วัน-ทู-คอล! สุดปลื้มเปิดใจสุดยอดเยาวชนนักการตลาดโครงการ Mission I’m Possible

“รอยยิ้ม หยดน้ำตา ชัยชนะ และความพ่ายแพ้” ถูกหลอมรวมเป็นประสบการณ์ที่มีค่ายิ่งสำหรับทีมเยาวชนนักศึกษาผู้ผ่านเวทีตัดสิน โครงการประกวดแผนการตลาด “Mission I’m Possible”…นอกจากประสบการณ์จริงในโลกธุรกิจแล้ว พวกเขายังร่วมกันคว้าเงินรางวัลกว่า 500,000 บาท พร้อมถ้วยเกียรติยศ และความภูมิใจไปกลับไปจนเต็มล้นกระเป๋า”

โดยโครงการประกวดแผนการตลาด “Mission I’m Possible” ที่ วัน-ทู-คอล! และ นิตยสาร BrandAge ร่วมกันจัดขึ้น ได้มีนักศึกษามากกว่า 400 ทีมจากทั่วประเทศสมัครเข้าแข่งขัน และผ่านการคัดเลือกเข้มข้นจนเหลือ 10 ทีมสุดท้ายที่ผ่านเข้ารอบตัดเชือก

“The Golden dome” คือ ทีมผู้ชนะเลิศ จากมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ที่มาพร้อมกับแผนการตลาดชื่อว่า “Welcome to One-2-Call! Community” พวกเขาได้นำความรู้ที่ได้รับ มาเชื่อมโยงกับข้อมูลภาคสนามจากการเก็บข้อมูลจากผู้บริโภคตัวเป็น ๆ การทำงานกันเป็นทีมและระดมสมองเพื่อวางกลยุทธ์ด้วยการเน้นให้ลูกค้ามีประสบการณ์ร่วมกับ Brand 1-2-call!

โดยนายเจษฎากร กาละพงศ์ ตัวแทนทีม Golden Dome เล่าอย่างดีใจกับชัยชนะว่า “สิ่งที่พวกเราบอกกับตัวเองก็คือ เราจะแข่งกับตัวเอง เพราะเราได้ทำการบ้านอย่างหนักและซ้อมมาเต็มที่แล้ว ฉะนั้น วินาทีนี้คือการนำเสนอสิ่งที่เราคิดว่าดีที่สุด โดยไม่ต้องมองคู่แข่ง” นอกจากนี้ นายเจษฎา ยังบอกด้วยว่า “ประสบการณ์จากการร่วมโครงการ Mission I’m Possible นี้มีค่ามากกว่าความรู้ในตำราเยอะ ทำให้เราเห็นได้ชัดเจนว่า การตลาดไม่ใช่เรื่องที่ไกลตัวอีกต่อไป”

ด้านทีม “Varsity” รองชนะเลิศอันดับ 1 เป็นอีกหนึ่งทีมจากรั้วโดม ที่มีคะแนนตามกันติด ๆ ชนิดหายใจรดต้นคอกับทีมชนะ ได้วางกลยุทธ์ตั้งแต่การแต่งตัวแนวครีเอทีฟสร้างไฮไลท์ให้ทีมด้วย “วิกเขียว” และลีลาการนำเสนอที่เร้าใจ โดยนายสุกฤษ ตันติสุวิทย์กุล ตัวแทนทีม ได้เปิดใจว่า “ การได้มาแข่งขันในโครงการ Mission I’m Possible นี้ ทำให้พวกเราได้เรียนรู้ในสิ่งที่ไม่เคยรู้มาก่อน หากทฤษฎีในห้องเรียนไม่ได้นำมาปฏิบัติ มันดูห่างไกลความจริงมาก แต่โครงการนี้ทำให้โลกของเราเปลี่ยนไป มุมมองกว้างขึ้น ได้เรียนรู้ที่จะนำทฤษฎีมาประยุกต์ใช้ในโลกแห่งความเป็นจริงด้วย” นอกจากนี้ทีม “Varsity” ยังแย้มให้ฟังอีกว่า “ นักการตลาดต้นแบบของผมคือ คุณสรรค์ชัย ครับเพราะท่านเป็นคนที่บุกเบิกตลาดมือถือชนิดเติมเงิน เป็นครั้งแรกในเมืองไทย ซึ่งถือว่ากล้ามาก และประสบความสำเร็จสูงมากทำให้แบรนด์ 1-2-Call! อยู่มาจนปีที่ 10 แล้ว”

ขณะที่ทีม “บุญหล่นทับ” จากมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ วิทยาเขตศรีราชา คว้ารางวัลรองชนะเลิศอันดับ 2 ร่วมกับทีม Synergy จากรั้วแม่โดม โดย นายวสุนธรา วริศริ ตัวแทนทีม บุญหล่นทับ กล่าวอย่างภูมิใจว่า “เราได้เห็นความแตกต่างระหว่าง แผนการตลาดบนกระดาษ กับการลงสนามจริง ซึ่งเป็นเรื่องที่หาไม่ได้ในห้องเรียนแน่นอน โดยเฉพาะตอนที่ต้องทำกิจกรรม On ground activity เพื่อนำไอเดียไปสู่การทำให้เป็นรูปธรรม …รู้เลยว่าประสบการณ์จริงมันยิ่งกว่าสิ่งที่เราคิดเสมอ อย่าให้ความคิดหยุดอยู่แค่ในกระดาษ …อยากชวนเพื่อน ๆ ให้สมัครในปีหน้า อย่าปล่อยให้โอกาสที่จะได้ประสบการณ์ดี ๆ แบบนี้หลุดลอยไป”

ฟากนักการตลาดผู้ร่วมเป็นคณะกรรมการตัดสินในโครงการนี้ แต่ละท่านก็ล้วนฝากข้อคิดคำคมเด็ด ๆ ที่ช่วยจุดประกายความคิดให้กับทีมเยาวชนทั้งหมดที่ได้มาร่วมงานในวันนั้น

“เรียนรู้จากการทำสิ่งที่ไม่สมบูรณ์” เป็นคำคมจากนายสรรค์ชัย เตียวประเสริฐกุล หัวหน้าคณะผู้บริหารด้านการตลาดเอไอเอส ขณะที่ นายปารเมศร์ รัชไชยบุญ ประธาน กิตติมศักดิ์ สมาคมโฆษณาธุรกิจแห่งประเทศไทย ทิ้งข้อคิดว่า “ในโลกแห่งความเป็นจริง นักการตลาดต้องเลือกให้ดีระหว่างแก่น กับกระพี้”

ด้าน นายธนเดช กุลปิติวัน บรรณาธิการบริหาร นิตยสาร BrandAge บอกว่า “นักธุรกิจดัง ๆ บางคนเปิดตัว 10 โครงการเจ๊งหมด มาดังเอาโปรเจคเดียว แล้วก็ดังเลย” และ อาจารย์ไพบูลย์ สำราญภูติ อดีตนายกสมาคมการตลาดแห่งประเทศไทย “ทำโลกของความเป็นจริงกับความฝันให้มันใกล้ ๆ กัน”

อย่างไรก็ตาม ในท้ายที่สุดคณะกรรมการทุกท่านก็ได้ลงความเห็นว่า นี่คืออีกมิติหนึ่งของการสร้างนักการตลาดรุ่นใหม่ที่น่าภาคภูมิใจ เพราะผลงานของทีมเยาวชนแต่ละทีมที่ได้รางวัลไป ถือว่าไม่ธรรมดากันเลย…

โครงการประกวดเขียนแผนการตลาด “Mission I’m Possible ยุทธการรักษาและสร้างฐานลูกค้า” ริเริ่มโดย วัน-ทู-คอล! ร่วมกับนิตยสาร BrandAge เพื่อเปิดเวทีให้นักศึกษาในระดับมหาวิทยาลัยที่สนใจเข้าร่วมเพื่อชิงทุนการศึกษารวมกว่า 500,000 บาท โดยเปิดรับสมัครในเดือนกรกฎาคม 2551 และมีนักศึกษาให้ความสนใจสมัครเข้าร่วมโครงการมากกว่า 400 ทีมจากทั่วประเทศ

ในรอบที่ 2 ได้มีการคัดทีมผู้สมัครเหลือ 30 ทีม เพื่อเข้าแคมป์การตลาดพิเศษภายใต้ชื่อ “One-2-Call! Young Marketing Academic Camp” ซึ่งมีการฝึกอบรมให้ความรู้ในเชิงกลยุทธ์การตลาดโดยมีกูรูด้านการตลาดของเมืองไทยเป็นผู้ให้คำแนะนำอบรม เพื่อให้ทีมนักศึกษาทั้งหมด นำข้อมูลความรู้ไปปรับปรุงแผนการตลาดของทีมก่อนนำลงมือปฏิบัติการภาคสนาม “on ground activity” ลงพื้นวิจัยการตลาดในสภาวะจริงและส่งแผนเข้ามาชิงชัยอีกครั้งเพื่อเข้ารอบ 10 ทีมสุดท้าย

ในรอบชิงชนะเลิศ นักศึกษา 10 ทีมสุดท้าย ได้นำแผนการตลาดของทีมตนเองออกมานำเสนอต่อหน้าคณะกรรมการตัดสิน พร้อมตอบคำถามแบบสด ๆ

สำหรับทีมผู้ชนะ ได้แก่

ทีมชนะเลิศ – ทีม “The Golden Dome” จาก ม.ธรรมศาสตร์ ได้รับทุนการศึกษา 200,000 บาท

รองชนะเลิศอันดับ 1 – ทีม “Varsity” จาก ม.ธรรมศาสตร์ ได้รับทุนการศึกษา 80,000 บาท

รองชนะเลิศอันดับ 2 – ทีม “บุญหล่นทับ” จาก ม.เกษตรศาสตร์ วิทยาเขตศรีราชา และ
ทีม “Synergy” จาก ม. ธรรมศาสตร์ ได้รับทุนการศึกษา ทีมละ 50,000 บาท

รางวัลชมเชย – ทีม KAMP จาก ม.เกษตร บางเขน และ
– ทีม OSP Freedom ม.กรุงเทพ ได้รับทุนการศึกษาทีมละ 10,000 บาท

ทั้งนี้อาจารย์ที่ปรึกษาของทีมผู้ชนะเลิศ 3 อันดับแรก ยังจะได้รับเงินรางวัล 50,000 บาท 30,000 บาท และ 20,000 บาทตามลำดับ และมหาวิทยาลัยที่นักศึกษาชนะ 3 อันดับแรกจะได้รับชุดคอมพิวเตอร์เพื่อการศึกษามูลค่า ชุดละ 40,000 บาท อีกด้วย