ที.ซี.แนลเชอรัล ปรับโฉมผลิตภัณฑ์ “โอเม็กซ์” ออกแพคเกจจิ้งใหม่ รับตลาดอาหารเสริมปี 52 แข่งดุ หลังผู้ประกอบการรายใหม่และรายเก่า แห่เข็นสินค้าใหม่ลงทำตลาด รับเทรนด์รักสุขภาพมาแรงต่อเนื่อง พร้อมเร่งขยายช่องทางขายผ่านทาง บริ๊งค์ซ้อป,บริ๊งค์ คอลเซ็นเตอร์ และ อีคอมเมิร์ซ ออกสินค้าใหม่สู้ศึก มั่นใจปีหน้ายอดขายโต 50%
นายปิยะ กิตติธีรพรชัย ผู้ช่วยผู้อำนวยการฝ่ายการตลาด บริษัท ที.ซี. แนลเชอรัล จำกัด ผู้ผลิตและจำหน่ายผลิตภัณฑ์อาหารเสริมภายใต้แบรนด์ โอเม็กซ์-ทรี เวคกี้ และ บริ๊งค์ เปิดเผยว่า แผนการทำตลาดในช่วง 1 ปี ต่อจากนี้ บริษัทฯจะเน้นปรับปรุงบรรจุภัณฑ์หรือแพคเกจจิ้งผลิตภัณฑ์อาหารเสริมของบริษัทฯ ให้มีความทันสมัย และสื่อให้เป็นสินค้าที่มีความใกล้ชิดกับ
ผู้บริโภคมากขึ้น โดยเริ่มจากผลิตภัณฑ์อาหารเสริมในกลุ่มโอเม็กซ์-ทรี ได้แก่ โอเม็กซ์-ทรี ทูน่าออยล์25 และโอเม็กซ์-ทรี อีมัลชั่น หลังจากที่ได้ทำตลาดมานานกว่า 10 ปี ซึ่งเชื่อว่า การปรับบรรจุภัณฑ์ในครั้งนี้ นอกจากช่วยลดต้นทุนด้านบรรจุภัณฑ์ให้กับบริษัทฯ ได้แล้ว ยังจะช่วยกระตุ้นยอดขายให้เพิ่มขึ้นอีกด้วย พร้อมกันนี้ บริษัทฯ ยังจะได้ออกสินค้าใหม่ในกลุ่มโอเม็กซ์ อีก 6 รายการ ได้แก่ โอเม็กซ์- โค คิวเท็น โอเม็กซ์-จมูกถั่วเหลือง โอเม็กซ์-แอคนิก ซิงค์ โอเม็กซ์-ดีท็อกซ์ โอเม็กซ์ ออร์โท แคลเซียม พลัสดี3 และโอเม็กซ์ ออร์โท แคลเซียม ดี3+ จมูกถั่วเหลือง ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของแผนการแข่งขันสำหรับตลาดผลิตภัณฑ์เสริมอาหารในปี 2552 ที่คาดว่าจะมีการแข่งขันที่รุนแรง โดยเฉพาะตลาดผลิตภัณฑ์เสริมอาหารในกลุ่มความสวยความงาม ที่คาดว่าการแข่งขันจะรุนแรงมากขึ้น เนื่องจากมีผู้ประกอบการรายใหม่และรายเก่าให้ความสนใจออกสินค้าใหม่เข้ามาทำตลาดเพิ่มเติม
ผู้ช่วยผู้อำนวยการฝ่ายการตลาด บริษัท ที.ซี. แนลเชอรัล ยังกล่าวด้วยว่า ในส่วนของบริษัทฯ นั้น หลังจากนี้จะรุกช่องทางขายผ่านทางร้าน บริ๊งค์ช้อป, บริ๊งค์คอลเซ็นเตอร์ อีกหนึ่งเท่าและจะเพิ่มช่องทางการขายผ่านอินเตอร์เน็ตหรืออีคอมเมิร์ซ ซึ่งจะเป็นการขยายกลุ่มลูกค้าที่เป็นกลุ่มคนทำงานและแม่บ้านรุ่นใหม่ เนื่องจากพฤติกรรมของลูกค้าในปัจจุบันนิยมใช้เวลากับการเล่นอินเทอร์เน็ตเพื่อทำงาน หรือหาข้อมูลต่างๆ มากขึ้น จึงมั่นใจว่า ช่องทางขายผ่านอีคอมเมิร์ซ จะสามารถสื่อสารถึงคุณภาพของตัวสินค้าให้ผู้บริโภคได้รับรู้ประโยชน์จากตัวสินค้าและกระตุ้นให้เกิดการสั่งซื้อได้มากขึ้น
นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังมีแผนออกสินค้าใหม่ในรูปแบบเครื่องดื่มเพื่อสุขภาพเข้ามาทำตลาดเพิ่มเติมในช่วงไตรมาสสุดท้ายของปีนี้ และในปีหน้า หลังจากที่ผ่านมาได้ชะลอการทำตลาดไปเนื่องจากปัจจัยลบทางด้านการเมือง โดยรูปแบบของผลิตภัณฑ์จะมีทั้งสินค้าที่เป็นตราสินค้าใหม่ และเป็นการขยายไลน์สินค้าจากตราสินค้าเดิมที่มีอยู่ในตลาดแล้ว ซึ่งคาดว่าจากแผนการทำตลาดในครั้งนี้ จะช่วยผลักดันยอดขายในปี 2552 ให้เติบโตขึ้นกว่า 50% จากปีนี้ที่คาดว่าจะเติบโต 30% โดยกว่า 80% เป็นยอดขายมาจากผลิตภัณฑ์บริ๊งค์ และที่เหลือมาจากผลิตภัณฑ์ในกลุ่มโอเม็กซ์ และ เวคกี้
