนวนมากคาดการณ์ว่าในที่สุดแล้วจะมีการทำเวอร์ช่วลไลเซชั่นสูงถึงร้อยละ 75 ของสภาพแวดล้อมทางไอทีทั้งหมดของพวกเขา หากแต่มีเพียงหนึ่งในสามของผู้ใช้งานเทคโนโลยีที่ให้ความสำคัญกับเวอร์ช่วลไลเซชั่นในฐานะที่เป็นเครื่องมือทางธุรกิจที่มีคุณค่า ส่วนสองในสามของผู้ใช้งานลดบทบาทของเวอร์ช่วลไลเซชั่นเหลือเพียงเครื่องมือทางเทคโนโลยีเท่านั้น
มร. อัฟนีช ซาซีนา นักวิเคราะห์จาก IDC กล่าวว่า “เทคโนโลยีเวอร์ช่วลไลเซชั่นได้รับการยอมรับอย่างมากในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก ซึ่งเป็นการเพิ่มโอกาสให้บริษัทต่างๆ ได้ใช้ประโยชน์สูงสุดจากแอพพลิเคชั่น การบริการทางธุรกิจ และโครงสร้างพื้นฐานด้านกายภาพ เพื่อให้เกิดผลตอบแทนสูงสุดจากการลงทุนด้านเทคโนโลยีเวอร์ช่วลไลเซชั่น นอกจากนี้แล้ว เพื่อให้สามารถเห็นถึงผลประโยชน์ทางธุรกิจที่ได้รับ อาทิ ความมีประสิทธิภาพด้านการปฏิบัติงานที่เพิ่มขึ้น บริษัทจำเป็นจะต้องให้ความสำคัญต่อการบริหารจัดการสภาพแวดล้อมทั้งแบบกายภาพและเวอร์ช่วล และการรวมสภาพแวดล้อมแบบเวอร์ช่วลให้เป็นหนึ่งเดียวของทั้งเครื่องเซิร์ฟเวอร์ ระบบจัดเก็บข้อมูล ไอโอ (I/O) และสภาพแวดล้อมทางไอทีของลูกค้า”

แนวทางการทำเวอร์ช่วลไลเซชั่นของเอชพีอยู่ที่การมุ่งมั่นที่จะกำจัดตัวการขัดขวางเทคโนโลยีที่จะทำให้ผลการทำงานของระบบเวอร์ช่วลไลเซชั่นที่มีต่อธุรกิจลดลง โดยมีจุดเด่นอยู่ที่แอพพลิเคชั่นและการบริการทางธุรกิจสามารถทำงานได้ดีไม่ว่าจะมีระบบหลัก เครือข่าย หรือการบริหารจัดการอยู่ที่ไหนและอย่างไร แนวทางนี้จะช่วยให้ลูกค้าสามารถบริหารจัดการได้ครอบคลุมในโลกที่ผสานทั้งด้านกายภาพและเวอร์ช่วลได้อย่างง่ายดายกว่าที่เคยเป็น และช่วยจัดการปัญหาเกี่ยวกับการรวมกลุ่มทรัพยากรด้านโครงสร้างพื้นฐานของทั้งองค์กร

เอชพีนำเสนอเทคโนโลยีใหม่ซึ่งรองรับความต้องการทางธุรกิจ ครอบคลุมตั้งแต่เดสก์ท็อปไปจนถึงศูนย์ข้อมูล โดยมุ่งเน้นที่จะช่วยลูกค้าลดค่าใช้จ่ายในการปฏิบัติงาน ลดความเสี่ยงจากสภาพแวดล้อมที่ต่างกัน และทำให้พนักงานมีเวลาเพิ่มขึ้นสำหรับการนำเสนอบริการทางธุรกิจใหม่ๆ โดยเทคโนโลยีนี้ได้ถูกออกแบบขึ้นภายใต้กรอบที่เฉพาะเจาะจง 3 ส่วน ได้แก่ การบริหารจัดการการปฏิบัติงานและแอพพลิเคชั่น การเอาชนะอุปสรรคด้านโครงสร้างพื้นฐาน และการใช้งานสถาปัตยกรรมของลูกค้าและบริการช่วยเหลือต่างๆ ให้เกิดประโยชน์สูงสุด

มร. โทนี่ พาร์คินสัน รองประธาน กลุ่มผลิตภัณฑ์สตอเรจและเซิร์ฟเวอร์สำหรับองค์กรขนาดใหญ่ ฮิวเลตต์-แพคการ์ด ประจำภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกและญี่ปุ่น กล่าวว่า “การทำเวอร์ช่วลไลเซชั่นเป็นก้าวที่สำคัญในการแปลงสภาพไอที การทำอย่างถูกต้องย่อมหมายถึงความสำเร็จในการบริหารจัดการและการดำเนินงานสภาพแวดล้อมที่ผสานทั้งแบบเวอร์ช่วลและกายภาพได้อย่างอัตโนมัติ เอชพีขอนำเสนอพอร์ทโฟลิโอที่ครอบคลุมที่สุดในวงการไอทีสำหรับสภาพแวดล้อมแบบเวอร์ช่วล ซึ่งประกอบด้วยการบริหารจัดการการปฏิบัติงานและแอพพลิเคชั่น โครงสร้างพื้นฐานและสถาปัตยกรรมของลูกค้า รวมถึงบริการช่วยเหลือต่างๆ ”

การบริหารจัดการการปฏิบัติงานและแอพพลิเคชั่น
โซลูชั่น Business Service Management (BSM) และ IT Service Management (ITSM) ของ เอชพีได้รับการยกระดับด้วยระบบตรวจสอบเทคโนโลยีเวอร์ช่วลไลเซชั่นแบบใหม่ และยังรองรับความสามารถในการเชื่อมโยงบริการทางธุรกิจเข้ากับทรัพยากรทั้งแบบกายภาพและแบบ เวอร์ช่วลได้อย่างไร้ที่ติซึ่งช่วยในการรับส่งและบริหารจัดการ ผลที่ตามมาคือการติดตั้งที่รวดเร็วขึ้น การประหยัดค่าใช้จ่าย และการแก้ปัญหาที่รวดเร็วยิ่งขึ้น

• HP Operations Agent, HP Performance Agent และ HP SiteScope ได้รับการยกระดับในด้านความสามารถในการบริหารจัดการเทคโนโลยีการใช้ระบบปฏิบัติการ 2 ตัวบนระบบคอมพิวเตอร์เดียวกัน (hypervisor) รวมถึงความสามารถในการรวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับการบริหารจัดการให้ปฏิบัติตามกำหนดการอย่างอัตโนมัติ การตรวจสอบความพร้อมใช้งาน และการบริหารจัดการกระบวนการต่างๆ ครอบคลุมทั้งโครงสร้างพื้นฐานที่มีความแตกต่างกัน

• HP Network Node Manager i-series ได้รับการพัฒนาให้สามารถตรวจสอบการทำงานและความพร้อมใช้งานของเครือข่ายที่รองรับสภาพแวดล้อมแบบเวอร์ช่วลที่มีการเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา โซลูชั่นนี้ทำให้ลูกค้าสามารถวางแผนล่วงหน้าและตรวจสอบประสิทธิภาพของเครือข่ายได้อย่างมั่นใจ

• HP Asset Manager รุ่นใหม่นี้ช่วยเลือกและบริหารจัดการทรัพย์สินในระบบปฏิบัติการแบบ เวอร์ช่วลและใบอนุญาติต่างๆ (license) ซึ่งช่วยให้ลูกค้าเสียค่าใช้จ่ายเฉพาะใบอนุญาติที่ต้องการใช้เท่านั้น

• Red Hat ด้วยข้อตกลงด้านการพัฒนากลยุทธ์ใหม่กับ Red Hat จะช่วยเพิ่มความง่ายดายในการตรวจสอบและบริหารจัดการสภาพแวดล้อมแบบเวอร์ช่วล

• HP Virtualization Support Services ที่ได้รับการยกระดับใหม่ล่าสุดช่วยให้การโอนถ่ายระบบไปสู่ระบบเวอร์ช่วลไลเซชั่นเป็นไปอย่างราบรื่น และช่วยให้การบริหารจัดการที่ดำเนินอยู่เป็นไปอย่างเรียบร้อย พร้อมทั้งลดความเสี่ยงในการเกิดดาวน์ไทม์แบบไม่ทันตั้งตัว

การเอาชนะอุปสรรคด้านโครงสร้างพื้นฐาน
เพื่อขจัดอุปสรรคด้านโครงสร้างพื้นฐานในขณะที่โครงสร้างนั้นยังไม่ได้ใช้ประโยชน์จากระบบ เวอร์ช่วลไลเซชั่นอย่างเต็มที่ เอชพีจึงออกแบบเทคโนโลยีใหม่มาเพื่อช่วยประหยัดค่าใช้จ่าย ลดความเสี่ยงในการเกิดดาวน์ไทม์ และทำให้พนักงานมีเวลาเพิ่มขึ้นเพื่อผลักดันบริการทางธุรกิจเพิ่มเติมซึ่งส่งผลให้ธุรกิจมีการเติบโต

• HP ProLiant BL495c เบลดสำหรับระบบเวอร์ช่วลไลเซชั่น เป็นเบลดเซิร์ฟเวอร์เครื่องแรกของโลกที่ออกแบบมาเพื่อโฮสต์ระบบการทำงานแบบเวอร์ช่วลโดยเฉพาะ เซิร์ฟเวอร์ HP ProLiant BL495c ช่วยขจัดปัญหาความแออัดในการทำงานของระบบเวอร์ช่วลไลเซชั่นที่เกิดขึ้นในหน่วยความจำ การจัดเก็บข้อมูล และการเชื่อมต่อเครือข่ายได้เป็นอย่างดี

• HP StorageWorks 4400 Scalable NAS File Services คือการผสมผสานระหว่าง HP StorageWorks 4400 Enterprise Virtual Array, ไฟล์เซิร์ฟเวอร์, ซอฟต์แวร์สำหรับการบริหารจัดการ และระบบวินโดว์ส? หรือลินุกซ์ ซึ่งสนับสนุนการทำเวอร์ช่วลไลเซชั่นเพื่อเชื่อมต่อระหว่างเซิร์ฟเวอร์และอุปกรณ์จัดเก็บข้อมูล โซลูชั่นนี้ช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายในการบำรุงรักษา และลดความเสี่ยงด้านการสูญหายของข้อมูลด้วยซอฟต์แวร์ด้านการลอกเลียนข้อมูล (replication software) ที่ลํ้าหน้ามากขึ้น

• HP-UX 11i V3 และ HP Virtual Server Environment พัฒนาขึ้นเพื่อให้เหมาะสำหรับระบบเวอร์ช่วลไลเซชั่นแบบ mission-critical ด้วยประสิทธิภาพการทำงานที่ดีขึ้นอย่างชัดเจน, มีความสามารถในการปรับความเหมาะสมได้โดยอัตโนมัติ, ให้การปกป้องที่ดีขึ้น และสามารถบริหารจัดการได้ง่ายยิ่งขึ้น

• HP Virtualization Accelerator Services เป็นบริการใหม่เกี่ยวกับการให้คำปรึกษาเพื่อการวางแผน ออกแบบ และการเริ่มต้นใช้งานโครงการเวอร์ช่วลไลเซชั่น ซึ่งช่วยทำให้ได้รับผลตอบแทนจากการลงทุนได้เร็วยิ่งขึ้น

สถาปัตยกรรมของลูกค้า
องค์กรธุรกิจสามารถนำการทำเวอร์ช่วลไลเซชั่นสำหรับลูกค้ามาใช้เพื่อสร้างความไว้วางใจ การรักษาความปลอดภัย และปรับปรุงการบริหารจัดการการประมวลผลให้ดียิ่งขึ้น โดยจะช่วยลดค่าใช้จ่ายในการบริหารจัดการและการบริการลูกค้า แต่ในขณะเดียวกันก็ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานมากยิ่งขึ้น

• HP Compaq t5630, t5545, t5540 และ t5145 thin clients รุ่นใหม่ มีคุณสมบัติพิเศษที่ทนต่อการขีดข่วนด้วย HP DuraFinish และเพิ่มคุณสมบัติด้านมัลติมีเดียมากขึ้น มีความสามารถในการเป็นตัวกลาง (broker) ที่ได้รับการพัฒนาเพิ่มขึ้น และมีการทำงานที่ดียิ่งขึ้น รวมถึงให้การสนับสนุนด้านการบริหารจัดการที่ดียิ่งขึ้น

• HP ProLiant xw460c Blade Workstation มาพร้อมกับ Graphics Expansion Blade ที่รองรับความสามารถในการทำกราฟฟิคที่ครบถ้วนด้วย NVIDIA Quadro FX graphics รุ่นล่าสุด ผลิตภัณฑ์นี้ช่วยเพิ่มการรักษาความปลอดภัยให้สูงขึ้น และยังทำให้การบริหารจัดการการประมวลผลของเวิร์คสเตชั่นในศูนย์ข้อมูลสำหรับธุรกิจการเงิน ภาครัฐ กลุ่มงานออกแบบเครื่องจักรกลด้วยคอมพิวเตอร์ (MCAD) และธุรกิจเกี่ยวกับนํ้ามันและเชื้อเพลิง สามารถทำได้ง่ายขึ้น

• HP Virtual Desktop Infrastructure (VDI) เป็นโซลูชั่นที่ได้รับการยกระดับด้วยการเพิ่มบริการการวางแผนงานแบบใหม่, โปรแกรม quick-start และบริการเกี่ยวกับการเริ่มต้นใช้งาน บริการเหล่านี้จะเลือก VDI ที่ตรงกับความต้องการและเชื่อมโยงกับผลประโยชน์ทางธุรกิจ ทำให้ลูกค้าสามารถเลือกใช้โซลูชั่นที่เหมาะสมได้ พร้อมกันนี้ เอชพีได้เปิดตัวบริการ HP VDI รุ่นใหม่ที่รองรับ Citrix XenDesktop ซึ่งได้รับการออกแบบมาเพื่อให้บริการความช่วยเหลือสำหรับการใช้งานในระดับเริ่มต้นหรือระดับเล็กไปจนถึงเดสก์ท็อปสำหรับองค์กรขนาดใหญ่

• Citrix-ready blade PCs และอุปกรณ์ thin client ซึ่งได้รับการรับรองสำหรับใช้ภายในสภาพแวดล้อมของ Citrix XenDesktop ผลิตภัณฑ์เหล่านี้จะมอบประสบการณ์การประมวลผลทางไกลแบบ one-to-one แต่ประหยัดค่าใช้จ่ายให้แก่พนักงานที่มีความรู้ที่ต้องการความช่วยเหลือในด้านแอพพลิเคชั่นอย่างครบวงจร และสามารถใช้กราฟฟิคได้อย่างเต็มที่
แหล่งข้อมูลเพิ่มเติม

ข้อมูลเกี่ยวกับเอชพี
เอชพีเป็นบริษัทเทคโนโลยีรายใหญ่ที่สุดของโลกที่นำเสนอผลิตภัณฑ์สำหรับการพิมพ์และคอมพิวเตอร์ส่วนบุคคล รวมถึงบริการทางด้านไอที ซอฟต์แวร์ และโซลูชั่นต่างๆ ซึ่งช่วยให้เกิดประสบการณ์การใช้งานเทคโนโลยีที่สะดวกและง่ายดายสำหรับผู้บริโภคและองค์กรธุรกิจระดับต่างๆ เอชพีดำเนินการเข้าซื้อกิจการของอีดีเอสโดยเสร็จสมบูรณ์ เมื่อวันที่ 26 สิงหาคม 2551 สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับเอชพี (NYSE, Nasdaq: HPQ) สามารถเข้าชมได้ที่ www.hp.com